ประกาศิต ‘นายใหญ่’ โละที่ปรึกษา ‘บิ๊กทิน’
เป็นบทเรียนของ “สุทิน” เรื่องการคัดคนเข้ามาช่วยงาน จากนี้ไปคงเข้มงวดมากขึ้น แต่อีกมุมหนึ่งก็น่าชื่นชมจะมี “รัฐมนตรี” กี่คนกล้าออกมายอมรับ และรีบตัดไฟแต่ต้นลม
KEY
POINTS
- มีสัญญาณส่งตรงมาถึง สุทิน เปรียบเป็นฟางเส้นสุดท้ายก่อนเซ็นยกเลิกคำสั่งตั้งที่ปรึกษา
- สุทิน สแกนถี่ยิบตั้งแต่ต้นทางแขกมากหน้าหลายตาที่ขอเข้าพบ หวังสกัดกั้นคนเข้ามาหาผลประโยชน์อีกทางหนึ่ง
แม้จะพูดไม่เต็มปากเต็มคำแต่ “สุทิน คลังแสง” ยอมรับว่า สาเหตุที่เซ็นยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษา รมว.กลาโหม ฝ่ายต่างๆ กราวรูด ครั้งเดียว 24 คำสั่ง รวม 44 คน เหตุเพราะในจำนวนนี้ไปเรียกรับผลประโยชน์จากกองทัพ และหน่วยงานรัฐอื่นๆ
โดยเฉพาะ “กระทรวงกลาโหม” สายแทบไหม้ ปลายสายโทรศัพท์เข้ามาสอบถาม พร้อมเอ่ยชื่อบุคคลดังกล่าว เพื่อตรวจสอบว่าเป็นที่ปรึกษา รมว.กลาโหม จริงหรือไม่ หลังเข้ามาขอโครงการจัดซื้อจัดจ้าง บางส่วนขอตำแหน่ง ฝากคนเข้าทำงาน เรียกได้ว่ามาครบทุกรูปแบบ
ฟางเส้นสุดท้าย คือ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า หลังมีคนไปรายงาน “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ว่ามีที่ปรึกษา รมว.กลาโหม มาขอโครงการต่างๆ ก่อนจะมีสัญญาณเตือนส่งตรงไปยัง “สุทิน” ให้ระมัดระวังหวั่นกระทบเก้าอี้ รมว.กลาโหม และเสถียรภาพรัฐบาล
“สุทิน” เต้นผางก่อนสั่งเรียก 44 ที่ปรึกษารมว.กลาโหม มาพบโดยด่วน หวังสั่งปลดบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่คนใกล้ชิดท้วงติงเสียก่อนพร้อมแนะนำให้เซ็นยกเลิกคำสั่งทั้งหมด แล้วค่อยมาสแกนภายหลัง คัดคนที่รู้จักนิสัยใจคอ เชื่อถือได้มาช่วยงานตามความจำเป็น
หากย้อนไปก่อนหน้านี้ 9 เดือน “สุทิน” ตระเวนพบปะอดีต รมว.กลาโหม นักวิชาการสายความมั่นคง เพื่อขอคำปรึกษาในฐานะน้องใหม่สายพลเรือน เข้ามาทำหน้าที่ รมว.กลาโหม ดูแลกองทัพงานที่ไม่คุ้นเคย ขณะเดียวกันก็มีคนมากมายขออาสาเข้ามาช่วยงาน บ้างก็มีฝากเข้ามาจากคนรู้จัก หวังให้มาช่วยเป็นมือเป็นไม้
"ในช่วงแรกๆ ที่ผมรับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยังมีเรื่องต้องเรียนรู้อีกมาก จึงมีการตั้งที่ปรึกษาเป็นจำนวนมาก และขณะนั้นมีคนอาสามาช่วยงานเยอะ และมีบางส่วนที่ผมเชิญมาร่วมทำงาน เราก็คัดบุคคลตามเนื้องาน และภาระงานที่เราคิดว่ามีความจำเป็น"
"ในตอนนี้ก็มีนโยบายที่ใหม่ๆ เกิดขึ้น และมีภารกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง จึงถือโอกาสนี้ในการปรับเปลี่ยนคณะที่ปรึกษา สำหรับการตั้งที่ปรึกษาคนใหม่มาแทนตอนนี้ยังไม่ตั้ง เพราะยังไม่จำเป็นมาก และค่อยๆ ดูบุคคลให้เหมาะสมกับงาน"
“แต่ยอมรับว่าก็มีบ้างที่บางคนไปเรียกรับผลประโยชน์ ที่ได้รับข่าวมาทำให้เกิดความรู้สึกว่า หากแต่งตั้งมากไปจะดูแลไม่ทั่วถึง แต่ยังไม่ถึงขั้นเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ที่รับผลประโยชน์ เป็นการป้องกันอะไรที่จะเป็นเหตุ ก็ปรับออกก่อน หลังจากที่ได้รับเสียงสะท้อนกลับมา” สุทิน กล่าว
ปัจจุบันนอกจาก “สุทิน” สแกนที่ปรึกษา รมว.กลาโหมแล้ว ยังครอบคลุมไปถึงแขกมากหน้าหลายตาที่เดินทางมาขอเข้าพบที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ศรีสมาน ดอนเมือง สถานที่ทำงานแห่งที่สอง หัวกระไดแทบไม่แห้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ มวลชน ฝ่ายการเมืองเสียเป็นส่วนใหญ่ หวังสกัดกั้นบุคคลเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์อีกทางหนึ่ง
เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียนทำให้ “สุทิน” หันมาให้ความสำคัญในการคัดคนเข้ามาช่วยงานมากขึ้น ส่วนอีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม จะมี “รัฐมนตรี” สักกี่คนที่กล้าออกมายอมรับมีคนใกล้ตัวเรียกรับผลประโยชน์ และรีบตัดไฟเสียแต่ต้นลมเหมือน “บิ๊กทิน”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์