'เลขาสภาฯ' โยน 'กมธ.' ใช้ดุยพินิจสอบปมฉาวซื้อขายตำแหน่ง

'เลขาสภาฯ' โยน 'กมธ.' ใช้ดุยพินิจสอบปมฉาวซื้อขายตำแหน่ง

"อาพัทธ์" ตอบปมฉาว ซื้อขายตำแหน่ง กมธ. ให้ "กมธ." ใช้ดุลยพินิจตรวจสอบ อ้าง "ส.เลขาฯ" รับคำสั่งก่อนประกาศตั้ง พร้อมกำชับ "จนท." ตรวจเข้ม บัตรจอดรถสภา

ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.ต. อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข่าวการซื้อขายตำแหน่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ของสภาผู้แทนราษฎร ว่า กรณีการแต่งตั้งนั้นเป็นไปโดย กมธ. ที่มีบทรับรองตามรัฐธรรมนูญ และประมวลจริยธรรมของสมาชิกและกมธ. ซึ่งรวมถึงต้องดูแลผู้ปฏิบัติงานในส่วนของ กมธ. ที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นดุลยพินิจ และเชื่อว่ากมธ.แต่ละคณะตั้งบุคคลต่างๆ ด้วยความสุจริต  ดังนั้นการตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นดุลยพินิจของกมธ. ส่วนสำนักงานเลขาธิการสภาฯ มีหน้าที่ออกคำสั่งแต่งตั้งตามที่กมธ.แต่ละคณะเสนอ หลังจากที่ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเท่านั้น

“ผมเชื่อว่ากมธ.แต่ละคณะอาจจะสอบสวนหาข้อเท็จจริง ในเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ กมธ. 35 คณะได้แต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ มากพอสมควร ซึ่งเป็นดุลยพินิจของ กมธ. ส่วนการปฏิบัตินั้นมีกระบวนการกลั่นกรอง เพราะเป็นองค์กรในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติ หากมีกรณีการร้องเรียนเกิดขึ้นหรือเกี่ยวกับ กมธ.ใดเป็นดุลยพินิจของกมธ.นั้นที่จะให้มีการตรวจสอบเรื่องนั้น” เลขาธิการสภาฯ กล่าว

เลขาธิการสภาฯ ยังกล่าวถึงการซื้อบัตรจอดรถในสภา ด้วยว่า การขอบัตรจอดรถอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ตามระเบียบและวิธีดำเนินการมีขั้นตอน กลั่นกรองคุณสมบัติ  ทั้งนี้ตนเชื่อว่าผู้ปฏิบัติงานมีความซื่อตรงอยู่ในกรอบระเบียบวิธีการดำเนินการแต่หากมีกรณีที่มีการร้องเรียนหรือมีการกล่าวหาต้องสอบสวนข้อเท็จจริงว่าจะเกี่ยวข้องกับบุคคลใดบ้าง

"ผมฐานะหัวหน้าส่วนไปกล่าวหาผู้ใต้บังคับบัญชาคนใดว่า มีข้อบกพร่องโดยที่ตนไม่มีหลักฐาน ตอนนี้ทุกคนก็ถือเป็นผู้สุจริตและยังอยู่ในกรอบวินัยการปฎิบัติหน้าที่อยู่ แต่หากมีข้อเท็จจริงที่มีการร้องเรียนเข้ามา ทางสำนักงานก็ต้องมีการตรวจสอบในหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต้องดำเนินการตามข้อกฎหมายหรือวินัยที่เกี่ยวข้อง" เลขาธิการสภาฯ กล่าว

เมื่อถามว่า จะต้องมีการกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ที่จะออกบัตรหรือไม่ว่าจะต้องมีการตรวจสอบเข้มข้นมากขึ้น ว่าที่ ร.ต.ต. อาพัทธ์ กล่าวว่า สิทธิประโยชน์ในการเข้า-ออกเป็นเรื่องปกติ และยอมรับว่าทุกคนอยากได้สิทธิพิเศษ แต่ตนยังเชื่อว่ากระบวนการกลั่นกรองยังมีความเข้มงวดอยู่ ทั้งนี้ในอดีตก็เคยมีประเด็นเรื่องนี้ แต่ก็มีการตรวจสอบจนยุติไป อย่างไรก็ดีตนได้กำชับให้ตรวจสอบให้รอบคอบ.