สว.ส้ม ฝัน 'พลิกเกม'สภาสูง สอย สว.น้ำเงิน-ไม่ตรงปก
สว.ชุดใหม่ 200 คน รอ กกต.ประกาศรับรองผลเท่านั้น ทว่า สว.สายสีส้มยังคงมีความฝันลึกๆว่าจะเกิดการ 'พลิกเกม' ในสภาสูง หากมีการสอย สว.น้ำเงิน-ไม่ตรงปก ออกไปเป็นจำนวนมาก
KEY
POINTS
- ความแปลกประหลาดการเลือก สว.ชุดใหม่ ได้ว่าที่ สว. จากบุรีรัมย์มากที่สุดของประเทศ 14 คน ทั้งที่มี สส.ได้เพียง 10 คน ส่วน กทม.ได้ สว.9 คน จาก สส. 33 คน
- เลือก สว.ระดับประเทศ มีเสียงเล่าอ้างถึงว่าที่ สว. สายสีน้ำเงินที่ได้คะแนนสูงๆ ในแต่ละกลุ่ม จะไม่ใช้เทคนิคในการซื้อใจจากเพื่อนผู้สมัครที่ไม่ได้มาจากสายสีน้ำเงิน แต่ใช้วิธีการพูดคุยกันเองภายในกลุ่มสีน้ำเงินเท่านั้น
- ว่าที่ สว.สายส้มหวัง "เกมพลิก" ภาวนา กกต.สอย สว.สายน้ำเงินที่อยู่อันดับต้นๆ ของ20 กลุ่ม เพื่อหวังลึกๆ จะได้ สว.สายอิสระในบัญชีสำรองขยับเข้ามาแทนที่จนทำให้ดุลอำนาจสภาสูงในหมู่ สว.สีน้ำเงิน ต้องสั่นคลอน
จังหวัดแชมป์ที่มีว่าที่ สว. มากที่สุดของประเทศ 14 คน คือ จ.บุรีรัมย์ รองลงมาคือ กรุงเทพมหานคร 9 คน พระนครศรีอยุธยา และสุรินทร์ มีว่าที่ สว. 7 คน สงขลา สตูล และอ่างทอง มีว่าที่ สว.จังหวัดละ 6 คน
หากเทียบกับจำนวน สส. ที่สะท้อนการเป็นตัวแทนประชากรในแต่ละจังหวัด จ.บุรีรัมย์ มี สส. 10 คน ได้ว่าที่ สว. 14 คน กรุงเทพฯ มี สส. 33 คน กลับได้ว่าที่ สว. 9 คน พระนครศรีอยุธยา มี สส. 5 คน ได้ว่าที่ สว. 7 คน อ่างทอง มี สส. 2 คน ได้ สว. 6 คน
ที่น่าแปลกใจ มี 13 จังหวัดที่ไม่มี สว.เป็นตัวแทน ทั้งที่จังหวัดเหล่านี้โดยเฉพาะภาคอีสานมี สส.จำนวนมาก ประกอบด้วย อุดรธานี ร้อยเอ็ด สกลนคร กาฬสินธุ์ เพชรบูรณ์ มหาสารคาม นราธิวาส ลพบุรี กำแพงเพชร ตาก สระแก้ว อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน
เท่ากับว่า ภาพรวมการเลือก สว.ระดับประเทศจำนวน 200 คน เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 นั้น คน จ.บุรีรัมย์ มีความกระหายอยากเป็น สว. มากที่สุด
ความแปลกประหลาดที่ถูกจับจ้องในการเลือก สว. ครั้งนี้ ที่กำลังอยู่ในระหว่างประกาศผลรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คงหนีไม่พ้นการถูกสื่อมวลชน กระแสสังคมและโซเชียลมีเดีย พุ่งเป้าวิจารณ์ไปที่คุณสมบัติอาชีพของว่าที่ สว. บางคนที่ระบุอาชีพและประสบการณ์ตัวเอง แต่ถูกมองว่า “ไม่ตรงปก”
เห็นได้จาก 10 ว่าที่ สว.ในกลุ่มสื่อมวลชน 1 ในนั้นมีว่าที่ สว.บางราย ระบุอาชีพ “ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า” และบางรายมีอาชีพ "พยาบาล"
กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา มีว่าที่ สว.จาก จ.บุรีรัมย์ ระบุเคยมีอาชีพรับจ้าง พร้อมแจงสรรพคุณผ่านการเป็น นักกีฬาฟุตบอลอาวุโส ปี 2527-2547 แต่กลับพบว่าเป็นคนใกล้ชิดตระกูลชิดชอบ
หรือแม้แต่กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ก็พบว่ามี ว่าที่ สว. ระบุอาชีพ “ค้าขาย”
พลิกไปดูสัดส่วนของว่าที่ สว. 200 คนใน 20 กลุ่ม ผู้ได้รับเลือก สว.อันดับ 1 ใน 20 กลุ่มจะมีคะแนนอยู่ที่ราว 60-70 คะแนน
สำหรับ สว.คะแนนสูงสุดอยู่ในกลุ่ม 19 อาชีพอิสระ ศ.ดร.พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย จาก จ.เพชรบุรี ระบุ อาชีพแพทย์ ได้คะแนนอันดับ 1 สูงที่สุด 79 คะแนน จาก 200ว่าที่ สว. ซึ่งมีประสบการณ์เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เป็นกรรมการผู้จัดการ เกศกมล คลินิก เกศกมล เด็นทัล คลินิก และอินเตอร์ เตอร์มา แลบอราทอรี
พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีต ผช.ผบ.ทบ. และอดีตแม่ทัพภาค 4 ได้คะแนน 74 คะแนน ในกลุ่มที่ 1 การบริหารราชการแผ่นและความมั่นคง
"อภินันท์ เผือกผ่อง" อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็น ว่าที่ สว.กลุ่ม 1 อยู่อันดับ 10 ด้วยคะแนนต่ำที่สุด 16 คะแนนจาก ว่าที่ สว.200 คน
มีข้อสังเกตจากว่าที่ สว.บางราย ระบุถึงกรณีที่ สว.สายสีน้ำเงินเข้ามามากเป็นพิเศษทะลุเกิน 100 เสียงหรือเกินร้อยละ 50 ของ สว.
ว่ากันว่า ผู้สมัคร สว.ที่มาจากบ้านใหญ่ ด้วยบารมีของ "คนสีน้ำเงิน"ในระหว่างการคัดเลือกรอบประเทศ รอบสุดท้าย 2 รอบ พบสิ่งที่น่าสังเกตคือ ว่าที่ สว. สายสีน้ำเงินที่ได้คะแนนสูงๆ ในแต่ละกลุ่ม จะไม่ใช้เทคนิคในการซื้อใจจากเพื่อนผู้สมัครที่ไม่ได้มาจากสายสีน้ำเงิน แต่ใช้วิธีการพูดคุยกันเองภายในกลุ่มสีน้ำเงินเท่านั้น
หากเจอผู้สมัครนอกกลุ่มมาขอคะแนนเสียงหรือเปิดดีล ผู้สมัคร สว.สายสีน้ำเงินจะใช้วิธีนิ่งเงียบ ไม่เปิดปากคุยกับเพื่อนนอกกลุ่มมากนัก
ว่าที่ สว.บางรายถึงขั้นพูดว่า ก่อนวันเลือกระดับประเทศ มีการรวมกลุ่มกันในหมู่ สว.สีน้ำเงินที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งใจกลางกรุง ก่อนถึงวันเลือกระดับประเทศ กระทั่งได้เห็น สว.สีน้ำเงิน พาเหรดเข้าสู่สภาสูงจำนวนมากอย่างน่าแปลกใจ
ว่าที่ สว.สายสีส้มบางรายประเมินโดยเชื่อว่า กกต.ไม่มีทางสอย สว.สีน้ำเงินจำนวนมากก่อนประกาศรับรองผล แต่จะประกาศผลไปก่อน แต่ยังหวังลึกๆ หาก กกต.ตั้งใจตรวจสอบคุณสมบัติหรือสอย ว่าที่ สว.สายสีน้ำเงินที่ไม่ตรงปกในแต่ละกลุ่มซึ่งมักจะอยู่ในอันดับ1-5 ของแต่ละกลุ่ม ก็จะทำให้ว่าที่ สว.ที่อยู่ในบัญชีสำรอง กลุ่มละ 5 คน จำนวน 100 คนมีลุ้นขึ้นมาเป็น สว.ทันที
ว่าที่ สว.ในอันดับ 6-10 ของแต่ละกลุ่ม ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากคะแนนจัดตั้งด้วยบารมีบ้านใหญ่สายสีน้ำเงิน
ทำให้ สว.สายสีส้มประเมินว่ามีโอกาส "พลิกเกม" ในสภาสูงได้ หากได้ สว.จากบัญชีสำรองเข้ามาเติมเต็มแทน สว.สายสีน้ำเงิน
เพราะหากมีการสอย สว.สีน้ำเงิน "ไม่ตรงปก" สอยกลุ่มละ 2-3 คน แล้วขยับ สว.สำรองมาอีก 2-3 คน ก็จะทำให้อำนาจสภาสูงของ สว.สายสีน้ำเงินอาจหายไปอีก 40-60 คน
แต่บริบทนี้เป็นเพียงความหวังที่อาจจะลมๆ แล้งๆ ในหมู่ สว.สายสีส้มที่ฝันว่า สภาสูงชุดใหม่นี้จะได้ สว.อิสระเพิ่มขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วยากยิ่งนักที่ กกต.จะสอย สว.สีน้ำเงินได้มากมายตามที่คิดลึกๆ ไว้