เอฟเฟกต์ศาลรธน.ถอด‘รหัส3ล้ม’ การเมืองขยับฉาก-หมากลับสว.

เอฟเฟกต์ศาลรธน.ถอด‘รหัส3ล้ม’  การเมืองขยับฉาก-หมากลับสว.

การเมืองขยับฉากไขรหัส “3ล้ม” ฮั้วสว.จุดเสี่ยง จับตา "คดียุบพรรคก้าวไกล-เศรษฐา" เกมเดิมพันขั้วอำนาจ

KEY

POINTS

  • สถานการณ์การเมืองที่กำลังมีความสับสนอลหม่าน สัญญาณไฟเขียวจากศาลรัฐธรรมนูญ เอาเข้าจริงอาจเป็นเพียงการผ่าน “เขาวงกต” ด่านแรก
  • หากกลุ่มคนที่ “สูญเสียอำนาจ”จะเล่นบทเดินเกม “ล้มกระดาน” เลือกสว.จริง หลักใหญ่ใจความของเกมล้มกระดานอาจไม่ได้อยู่ที่การยื่นตีความ “4มาตรา” เพียงเท่านั้น 
  • จับสัญาณ "นักล่าตั๋วสว." เกมฮั้วจุดเสี่ยงล้มกระดาน
  • จับตา "คดียุบพรรคก้าวไกล-เศรษฐา" ไขรหัส "3ล้ม"

การเมืองขยับฉาก! ไขรหัสทฤษฎี “3ล้ม”  หลังศาลรัฐธรรมนูญมีการพิจารณา3คดีสำคัญ เมื่อวันที่18มิ.ย. 

หนึ่งคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำ “วินิจฉัยชี้ขาด” นั่นคือ “4มาตรา” ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 หรือ “กฎหมายเลือกสว.”  ประกอบด้วย มาตรา 36 มาตรา 40 วรรคหนึ่ง (3) มาตรา 41 วรรคหนึ่ง (3) และมาตรา 42 วรรคหนึ่ง (3) 

ศาลวินิจฉัยว่า “ไม่ขัดหรือแย้ง” ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107

เช่นนี้ย่อมเป็นการเปิดทางให้กระบวนการ“เลือกไขว้สว.”ในระดับประเทศซึ่งจะเป็นด่านสุดท้าย ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่26มิ.ย.นี้ สามารถดำเนินต่อได้โดยสะดวกโยธิน

จริงอยู่สัญญาณไฟเขียวจากศาลรัฐธรรมนูญ ที่วินิจฉัยให้4มาตราของพ.ร.ป.เลือกสว.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ จะช่วยให้กระแส “ล้มกระดาน” เลือกตั้งสว. ซึ่งจะได้สว.ชุดใหม่ในเดือนก.ค.นี้ บรรเทาเบาบางลง 

ทว่าท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่กำลังมีความสับสนอลหม่านอยู่ในเวลานี้ สัญญาณไฟเขียวจากศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาเอาเข้าจริงอาจเป็นเพียงการผ่าน “เขาวงกต” ด่านแรกเพียงเท่านั้น 

เอฟเฟกต์ศาลรธน.ถอด‘รหัส3ล้ม’  การเมืองขยับฉาก-หมากลับสว.

อ่านกระดานการเมืองที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่า ต่อให้ “4มาตรา” ดังกล่าวถูกศาลตัดสินว่า "ไม่ชอบด้วยกฎหมาย"  จริงอยู่ว่าจะทำให้กระบวนการเลือกสว.อาจต้องสะดุดหยุดลงชั่วขณะ 

กระบวนการต่อไปก็จะต้องมาแก้ไข “4มาตรา” ที่มีปัญหา ซึ่งแนวทางจะมีทั้งการเสนอเข้าสภาฯเพื่อพิจารณา “เรียงตามวาระ” หรือ หากรีบเร่งก็อาจมีการ “ตั้งกมธ.เต็มสภา” เพื่อพิจารณา3วาระรวด

เป็นเช่นนี้กระบวนการที่คัดเลือกสว.ที่ดำเนินมาตั้งแต่ต้น ก็ต้องมาสู้กันที่การใช้ทฤษฎี “กฎหมายดิ้นได้” 

มุมหนึ่งอาจมองบวกว่า ไม่กระทบต่อกระบวนการคัดเลือกสว.ที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ ในเมื่อปัญหาไม่ได้อยู่ที่กระบวนการ แต่อยู่ที่ข้อกฎหมายบางข้อ เมื่อแก้กฎหมายเสร็จก็ย่อมต้องยกประโยชน์ให้กระบวนการก็เดินหน้าต่อ

อีกมุมก็อาจมองว่า กระบวนการที่คัดเลือกมาทั้งหมดจะต้องกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ ซึ่งหากดำเนินมาถึงจุดนี้แน่นอนว่าอาจต้องไปตีความอันอีกยาว เผลอเกิดขึ้นหลังได้ “สว.ชุดใหม่” เสียด้วยซ้ำ

ฉะนั้นท่ามกลางการเมืองที่มีความสับสนอลหม่าน  หากกลุ่มคนที่ “สูญเสียอำนาจ”จะเล่นบทเดินเกม “ล้มกระดาน” เลือกสว.จริง หลักใหญ่ใจความของเกมล้มกระดานอาจไม่ได้อยู่ที่การยื่นตีความ “4มาตรา” แต่เพียงเท่านั้น 

แต่ยังมีหมากตัวอื่นๆ ที่ผสมปนเปอยู่  ยิ่งในยามนี้การชิงตั๋วสว.กำลังเข้าสู่ด่านทดสอบด่านสุดท้ายด้วยแล้ว เดิมพันของบรรดา “นักล่าตั๋วสว.” ก็ย่อมมีเป็นเท่าทวีคูณ ไม่ต่างจาก “กลิ่นฮั้วสว.” ที่เริ่มส่งสัญญาณในหลายพื้นที่ 

ฉะนั้นเมื่อฝั่งหนึ่งมี  “เกมล่าตั๋วสว.” ไม่แปลกหากจะมีสัญญาณจากอีกฝั่ง เปิดเกมฉีกตั๋วสว. ด้วยการปลุกกระแส “ฮั้ว” เพื่อสะท้อนภาพกระบวนการคัดเลือกสว.ที่ไม่เป็นปกติ หรือ “มิชอบ” ทั้งกระบวนการมาตั้งแต่ต้น หากการเมืองเล่นแรงแน่นอนว่า กระบวนการก็อาจเป็นอันต้อง “ล้มทั้งกระดาน”

 

คำวิจิฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา จึงต้องจับตาไปที่การเมืองช็อตต่อไปทั้งการเลือกสว.ในระดับประเทศในวันที่26มิ.ย.รวมถึงการประกาศรับรองผลในวันที่2ก.ค. ที่จะได้เห็นโฉมหน้าผู้ถือ “ตั๋วสภาสูง”  ทั้ง200 คนว่าจะมีอุปสรรคขวากหนามอะไรระหว่างทางหรือไม่ 

นอกเหนือจากสนามชิงตั๋วสภาสูงที่จะรู้ดำรู้แดงกันใน1-2สัปดาห์ข้างหน้าแล้ว  ต้องจับตาอีก “2คดี” ที่ยังค้างคาอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ และถูกจัดเป็น2ใน3ทฤษฎี “3ล้ม” 

เอฟเฟกต์ศาลรธน.ถอด‘รหัส3ล้ม’  การเมืองขยับฉาก-หมากลับสว.

นั่นคือคดี “ยุบพรรคก้าวไกล” ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งในส่วนพรรคก้าวไกลทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงความเห็นล่วงหน้าใน 7 วัน และนัดพิจารณาอีกรอบ 3 ก.ค. รวมทั้งให้คู่กรณีเข้าตรวจพยานหลักฐาน 9 ก.ค.นี้  

รวมถึงคดีที่“40สว.” ยืนถอดถอน “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ขีดเส้น 15 วัน ให้หน่วยงาน - บุคคลเกี่ยวข้อง ส่งความเห็น - เอกสารหลักฐานพร้อมนัดพิจารณาอีกรอบ 10 ก.ค.นี้

แน่นอนว่าทั้ง3คดีที่เกิดขึ้นไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรย่อมส่งผลไปถึง “กระดานการเมือง” หลังจากนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!