'นายกฯ' ขน รมต.ติดตามก่อสร้างทางต่างระดับแก้จราจร ชาวบ้านทวงปุ๋ยคนละครึ่ง

'นายกฯ' ขน รมต.ติดตามก่อสร้างทางต่างระดับแก้จราจร ชาวบ้านทวงปุ๋ยคนละครึ่ง

"นายกฯ" ขน รมต.ลงพื้นที่ติดตามงานก่อสร้างทางแยกต่างระดับแก้ปัญหาการจราร ขณะที่ประชาชนแห่ต้อนรับ ถามโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ก่อนติดตามแก้ปัญหาน้ำท่วม บอกรัฐบาลนี้ช่วยกันทำงานเป็นปึกแผ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจการลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดสุรินทร์ ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันที่สอง ว่า หลังจากพักค้างคืนที่จังหวัดอุบลราชธานี

เช้าวันเดียวกันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 09.40 น.นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังบริเวณสี่แยกคําน้ำแซบ อ.วารินชําราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามโครงการก่อสร้าง “แยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงที่ 231 และ ทางหลวงหมายเลข 226 งบประมาณ 1,050 ล้านบาท ระยะเวลาในการดำเนินโครงการก่อสร้าง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2568 - 2570 เป็นโครงการทางลอดและทางยกระดับบริเวณ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร ลดอุบัติเหตุ และ เพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางการขนส่งสินค้าและการขนส่งสินค้าที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ อีกครั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการสนับสนุนโครงการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศได้อย่างยั่งยืน 

เมื่อมาถึงนายกรัฐมนตรีได้พบปะทักทายกับประชาชนที่มารอต้อนรับ มอบผ้าขาวม้า และถ่ายรูปร่วมกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง ขณะที่บางคนได้ทวงถามถึงโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง  ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับยิ้มแต่ไม่ได้ตอบ 

ขณะที่บางคนก็ถามถึงเลขทะเบียนรถของนายกรัฐมนตรี ถึงขนาดนำปากกามาจดลงบนฝ่ามือกันลืม โดย วันเดียวกันนี้นายกรัฐมนตรีนั่งรถโตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน  8 กผ 1127 กรุงเทพมหานคร คันเดิม

จากนั้นนายกรัฐมนตรีฟังบรรยายสรุปถึงการดำเนินโครงการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง มีเรื่องตื่นเต้นเล็กน้อยเกิดขึ้น เนื่องจากมีงูขนาดเล็กได้เลื้อยเข้ามายังบริเวณเต็นท์ที่ประชาชนมารอต่อนรับนายกรัฐมนตรี ทำให้ประชาชนแตกตื่น ลุกหนีกันกระเจิงทำให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ต้องประกาศเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยจับงูดังกล่าวพร้อมระบุว่างูมาหา ถือเป็นเรื่องที่ดี ช้างเหยียบนางพญาเหยียบเมือง แม้แต่งูยังอยากมาเจอท่านนายกรัฐมนตรี จากนั้นไม่มีชาวบ้านที่มีความเชี่ยวชาญได้จับงูดังกล่าวไปปล่อยในพงหญ้า บริเวณใกล้เคียง

โดยมี นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน  ชาญวีรกุล   รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ร้อยเอกธรรมนัส  พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  นายวราวุธ  ศิลปอาชา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  นายเกรียง  กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายอรรถกร ศิริลัทธยากร  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   และสส.ในพื้นที่ร่วมลงพื้นที่ด้วย

จากนั้น เวลา 10.00 น.นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางมายังศาลาประชาคมบ้านผึ้งออก ต.โนนผึ้ง อ.วารินชําราบ จ.อุบลราชธานี เมื่อมาถึงนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ และได้ซื้อลอตเตอรี่ที่แม่ค้านำมาขายหลังโอดครวญว่าช่วงนี้ขาย ลอตเตอรี่ไม่ค่อยดี โดยนายกรัฐมนตรีตั้งใจจะซื้อหมายเลข 27 ซึ่งตรงกับเลขทะเบียนรถ  แต่ปรากฏว่าที่แผงดังกล่าวไม่มี  จึงให้คณะทำงานเป็นคนจัดการ โดยระบุอย่างว่าเลือกหมายเลขอะไรก็ได้เพราะไว้ใจ

จากนั้นรับฟังปัญหาในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาการเกิดอุทกภัย โดยเฉพาะที่ลำห้วยน้ำจาง เป็นลำห้วยขนาดเล็กกว้าง 8 เมตร ยาว 6 กิโลเมตร  ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาตื้นเขิน ในช่วงฤดูแล้ง ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ และในฤดูน้ำหลากจะมีน้ำไหลบ่าจากห้วยลำผับ ที่ไหลมาจากอำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบางปี จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อเตรียมการป้องกันการเกิดอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ซึ่งกรมชลประทานและกรมพัฒนาที่ดิน โดยหน่วยงานในพื้นที่ได้แก่ โครงการชลประทานอุบลราชธานี และสถานีพัฒนาที่ดินอุบลราชธานี ได้ร่วมกันจัดทำแผนงาน/โครงการ เพื่อขุดลอกลำห้วยจัดทำเป้นแก้มลิง ฝ่ายกักเก็บน้ำ พร้อมระบบกระจายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยวันนี้ จะเสนอโครงการเพิ่มเติม จำนวน 16 แห่ง งบประมาณ 410 ล้านบาท 

โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามเรื่องปริมาณและสถานการณ์น้ำในปีนี้ของอุบลราชธานีจะเยอะกว่าปีที่แล้วหรือไม่ และกำชับว่าเมื่อปีที่แล้วน้ำไม่ท่วมปีนี้น้ำก็ต้องไม่ท่วมขณะที่ร้อยเอกธรรมมนัสยืนยันว่า “ปีนี้เอาอยู่”

ต่อมานายกรัฐมนตรีได้มอบพันธุ์ปลา จำนวน 120,000 ตัว ให้กับประชาชนในพื้นที่ 1,200 บาท  และมอบพันธุ์โคกระบือเพื่อการเกษตร ตามพระราชดำริ จำนวน 60 ตัวมูลค่า 1,680,000 บาท

นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชน โดยได้แนะนำรัฐมนตรีที่ร่วมลงพื้นที่ซึ่งมีจำนวนมากพร้อมระบุว่าที่กล่าวรายชื่อทุกคนเพราะแสดงให้เห็นถึงความเป็นปึกแผ่นของรัฐบาลนี้  มีรัฐมนตรี  รองนายก จากทุกพรรคไม่ใช่เฉพาะ เพื่อไทยอย่างเดียว  ที่มาวันนี้เห็นความสำคัญของปัญหาพี่น้องชาวอุบลครบทุกมิติไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกษตรกรซึ่งวันนี้ได้มีการมามอบโคกระบือและพันธุ์ปลารวมถึงปัญหาของน้ำถือเป็นเรื่องใหญ่สุดสำหรับชาวจังหวัดอุบลฯ เรื่องของถนน ซึ่งช่วงเช้าได้ไปดูการก่อสร้างถนน เพื่อลดอุบัติเหตุทำให้การจราจรไหลลื่นมากยิ่งขึ้น และเมื่อวานได้ดูเรื่องวัฒนธรรมกันท่องเที่ยวการหล่อเทียนแห่เทียนพรรษาหากเป็นไปได้จะกลับมาอีกในวันที่ 20 - 21 กรกฎาคานี้เข้าใจว่าเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่มากมีคนมาเป็นแสนคนและมีชาวต่างชาติมาด้วยจึงอยากจะสนับสนุนให้เป็นหมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่เกิดความภาคภูมิใจของชาวอุบลราชธานีทุกท่าน

และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วปัญหาใหญ่ของจังหวัดอุบลนอกเหนือจากปัญหาเรื่องยาเสพติดแล้วรัฐบาลได้มีการขับเคลื่อนอย่างจริงจังโดยเมื่อวานนี้ได้เดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ดและจะทำให้เป็นจังหวัดสีขาวให้ได้ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้และเราจะมาเอานโยบายและหลักการทำงานมาทำให้จังหวัดอุบลราชธานีเป็นจังหวัดสีขาวในโอกาสต่อไป 

อีกเรื่องที่สำคัญที่มาที่นี่ซึ่งได้มา 2 ครั้งแล้วระหว่างนี้ได้มีการพูดคุยกับร้อยเอกธรรมนัสและนายอนุทินเกี่ยวกับน้ำท่วมที่ท่วมแล้วท่วมอีกและน้ำแล้งที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างทั้งหมดเรารู้หากมีท่วมมีแล้งเศรษฐกิจก็ไม่ดี  พี่น้องก็เดือดร้อน  รัฐบาลสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ  วันนี้เรามีนโยบายระยะสั้นกลางยาวครบวงจรทำให้จังหวัดอุบลราชธานีและอีสานตอนล่างจะไม่ท่วมไม่แล้งตลอดไป ทั้งนี้ปีที่แล้วถือเป็นปีแรกของหลายๆปีซึ่งปริมาณน้ำไม่ท่วม ถึงท่วมก็ท่วมน้อยกว่าปีอื่นและเป็นปีแรกที่เราไม่ได้มาใช้เงินอย่างเดียวแต่มีการใส่ใจ

จึงให้ร้อยเอกธรรมนัสและอธิบดีกรมชลประทานสำนักนายกฯ มหาดไทย ให้ความสำคัญก่อนจะถึงหน้าฝนใหญ่เดือนตุลาคม ซึ่งจะมีการปล่อยน้ำ ต้องบริหารจัดการน้ำก่อนทำให้จังหวัดอุบลฯน้ำไม่ท่วมหรืออาจจะมีท่วมบ้างก็ต้องเล็กน้อย ถือเป็นความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนของภาครัฐบาลที่มีน้ำหนึ่งใจเดียวกันเอาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง