'สภา' เอกฉันท์รับหลักการ ร่างกม.ประชามติ 'ก้าวไกล' ส่ง 'ปิยบุตร' ร่วมวง

'สภา' เอกฉันท์รับหลักการ ร่างกม.ประชามติ 'ก้าวไกล' ส่ง 'ปิยบุตร' ร่วมวง

สภาฯ เสียงเอกฉันท์ รับหลักการร่างกม.ประชามติ 451 เสียง "ก้าวไกล" ส่ง "ปิยบุตร" ร่วมเป็นกมธ. ด้าน "พริษฐ์" จ่อเสนอญัตติถกคำถามประชามติแก้รธน.ต่อสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ถึงการประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่แก้ไขเพิ่มเติมในหลักการสำคัญ คือ ว่าด้วยเกณฑ์ผ่านประชามติที่ลดจากเสียงข้างมากสองชั้น เป็นเกณฑ์เสียงข้างมากชั้นเดียว

โดยมีสส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง เพื่อสนับสนุนการแก้ไขดังกล่าว ที่มีผู้เสนอต่อสภาฯ รวม4ฉบับ คือฉบับของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ฉบับของพรรคเพื่อไทย ฉบับของพรรคก้าวไกล ฉบับของพรรคภูมิใจไทย พร้อมกับเสนอแนะความเห็นที่สำคัญ คือ การแก้ไขกฎหมายเพื่อนำไปสู่การปลดล็อกเงื่อนไขที่ทำให้ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้โดยง่าย นอกจากนั้นยังอภิปรายถึงการตั้งคำถามประชามติที่รัฐบาลกำหนดโดยมีเงื่อนไข ไม่ให้แก้ไขหมวด1 และหมวด2 ว่า เป็นประเด็นที่ควรทบทวน เพื่อให้เกิดคำถามประชามติที่เข้าใจง่ายและประชาชนไม่สับสน โดยควรเป็นคำถามเพียงชั้นเดียว ไม่มีลักษณะเป็นคำถามพ่วง เป็นต้น

ทั้งนี้ในส่วนของการอภิปรายสรุปนั้น  นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายสรุปว่า การแก้ไขเกียวกับการใช้เสียงผ่านประชามติ ควรใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับเห็นชอบรัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้นพรรคเพื่อไทยเสนอตรงไปตรงมา ในกรณีเสียงข้างมากสองชั้นเป็นกติกาที่ผู้ไม่เห็นด้วยรวมกับผู้ไม่มาออกเสียงลงคะแนนเป็นเสียงข้างมากและชนะผู้ที่ลงคะแนนเห็นชอบ ทั้งนี้สอดคล้องกับฉบับของรัฐบาล และไม่ต่างจากพรรคก้าวไกล นอกจากนั้นยังแก้ไขเกี่ยวกับการรณรงค์เรื่องที่ออกเสียงให้ฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบิดเบือนที่นำไปสู่การลงประชามติในเรื่องใดๆ เพราะเข้าใจผิด

“เป็นความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ต่อการแก้มาตรา 256 ของรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อให้เกิดสภาร่างรัฐธรรมนูญ  และไม่ให้พ.ร.บ.ประชามติขัดขวางการแก้ไข ดังนั้นด้วยหลักเกณฑ์ที่ตรงไปตรงมาคือ รัฐธรรมนูญฉบับแม่ทำประชามติด้วยหลักเกณฑ์อย่างไร ประชามติที่เกิดขึ้นโดยกฎหมายประชามติ ต้องเป็นไปหลักเกณฑ์เดียวกัน การแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ทำให้การแก้รัฐธรรมนุญไม่ถูกยับยั้งหรือขัดขวาง แต่หากไม่แก้ไขให้ถูกต้อง การทำประชามติที่เกิดขึ้น อาจทำให้ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อีกยาวนาน เพราะจะสรุปว่าประชาชนทั่วประเทศไม่เห็นด้วย” นายจาตุรนต์ อภิปราย

ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายสรุปว่า ในการอภิปรายยของ สส. พบว่ามีการตั้งคำถามถึงการออกแบบคำถามประชามติ ซึ่งไม่เกี่ยวและอยู่ในเนื้อหาของร่างแก้ไขพ.ร.บ.ประชามติ ดังนั้นพรรคก้าวไกลจะรวบรวมสส. เพื่อเสนอญัตติเพื่อถกเถียงถึงข้อเสนอคำถามประชามติเพื่อให้เป็นเวทีที่นำไปสู่การตั้งคำถามที่เหมาะสม หลังจากที่  พ.ร.บ.ประชามติฉบับแก้ไขแล้วเสร็จ

หลังจากที่ที่ประชุมอภิปรายแล้วเสร็จ ซึ่งใช้เวลา เกือบ 5 ชั่วโมง ได้ลงมติรับหลักการวาระแรก ด้วยเสียงเห็นชอบเอกฉันท์ 451 เสียง งดออกเสียง 1 คน จากนั้นได้เสนอตั้งกมธ. 31 คน ทั้งนี้ในการเสนอชื่อบุคคลเป็น กมธ.วิสามัญ นั้น พบว่า พรรคก้าวไกล เสนอได้ 7 คน​โดยหนึ่งในนั้น พบชื่อของนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ขณะที่สัดส่วนของครม. ได้ส่ง นายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย

ขณะที่นางมนพร เจริญศรี รมช. คมนาคม เป็นตัวแทนของรัฐบาลกล่าวขอบคุณสภาฯ ที่รับหลักการ และเชื่อว่าจะสร้างระบอบประชาธิปไตยไทยมั่นคงและเข้มแข็ง