‘บุญส่ง’ รหัสแดง? สัญญาณรวบตึง 'รัฐสภาไทย'

‘บุญส่ง’ รหัสแดง? สัญญาณรวบตึง 'รัฐสภาไทย'

ประมุขสภาสูง "มงคล-เกรียงไกร" เป็นสัญลักษณ์ของ "บ้านใหญ่สีน้ำเงิน" ส่วน "บุญส่ง" ไม่ใช่สายตรง ว่ากันว่า มาจากสายอิสระ ก่อนที่จะถูกฉาบด้วย "แดง" สัญญาณนี้สะท้อน "รัฐสภาไทย" ถูกรวบด้วยดีลพิเศษ

KEY

POINTS

Key Point :

  • การชิงเก้าอี้ ประมุขสภาสูง ทั้ง3เก้าอี้ เป็นไปแบบไม่ต้องลุ้น
  • มงคล สุระสัจจะ- พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ คือ สายตรงบ้านใหญ่สีน้ำเงิน เพราะความใกล้ชิด-สนิทสนม ที่สื่อออกมาก่อนได้ตำแหน่ง
  • ส่วน "บุญส่ง น้อยโสภณ" ไม่ใช่สีน้ำเงิน เพราะดูจาก คะแนนโหวต ระดับประเทศ ไม่อยู่ในลิสต์ที่ "บ้านใหญ่" จัดวาง
  • บุญส่ง แสดงตัวต้องการเก้าอี้ รองประธานวุฒิสภามาตั้งแต่ต้น จึงเดินสายขอคะแนนจากสว. รวมถึง "ผู้มีอำนาจตัวจริง"
  • คอการเมือง สายอนุรักษ์ โยงภาพปฏิญญาเขาใหญ่ เข้ากับ สมมติฐาน ศึกชิงเก้าอี้ประมุขสภาสูง ถอดเป็นผลลัพท์ว่า บุญส่ง คือ ตัวแทนที่ฉาบด้วย "สีแดง"
  • แต่ไม่ว่า ตัวแทนประมุขสภาสูงจะถูกละเลงสีไหน ปฏิเสธไม่ได้ว่า "รัฐสภาไทย" ถูกกินรวบจากฝั่ง "น้ำเงิน-แดง" เรียบร้อยแล้ว

สัญญาณเสียงในสภาสูง ที่สะท้อนออกมาจากการเลือก “ประมุขสภาสูง” เมื่อ 23 ก.ค. ซึ่งบุคคลที่ถูก “สายสีน้ำเงิน” วางตัว เข้าวินตามโผ เขี่ยคู่แข่งจาก “สายอิสระ-พันธุ์ใหม่” ทิ้งไปท้ายแถว เป็นภาพชัดของ “สภาไทย” ถูกกินรวบ

เสียงโหวตของประมุขสภาสูงที่ออกมา ทั้งผลโหวตเลือก "มงคล สุระสัจจะ” นั่งประธานวุฒิสภา ด้วย 159 คะแนน จากผู้ลงคะแนน 200 คน “พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” นั่งรองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ด้วย 150 คะแนน จากผู้ลงคะแนน 200 คน และ “บุญส่ง น้อยโสภณ" ถูกเลือกให้ นั่งรองประธานวุฒิสภา คนที่สอง ด้วยคะแนนสูงสุด 167 คะแนนจากผู้ลงคะแนน 199 คน

ทั้ง “มงคล-เกรียงไกร-บุญส่ง” คือ คนที่ถูกวางตัวไว้ในเกมชิงประมุขสภาสูง ที่ส่งชื่อมาจาก “คนคุมเกม"

‘บุญส่ง’ รหัสแดง? สัญญาณรวบตึง \'รัฐสภาไทย\' ส่วนแต้มโหวตที่ออกมา ทำให้เห็นถึง “แรงหนุน” ที่แต่ละคนมีไม่เท่ากัน

จะว่าไปแล้ว ก่อนหน้านี้ มีการคาดคะเนว่า “สว.สายสีน้ำเงิน” มีสัดส่วนใหญ่สุดใน วุฒิสภาชุดปัจจุบัน แต่ยังไม่ทราบถึง “ตัวเลข” ที่แน่ชัด 

แต่เมื่อดูผลโหวต จาก “ประธานวุฒิสภา” ที่ถูกส่งมาจากสาย “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” ได้ 159 เสียง อาจเทียบได้เป็น “ตัวเลข” ของก๊วนนี้ชัดเจนในอัตราที่สูงสุด

ส่วนของ “บุญส่ง” ที่มีคะแนนโดดเพิ่ม เป็น 167 คะแนน ซึ่งสูงกว่าตัวเลข “ก๊วนสีน้ำเงิน” ถึง 8 เสียง มีการประเมินไว้ว่า มาจากสายต่างๆ โดยเฉพาะ “สว.สีแดง” ที่ “โหวต” ให้

อีกมุมของ “สว.ปัจจุบัน” มองความเคลื่อนไหวของ “บุญส่ง” แล้วบอกว่า “เขาเดินสายไปทุกกลุ่ม” เพื่อขอเสียงสนับสนุนให้เป็น “รองประธานวุฒิสภา” ซึ่งรวมถึงกลุ่ม “สว.พันธุ์ใหม่” ที่มี “นันทนา นันทวโรภาส” สว.สายสื่อมวลชน ออกปากยอมรับว่า “บุญส่ง น้อยโสภณ” คือ “พันธมิตร”

เหตุที่ “สว.พันธุ์ใหม่” ยอมให้ “บุญส่ง” เป็นพันธมิตรในช่วงแรกนั้น เพราะเชื่อในทีแรกว่า “บุญส่ง” นั้นมาจากสายอิสระ 

‘บุญส่ง’ รหัสแดง? สัญญาณรวบตึง \'รัฐสภาไทย\' ไล่เรียงจากการผ่านเข้ารอบประเทศใน “ผู้สมัคร สว.กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม” ว่าที่รองประธานวุฒิสภา คนที่สองนั้น ได้คะแนนเป็นอันดับ 7 ได้ 29 คะแนน ซึ่งไม่อยู่ในลิสต์ของ “สว.สายน้ำเงิน” ที่พาเหรดได้คะแนนเลือกเป็นกอบเป็นกำ ยึดลำดับ Top5 และได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 50 คะแนนในแต่ละกลุ่ม

จึงทำให้ “กลุ่มพันธุ์ใหม่” เชื่อว่า “บุญส่ง” ไม่ได้มาจาก “กลุ่มสีน้ำเงิน” และพูดคุยกันได้ แต่พอถึงการช่วงชิงตำแหน่งแล้ว “บุญส่ง” วิ่งไปทุกกลุ่ม รวมถึงวิ่งเข้าหา “ผู้มีอำนาจตัวจริง”

ความของ “บุญส่ง” ที่ได้รับตำแหน่ง “นักการเมืองฝั่งอนุรักษ์นิยม” ที่อยู่นอกสนามการเมือง มองว่า อาจเกิดจาก “ดีลพิเศษ” ซึ่งสอดรับกับภาพ “ปฏิญญาเขาใหญ่” ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ร่วมก๊วนกอล์ฟกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 

‘บุญส่ง’ รหัสแดง? สัญญาณรวบตึง \'รัฐสภาไทย\' พร้อมฟันธงว่า “แดง-น้ำเงิน” จับมือเป็นรวม “สภาบน-สภาล่าง” ให้เป็น “พันธมิตร” การเมือง และปิดดีล “3 เก้าอี้ประมุขสภาสูง” แบบลงตัว

เพราะด้วย “ดีกรีส่วนตัว” ความเป็นนักกฎหมาย ทำให้ “คุณสมบัติ” ผ่านการยอมรับ ขณะที่แฟ้มประวัติที่เคยเป็น ที่ปรึกษาอดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่สอง “ศุภชัย สมเจริญ” ผู้กว้างขวางและเป็นมิตรกับทุกสี - อดีต กกต. - อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา จึงพอมีช่อง และ “เส้นทาง” ที่ส่งถึงเก้าอี้ที่ต้องการได้

ทว่าภาพลักษณ์ของ “วุฒิสภา” หลังศึกชิงเก้าอี้ประมุขสภาสูงจบลง ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นภาพติดลบ

เพราะความเป็น “กลุ่มก้อน” ซึ่งเชื่อว่ามาจาก “การสั่ง” และการสั่งแบบกลุ่มก้อนใหญ่ขนาดนี้ “วุฒิสภาถูกกินรวบ” เป็นที่เรียบร้อย ไม่มีความเป็นอิสระ หรือ ปลอดการเมืองตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญกำหนดอีกต่อไป

แล้ว “ฝ่ายการเมือง” ต้องการอะไรจาก การครอบงำ “วุฒิสภา” ที่ไร้เขี้ยวเล็บ ไม่มีอำนาจพิเศษโหวตนายกฯ

‘บุญส่ง’ รหัสแดง? สัญญาณรวบตึง \'รัฐสภาไทย\' สิ่งที่ถูกวิเคราะห์ไปล่วงหน้าคือ “ต้องการความสงบ ลบความขัดแย้ง” โดยเฉพาะความขัดแย้งที่เป็น อุปสรรคต่อกระบวนการรื้อใหญ่ “รัฐธรรมนูญ 2560”  ออกกฎหมายนิรโทษกรรม ให้ “นักโทษวีวีไอพี” แบบไร้เงื่อนไข รวมถึง ปลดล็อก “แทกติก” บางอย่างเพื่อปลดบ่วงให้กับ “นักการเมืองพันธุ์พิเศษ” ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมจับตาว่า จะเป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์ หรือ แฝงผลประโยชน์ ของบางกลุ่ม-บางฝ่าย หรือไม่

ต้องยอมรับว่าบทบาทของ “วุฒิสภา” ในอดีต ที่วางบทบาทให้เป็น สภากลั่นกรอง ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ “ดับฝัน” และเป็น ขวากหนาม ของการ “คิดใหญ่” ของ นักการเมืองฝั่งผู้แทนราษฎร ที่ต้องการทำให้สำเร็จ

ดังนั้น เมื่อ “สภาสูง” ขณะนี้ กลายเป็นเนื้อเดียวกันกับ “สภาล่าง” และยังมีความเชื่อมโยงกันอย่างมีนัยสำคัญ การคิดใหญ่ของ “ฝ่ายการเมือง”ที่ต้องการผลักดัน “วาระแฝง” ซึ่งสมประโยชน์ “ฝ่ายน้ำเงิน-แดง” ย่อมไม่มีอะไรยากอีกต่อไป.