'หมอเปรมศักดิ์' ชงแก้ข้อบังคับ เพิ่มกมธ.เป็น28คณะ เน้นตรวจสอบรัฐบาล

ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.กลุ่มสีขาว แถลงที่สภาฯ ถึงการเตรียมยื่นร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ต่อที่ประชุมมวุฒิสภา วันที่ 2 ส.ค. ว่า จากการรับฟังความเห็นของ สว. ต่อการปรับปรุงข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ในส่วนของการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)สามัญ โดยจากการรับฟังของสว. ต้องการให้มี กมธ.ที่ตรงกับกลุ่มอาชีพ ดังนั้นในร่างข้อบังคับฯ ที่ตนยกร่างนั้น ได้เสนอให้เพิ่มกมธ. เป็น 28 คณะ  โดยพิจารณาจากการทำงานเป็นสำคัญ  อาทิ  กมธ.การเศรษฐกิจ เพื่อดูภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและของโลก กมธ.การเงินการคลังและสถาบันการเงิน กมธ.การกีฬา กมธ.การท่องเที่ยว กมธ.กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กมธ.การตำรวจ เป็นต้น

“การนำเสนอเพื่อเพิ่มความเข้มข้นตรวจสอบรัฐบาล หากหวังกมธ.ของ สภาผู้แทนราษฎรที่มี 38 คณะ เห็นว่าพรรคไหนได้รัฐมนตรีกระทรวงไหน จะส่ง สส.พรรคนั้นเป็นประธานกรรมาธิการ ทั้งนี้ กมธ. 8 - 18 คน สามารถเชิญบุคคลภายนอกเป็นอนุกรรมาธิการ โดยให้กมธ.แต่ละคณะมี จำนวนอนุกมธ.ได้ 5 คณะ  ทั้งนี้ผมมองประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่การเพิ่มคณะกรรมาธิการเพื่อหวังเพิ่มงบประมาณ อย่างไรก็ดีผมเชื่อว่าการใช้งบจะเพิ่มนั้นเป็นจำนวนเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการตรวจสอบโครงการสำคัญ เช่น เติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวย้ำว่าในกรณีที่มองว่าสว.ควรทำหน้าที่กลั่นกรอง ส่วนการตรวจสอบรัฐบาลเป็นเรื่องของฝ่ายค้านนั้น ตนมองว่าขณะนี้ ฝ่ายค้านอ่อนแรง มีแต่ข่าวยุบพรรค จะเป็นความหวังแค่ไหนได้ ขณะที่สว.เริ่มทำงานยังกระฉับกระเฉง และมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ คือ กลั่นกรองกฎหมายจากสภา เห็นชอบองค์กรอิสระ และควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน หากไม่ทำหน้าที่จะผิดสัญญาประชาคมที่ต้องทำงานเพื่อประชาชน ทั้งนี้การตรวจสอบของฝ่ายค้านตรวจสอบอาจเป็นมิติในการตรวจสอบทางการเมือง และแข่งขันทางการเมือง แต่สว.ไม่ได้หวังผลทางการเมืองและต้องการตรวจสอบตามเนื้อผ้า

“การเพิ่มจำนวนคณะกรรมาธิการ ไม่ใช่การแบ่งเก้าอี้กัน เพราะผมเป็นสว.สีขาว ไม่ใช่สว.ส่วนใหญ่ที่อาจมองแบบนั้นได้ ซึ่งการเสนอของผมนั้นเปิดพื้นที่ให้สว.ได้ทำงานตามความถนัด ทั้งนี้สว.ที่มาจาก 20กลุ่มอาชีพมีที่มาหลากหลายจึงต้องการเปิดพืนที่ให้ทำงาน อย่างไรก็ดีผมขอเรียกร้องให้สว.ได้ร่วมกันทำงานอย่าแบ่งกลุ่มหรือแบ่งสี” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว.