'บิ๊กเกรียง' พร้อมทำหน้าที่ หากถูกทาบนั่ง'ประธานวุฒิฯ' ลั่น'สว.สีน้ำเงินเข้ม'
"บิ๊กเกรียง" ปัดถูกทาบนั่งประธานวุฒิ แต่พร้อมทำหน้าที่ หากได้รับเสนอชื่อ ยอมรับสนิท"อนุทิน" ลั่นเป็น"สว.สีน้ำเงินเข้ม"
ที่รัฐสภา “บิ๊กเกรียง” พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว.ให้สัมภาษณ์ระหว่างเข้ารายงานตัวเป็นสว.ถึงกรณีมีการจับตาว่าเป็นตัวเต็งในการชิงประธานวุฒิสภาว่า ก็มีมุมมองเช่นนั้นตามสื่อ ในส่วนของตนตั้งใจที่จะทำหน้าที่ในเรื่องของการดูแลแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีประสบการณ์และองค์ความรู้ในการก้าวเข้ามาสู่การดำเนินการในตรงนี้มากกว่า
ทั้งนี้หากได้รับเลือกไม่ว่าจะเป็นประธานหรือรองประธานวุฒิสภา ขอให้ถึงเวลานั้นทุกคนต้องพร้อมไม่ใช่เฉพาะตนสมาชิกทั้ง200คนมีสิทธิทั้งหมดในการถูกเสนอชื่อ หรือถูกเลือก เนื่องจากทุกคนมีประสบการณ์และองค์ความรู้เพียงแต่ว่าตนถูกสื่อนำเสนอมากไปหน่อยแค่นั้น
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีความใกล้ชิดพรรคการเมืองมาก่อน พล.อ.เกรียงไกร ตนไม่ได้มีความใกล้ชิดพรรคการเมืองเพียงแต่ว่าเป็นเพื่อนสนิทของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่เรียนวปอ.
เมื่อถามว่า นายอนุทินได้ให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า
"ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร ตั้งแต่การลงสมัครสว.ผมไปลาออกท่านยังไม่ทราบเลย แถมตกใจว่าพี่เอาแน่หรือ ก็ลอง ดูผมบอกท่านว่าอยากจะมาทำหน้าที่ ในเรื่องของการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยประสบการณ์และองค์ความรู้ตั้งแต่เป็นผู้บังคับหมวดปืนเล็กจนกระทั่งเป็นแม่ทัพภาคที่4และเป็นเลขาคณะพูดคุยสันติสุข3จังหวัดชายแดนภาคใต้"
พล.อ.เกรียงไกร ยอมรับว่า ที่ผ่านมาพบปะนายอนุทินอยู่เสมอ โดยเฉพาะการลงพื้นที่3จังหวัดภาคใต้ได้มีการติดตามเพื่อให้คำแนะนำในบางครั้ง
ถามย้ำว่า ด้วยเหตุนี้จึงมีการวิเคราะห์ว่าจะทำให้ได้รับเสนอชื่อเป็นประธานวุฒิสภา
พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า คงไม่ ที่ท่านว่าผมเป็น "สว.สายสีน้ำเงิน" นั้น ผมเป็น "สายสีน้ำงเงินเข้ม" คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์เทิดทูนด้วยชีวิต ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครต่อสายทาบทาม
ส่วนที่ถูกมองว่าสว.ชุดนี้เป็นสภาวิชาชีพ ต้องถือว่าไม่เหนือความคาดหมายเพราะกำหนดให้มาจาก20กลุ่ม20อาชีพซึ่งมีบริบทในแต่ละกลุ่มอยู่แล้ว ฉะนั้นทั้ง200คนถือว่าทุกคนเป็นผู้แทนกลุ่มอาชีพ
ขณะที่ข้อครหาในการเลือกสว.ครั้งนี้รวมถึงความเป็นไปได้ในการแก้ไขกฎระเบียบการเลือกสว.ในครั้งหน้า ถือเป็นมุมมองแต่ละทุกภาคฝ่ายความเห็นต่างเกิดขึ้นได้เราก็ต้องรับฟังมุมมองความเห็นต่าง เช่นเดียวกับที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าสว.มีการตั้งกลุ่มก๊วนก็เห็นว่ามีทุกกลุ่มทุกก๊วน ในสังคมย่อมมีคนรักชอบกันและไปตั้งกลุ่ม ถือเป็นเรื่องปกติของสังคม