'แพทองธาร ชินวัตร' ชิมลางเวทีโลก เดินสายพบชาติมหาอำนาจ

ภารกิจหัวหน้า"อิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร ผู้นำพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบัน กำลังอยู่ในช่วงฟิตเป็นพิเศษเพราะเพิ่งกลับมาจากการเดินสายต่างประเทศด้วยการเยือนประเทศมหาอำนาจ คือ "รัสเซีย" กับคณะผู้แทนการค้าไทย และคณะทำงานที่ปรึกษาของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2567

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา "วิเวียน บาลากริชนัน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ พร้อมด้วย "หว่อง เสี่ยว ผิง แคเทอริน" เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ได้เชิญ "แพทองธาร"และคณะเข้าพบเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของสองชาติ

ทั้งนี้สองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลายประเด็น ตั้งแต่การเมือง เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ตเพื่อช่วยพลิกฟื้นการท่องเที่ยวของไทย

ตัวแทนรัฐบาลสิงคโปร์ยังถือโอกาสเชิญ "แพทองธาร" เยือนสิงคโปร์ เพื่อดูงานด้านนโยบาย Community Development Council Voucher Scheme (นโยบายคูปองดิจิทัลของสิงคโปร์) 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าจังหวะทางการเมืองและภาพลักษณ์ของทายาทคนสุดท้องสุดรักของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงนี้ได้ใช้ตำแหน่งประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เพื่อไปทำงานในการสนับสนุนให้กับรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เป็นทางอ้อมในตัว

ย้อนไปก่อนหน้านี้ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ร่วมกับคณะเข้าร่วมการประชุมกลุ่ม BRICS พลัส ระดับพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 16 – 19 มิ.ย. 2567 ที่เมืองวลาดิวอสต็อก ประเทศรัสเซีย ซึ่งมีโอกาสได้หารือทวิภาคีกับอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ (Dmitry Medvedev)  รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งหารือทวิภาคีกับกลุ่มประเทศสมาชิก BRICS+ อาทิ รัสเซีย จีน แอฟริกาใต้ เอธิโอเปีย คิวบา

สำหรับ BRICS พลัสนั้น เป็นการรวมกลุ่มกันของประเทศตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ โดยตัวย่อ BRICS มาจาก "อักษรตัวแรก" ของประเทศสมาชิกเดิม 5 ประเทศ ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้

กลุ่ม BRICS เป็นการรวมตัวกันเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพทางเศรษฐกิจ ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเทศพัฒนาแล้ว โดยจะส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆ ได้แก่ การเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจและการเงิน มนุษยธรรมและวัฒนธรรม รวมทั้งลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ หันมาพึ่งพาเงินหยวน เพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจระหว่างขั้วอำนาจเดิมกับขั้วอำนาจใหม่บนเวทีโลกด้วย 

จากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศระบุว่า BRICS มีขนาดเศรษฐกิจคิดเป็นประมาณ 36% ของเศรษฐกิจโลก หรือ29 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีบทบาทต่อการค้าของไทยถึง 22.8% ของการค้ารวมไทยทั้งหมด อีกทั้งใกล้เคียงกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (G7) ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 26.2% 

อีกทั้ง ไทยยังส่งออกสินค้าไปยังกลุ่ม BRICS เป็นมูลค่า 57,211.0 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 20.1% ของการส่งออกทั้งหมด

"ผู้นำพรรคเพื่อไทย"ถูกเชิญในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นพรรคแกนนำของรัฐบาลไทย และคณะของ "แพทองธาร" ยังขอรับการสนับสนุนต่อการสมัครเข้าร่วมสมาชิก BRICS ของไทยด้วย

ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า "ประเทศรัสเซีย" ซึ่งมีผู้นำคนสำคัญอย่าง "วลาดิมีร์ ปูติน" ถือว่าเป็นผู้นำมหาอำนาจที่มีความสนิทกับ "ทักษิณ ชินวัตร" เมื่อครั้งที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของไทย

การขอเข้าร่วมสมาชิกกลุ่ม BRICS พลัสระดับพรรคการเมืองของ "แพทองธาร" ถือเป็นการปูทางก่อนที่ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีจะต้องไปเข้าร่วมประชุมกับกลุ่ม BRICS พลัสในอนาคต เพราะการจะเข้าร่วมกลุ่มได้ต้องมีเสียงของชาติสมาชิกลงมติเป็นเสียงเอกฉันท์

ภาพการเดินสายในเวทีโลกของผู้นำพรรคเพื่อไทยตัวจริง ยังเป็นอีกขาหนึ่งในระดับพรรคการเมืองของทางไทย เพื่อมาสนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย 

ส่วนการเดินสายต่างประเทศของ "เศรษฐา" จะเป็นการเดินสายในท่าทีของผู้นำรัฐบาล   

นอกจากนี้ มีรายงานว่า "แพทองธาร" ยังมีคิวที่หลายประเทศเชิญให้ไปเยือนอย่างเป็นทางการในระดับผู้นำพรรคการเมือง ต่อจากนี้อีก ไม่ว่าจะเป็น จีน แอฟริกาใต้ และคิวบา 

ภาพในฐานะผู้นำพรรคการเมืองของ "แพทองธาร" ไปพบชาติมหาอำนาจอย่าง "จีน"  ยังเป็นการเข้าพบกับทางรัฐมนตรีด้านการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นชาติยักษ์ของโลกเพื่อเป็นการเกื้อหนุนรัฐบาลเศรษฐาอีกทาง

ทันทีที่ "แพทองธาร" เดินทางกลับถึงไทย ชีพจรลงเท้าเข้ารัฐสภาแห่งใหม่เป็นครั้งแรก เพื่อไปร่วมให้กำลังใจ สส.พรรคเพื่อไทยในระหว่างประชุมสภา เพื่ออภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ.2568 วาระแรก เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา

รวมทั้งเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2567  "แพทองธาร" ยังควงบิดา "ทักษิณ" เข้าเป็นวิทยากรในคลาสสุดท้ายของ PTP Academy ที่มีบรรดา สส.เพื่อไทยรุ่นใหม่ สมัยแรกเข้าร่วมอบรม

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2567  "แพทองธาร" ยังร่วมงานงาน THACCA SPLASH - Soft Power Forum 2024 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดด้วย

ทุกก้าวย่างของ "แพทองธาร" ลูกสาวของผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทยในเวทีโลกและไม่หยุดนิ่งในไทย ยังเป็นการสั่งสมประสบการณ์ในต่างประเทศไปในตัว รวมถึงสร้างบารมีทางการเมือง เพื่อรอวันเฉิดฉายบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี