‘จุลพันธ์’ เผย ตัดสิทธิ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ 2กลุ่ม เคยผิดเงื่อนไขโครงการรัฐ
“จุลพันธ์” เผย “บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต” เห็นชอบ แหล่งเงินโครงการ ย้ำ ไม่ลดขนาด 50ล้านคน มีเงินรองรับ เชื่อ เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ โยน พาณิชย์ กำหนดเงื่อนไขสินค้าร่วมโครงการ ตัดสิทธิ “ร้านค้า-ปชช.” ที่เคยทำผิดเงื่อนไขโครงการรัฐ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะกรรมการโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ครั้งที่ 4/2567 ถึงรายละเอียดโครงการว่า วันนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแหล่งที่มาของเงินใหม่ในโครงการดังกล่าว สาเหตุที่ปรับเปลี่ยน เราได้ดำเนินการตามข้อห่วงใยของหน่วยงานตรวจสอบ จากที่เราไปดูในเรื่องแหล่งที่มาของเงิน และกรอบวงเงินต่างๆ เราไม่ได้ลดขนาดโครงการ ยังเป็น50ล้านคน แต่ โครงการในอดีตของรัฐ ไม่เคยมีโครงการไหนมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมเกิน90% การตั้งงบฯ ให้พอเหมาะ จึงเป็นแนวที่หน่วยงานตรวจสอบได้เคยให้ไว้ เราจึงตั้งงบฯไว้ประมาณ 45ล้านคน คือ 4.5 แสนล้าน เตรียมเงินไว้รองรับ แต่หากมีคนลงทะเบียนมากหรือน้อยกว่า เราก็จะใช้กลไกบริหารงบฯ เพื่อให้มีเงินเพียงพอ
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เงินที่ต้องเตรียมน้อยลง และข้อห่วงใยตาม ม.28 ซึ่งตอนนี้ใกล้สิ้นปีงบประมาณ เริ่มเห็นความชัดเจนของตัวเงิน กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ได้เสนอตัวเลขโครงสร้างกรอบแหล่งเงินใหม่ วันนี้ที่ประชุมเห็นชอบ ประกอบด้วยงบประมาณ ปี67 และ68 เพียงพอและดำเนินการได้ภายในกรอบงบประมาณ
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า โดยงบฯ 67 จะเป็นงบประมาณเพิ่มเติม 122,000 ล้านบาท ที่จะเข้าสู่สภาฯ ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.67) ประกอบกับใช้งบประมาณการบริหารจัดการทางการคลัง และการบริหารงบประมาณอีก 43,000 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่งบกลาง แต่เป็นการบริหารจัดการทางงบประมาณ แต่แน่นอนว่า ส่วนหนึ่งอาจจะใช้งบกลางได้ส่วน งบฯ ปี68 วงเงิน 152,000 ล้านบาท ประกอบกับใช้งบประมาณการบริหารจัดการทางการคลัง และการบริหารงบประมาณ ปี68 อีก 132,000 ล้านบาท
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลเชื่อว่า ดิจิทัลวอลเล็ต จะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ แต่พอจะมาใช้งบฯ 68 เกือบทั้งก้อน จะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจอย่างไร นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ถูกต้อง เป็นในเรื่องที่รัฐบาลรับทราบ แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการในการเดินหน้าทั้งหมดต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย และยืนยันว่า จะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจเหมือนเดิม
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงเงื่อนไขการซื้อสินค้า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการได้เสนอมา โดยมีข้อสังเกตในที่ประชุม ก็เป็นไปตามที่เสนอ ให้กับกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้กำหนดรายการสินค้า ไม่ว่าจะเพิ่มเติม หรือปรับลด หากมีความจำเป็นตามสถานการณ์อีกต่อไป ต้องนำมาพูดคุยในคณะอนุฯ กำกับ เช่น อาวุธปืนยุทโธปกรณ์ ส่วนผู้เข้าร่วมโครงการ มีกลุ่มที่ได้รับการยกเว้น ทั้งร้านค้า และตัวบุคคล คือ กลุ่มบุคคลที่เคยกระทำผิดเงื่อนไขโครงการของรัฐในอดีต หรือมีเรื่องการฟ้องร้องการเรียกเงินคืนอดีต ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10,000 ราย ซึ่งจะต้องถูกตัดออก