เป้า ‘อีสาน-เหนือ’ 25 จังหวัด 'รัฐบาลเศรษฐา' โชว์เด็ดปีกนักค้ายา 100%

เป้า ‘อีสาน-เหนือ’ 25 จังหวัด 'รัฐบาลเศรษฐา' โชว์เด็ดปีกนักค้ายา 100%

นายกฯ คิกออฟ “เดือนมหามงคล” โมเดลจังหวัดสีขาวจะเห็นภาพก่อนที่ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด และ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ภายในเดือน ก.ย.นี้ ขีดเส้นต้องเป็นจังหวัดพื้นที่สีขาว ก่อนปลุกพลังปราบยาเสพติด "อุดรธานี" เพื่ออขยายผลอีก 25 จังหวัด

KEY

POINTS

  • นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ถือว่าปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” และต้องเร่งโชว์ผลงานก่อนรัฐบาลมีอายุครบ 1 ปี
  • การลงพื้นที่ของนายกฯ ที่ จ.อุดรธานี เพราะเป็น 1 ใน 25 จังหวัดนำร่อง "รัฐบาล" เร่งเดินหน้าปราบปรามยาเสพติด
  • จากข้อมูลมีการ “เด็ดปีกนักค้ายาเสพติด” อีสานเหนือ 252 ราย จับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญและรายย่อย  8,165 ราย ยึดทรัพย์ได้กว่า 558 ล้านบาท
  • จ.ร้อยเอ็ด จ.น่าน ถูกชูเป็นจังหวัดต้นแบบจังหวัดพื้นที่สีขาว 100% ในการแก้ปัญหายาเสพติด เพื่อขยายผลไปอีก 25 จังหวัด

คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2566 ครม.เศรษฐา ทวีสิน เน้นย้ำถึงภารกิจปราบปราม “ยาเสพติด” ที่กำลังทวีความรุนแรง จนกลายเป็นความสิ้นหวังของประชาชนที่มีต่อระบบการเมืองและระบบราชการของประเทศไทย

ปฏฺิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลในอดีตช่วงยุค “ไทยรักไทย” มีผลงานชิ้นโบว์แดง จากการปราบปรามยาเสพติดอย่างหนัก ทำให้ส่งต่อนโยบาย “เด็ดปีกนักค้ายา” มาถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในปี 2566

คำแถลงนโยบายรัฐบาล ในด้านความปลอดภัย ระบุตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจะทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและ “ยาเสพติด” ให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง เพื่อเพิ่มจำนวนทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพให้กลับเข้าสู่สังคมและพัฒนาความสามารถให้เข้าสู่ภาคแรงงาน

ส่วนผู้ผลิตและผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด

เป้า ‘อีสาน-เหนือ’ 25 จังหวัด \'รัฐบาลเศรษฐา\' โชว์เด็ดปีกนักค้ายา 100%

ล่าสุุด นายกรัฐมนตรี ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะในหลายจังหวัดภาคเหนือ และภาคอีสาน

จ.ร้อยเอ็ด และจ.น่าน ถูกชูเป็นจังหวัดต้นแบบ หรือ โมเดลในการแก้ปัญหา ให้เป็นจังหวัดสีขาว 100%

ขีดเส้นต้องปราศจากยาเสพติดภายใน 3 เดือน และขอให้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพ ตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย เพื่อขจัดปัญหาให้กับสังคมไทยให้หมด

เป้า ‘อีสาน-เหนือ’ 25 จังหวัด \'รัฐบาลเศรษฐา\' โชว์เด็ดปีกนักค้ายา 100% ขีดเส้น “ร้อยเอ็ด-น่าน” เพราะเป็นพื้นที่ที่ “นายกฯ เศรษฐา” เพิ่งไปลงพื้นที่เมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย. 2567 เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยต้องทำให้สำเร็จภายในเดือน ก.ย.นี้

โดยยึดหลักมาตรการ “ปราบปราม ยึดทรัพย์ ฟื้นฟู สร้างอาชีพให้” เพื่อส่งคืนลูกหลานกลับคืนสู่อ้อมอกครอบครัว ตัดวงจรอุบาทว์จากยาเสพติด

หากสามารถทำ 2 จังหวัดนี้ให้เป็นต้นแบบได้ จะขยายผลต่อเนื่องไปอีก 25 จังหวัด เพื่อให้เห็นภาพรวมว่า“รัฐบาลเศรษฐา” กำลังดำเนินการปราบปรามยาเสพติดเป็นภาพใหญ่ เพื่อเร่งโชว์ผลงานหลักให้ประชาชนเห็นเป็นรูปธรรมก่อนที่รัฐบาลจะบริหารประเทศครบ 1 ปี

ทำให้ในเดือน ก.ค. เดือนมหามงคล “นายกฯเศรษฐา” ยังคงฟิตหนัก ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานปักธง “งานรวมพลังชุมชน สู้ภัยยาเสพติด” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 รวมทั้งจัดกิจกรรมปลุกพลัง “งานรวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด" ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ใน 12 จังหวัดอีสานเหนือ

ยกตัวอย่าง จังหวัดต้นแบบ จ.น่าน พื้นที่ต้นแบบจัดการปัญหายาเสพติด (ท่าวังผาโมเดล) ข้อมูลช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการตรวจคัดกรองบุคลอายุ 12-65 ปี จำนวน 2,812 คน พบผู้เสพยาเสพติด 20 คน โดยกำหนดสถานที่บำบัด เพื่อดูแลช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด 20 คน

ส่วนด้านการปราบปรามมีการตรวจคัดกรอง อ.ท่าวังผา พบผู้เสพ 187 คน จากการสืบสวนขยายผลจับกุมได้ 18 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางเป็น “ยาบ้า” ได้ 1,276 เม็ด อาวุธปืน 6 กระบอก และยึดทรัพย์เพื่อเสนอตรวจทรัพย์สิน จำนวน 156,760 บาท และนำส่งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

“ท่าวังผาโมเดล” ยังดำเนินการป้องกันโดยจัดตั้งคณะกรรมการหมู่บ้านเพื่อป้องกันปัญหายาเสพติด แต่งตั้งคณะกรรมการ ช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อีกทั้งยังจัดทำกติกาในชุมชนไม่ให้เป็นยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

เมื่อดูภาพรวมการป้องกัน บำบัด ปราบปรามยาเสพติดของ สำนักงาน ป.ป.ส. ในช่วงปี 2562-2565 ซึ่งเป็นช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

  • ปี 2562 ยาเสพติดมี 363,769 คดี ผู้ต้องหา 385,771 คน ผู้เข้าบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติด 229,680 ราย ผู้ผ่านการบำบัดที่ได้รับการติดตาม 182,885 ราย
  • ปี 2563 ยาเสพติดมี 323,903 คดี ผู้ต้องหา 337,399 คน ผู้เข้าบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติด 190,395 ราย ผู้ผ่านการบำบัดที่ได้รับการติดตาม 193,003 ราย
  • ปี 2564 ยาเสพติดมี 336,582 คดี ผู้ต้องหา 349,511 คน ผู้เข้าบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติด 168,569 ราย ผู้ผ่านการบำบัดที่ได้รับการติดตาม 154,051 ราย
  • ปี 2565 ยาเสพติดมี 258,190 คดี ผู้ต้องหา 265,728 คน ผู้เข้าบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ/ผู้ติด 130,560ราย ผู้ผ่านการบำบัดที่ได้รับการติดตาม 103,553 ราย

เป้า ‘อีสาน-เหนือ’ 25 จังหวัด \'รัฐบาลเศรษฐา\' โชว์เด็ดปีกนักค้ายา 100%

สำหรับข้อมูลในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานเหนือ ระหว่างนายกฯ เศรษฐา ใส่เกียร์เดินหน้าลุย จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2567 พบว่ามีการ “เด็ดปีกนักค้า” อีสานเหนือ 252 ราย เพื่อปราบ “นักค้ายาเสพติด” ไม่ให้มีที่ยืนอยู่ในชุมชน ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2566 จนถึงปัจจุบัน ได้ลงชุมชนกว่า 531 ชุมชน มีการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญและรายย่อย ได้กว่า 8,165 ราย

ยึดยาบ้ากว่า 49,442,598 เม็ด ไอซ์กว่า 1,428 กิโลกรัม เฮโรอีนกว่า 290 กิโลกรัม และยึดทรัพย์ได้กว่า 558 ล้านบาท

มีการไล่ล่านักค้ายาเสพติดตามหมายจับได้ 614 ราย ยึดทรัพย์ได้ 199 ราย มีการขยายผลไปสู่ผู้ค้ากว่า 193,811 ราย กดดันและชักชวนให้ผู้เสพเข้ารับการบำบัดแล้ว 3,411 คน

สำหรับ “อุดรฯ” ถือเป็น 1 ใน 25 จังหวัดนำร่องที่รัฐบาลต้องเร่งเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดให้เป็นผล เพราะถือเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่รัฐบาลขีดเส้นไว้ 90 วัน

คิกออฟ “เดือนมหามงคล” โมเดลจังหวัดสีขาวจะเห็นภาพก่อนที่ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด และ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ภายในเดือน ก.ย.นี้

“ถ้าเยาวชนของเรา คนของเรายังติดยา คงก้าวเดินไปข้างหน้าได้ยาก เราจึงปราบปราบอย่างจริงจัง บำบัดอย่างเอาจริงเพื่อส่งลูกหลานกลับสู่สังคม วางแผนสร้างอาชีพให้คนที่กลับใจ คิดว่าจะทำยังไงให้คนที่ก้าวเดินออกมาจากจุดนั้นแล้วไม่หันกลับเข้าไปอีก”

นี่เป็นคำกล่าวที่ “เศรษฐา” ต้องการโชว์ผลงานปราบปรามยาเสพติดให้ลดลงอย่างรวดเร็วก่อนที่รัฐบาลจะมีอายุครบ 1 ปี ในเดือน ก.ย. 2567