‘เศรษฐา’ สั่ง ตรวจฉี่ทุกคน กลุ่มเสี่ยง16ปีขึ้นไป หวัง เร่งกวาดล้างยาเสพติด

‘เศรษฐา’ สั่ง ตรวจฉี่ทุกคน กลุ่มเสี่ยง16ปีขึ้นไป หวัง เร่งกวาดล้างยาเสพติด

“โฆษกรัฐบาล” เผย “เศรษฐา” สั่งแก้ปัญหายาเสพติด เร่งด่วน ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล ให้ ผู้ว่าฯ บูรณาการ ตำรวจ-ป.ป.ส.-ภาคประชาชน กำหนดมาตรการที่เหมาะสมกับจังหวัด ปูพรม X-Ray ทุกพื้นที่ ตรวจฉี่กลุ่มเสี่ยงทุกคนตั้งแต่16ปีขึ้นทุกหมู่บ้าน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญสั่งการแก้ไขปัญหายาเสพติดเร่งด่วน ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล โดยเน้นย้ำว่า การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาล เพราะแม้จะมีการพัฒนาของประเทศชาติ แต่การแพร่ระบาดของยาเสพติดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยรุ่นและวัยทำงานเป็นปัญหาที่ทำลายกำลังสำคัญของชาติ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมดำเนินการเพื่อเป้าหมาย “ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล” รวมทั้งกำชับให้คณะรัฐมนตรี สนับสนุนการกวาดล้างยาเสพติดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบการบูรณาการการทำงาน ระดมความร่วมมือกับตำรวจ สำนักงาน ป.ป.ส. หน่วยงานรัฐ และภาคประชาชนในพื้นที่ และให้สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นเสนาธิการ ในการกำหนดเป้าหมายและ KPIs ที่ท้าทาย กำหนดมาตรการที่เหมาะสมให้กับจังหวัด พร้อมสนับสนุนการประสานงาน และทรัพยากรที่จำเป็นต่อไปและให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดต้องทำงานคู่กันอย่างใกล้ชิด

 

โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ 1) ทำการ X-ray พื้นที่ ด้วยการระดมกำลังตรวจปัสสาวะกลุ่มเสี่ยงทุกคนที่ อายุ 16 ปี ขึ้นไป ในทุกหมู่บ้าน 2) แยกผู้เสพออกมารับการบำบัด และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม โดย สำนักงาน ป.ป.ส. และ กระทรวงกลาโหม ขยายผลในการจับกุมผู้ขาย 3) กระทรวงสาธารณสุข แยกแยะผู้เสพตามระดับความรุนแรงมาบำบัด รักษา และส่งคืนชุมชนเมื่อมีความพร้อม โดยให้กระทรวงสาธารณสุข มหาดไทย และ กลาโหม ร่วมกันจัดหาสถานที่บำบัดให้เพียงพอ และผ่านกระบวนการให้แน่ใจว่าจะไม่กลับไปเสพยาอีก 4) การส่งตัวคืนชุมชน ต้องฝึกอาชีพ หางานให้ทำและมีรายได้เพียงพอกับการดำรงชีวิต ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับกระทรวงแรงงาน ต้องเข้ามาดูแลในประเด็นนี้เพื่อไม่ให้กลับไปเป็นผู้เสพอีก 5) การป้องกันผู้เสพใหม่ ให้ กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เร่งหามาตรการที่เหมาะสมในการสอดส่องดูแลเยาวชน และขอให้ทางโรงเรียนร่วมกันในการปลูกฝังค่านิยมคุณค่าใหม่ “เด็กและเยาวชนต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด”

ทั้งนี้ จากการทำงานร่วมกันของหน่วยงานรัฐบาล ทำให้ตั้งแต่ตุลาคม 2566 – 2 กรกฎาคม 2567 มีการปราบปรามยาเสพติด โดยตรวจยึดยาบ้าได้ 764 ล้านเม็ด ไอซ์ 15.208 ตัน เฮโรอีน 1.275 ตัน คีตามีน 4.176 ตัน โคเคน 30 กิโลกรัม และเอ็กซ์ตาซี 127,190 เม็ด ซึ่งคิดเป็นคดีทั้งหมด 177,121 คดี มีผู้ต้องหา 184,411 คน สามารถยึดและอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดได้กว่า 6,347.07 ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีมาตรการบำบัดรักษาผู้ที่ติดยาเสพติดไปแล้วกว่า 108,304 ราย พร้อมทั้งดำเนินการป้องกันยาเสพติดในหมู่บ้านและชุมชนไปแล้วกว่า 15,804 แห่ง