'นักวิชาการ' แนะ 'รัฐบาล' ถอนคันเร่ง 'แจกหมื่น'

'นักวิชาการ' แนะ 'รัฐบาล' ถอนคันเร่ง 'แจกหมื่น'

"นักวิชาการ" แนะ "รัฐบาล" ถอยโครงการเติมเงินผ่านดิติทัลวอลเล็ต  หวั่นสร้างวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่ คาดจะมีคนยื่นตีความต่อองค์กรอิสระ

ที่รัฐสภา นายวีระ ธีระภัทรานนท์ นักวิชาการ ฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างน้อย ได้อภิปรายต่อที่ประชุมสภา วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ... วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ผ่านโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต  ว่า ให้รัฐบาลถอยคันเร่งในการใช้โครงการดังกล่าวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเห็นชัดเจนว่ามีปัญหาและอาจต้องส่งให้องค์กรอิสระตีความในในอนาคต นอกจากนั้นขอให้รัฐบาลอย่ามองข้ามปัญหาเศรษฐกิจที่เคยเกิดขึ้นที่ประเทศกรีซ

นายวีระ อภิปรายด้วยว่าในสถานการณ์ของงบประมาณในประเด็นพบสัญญาณที่เป็นอันตราย คือ ส่วนรายจ่ายดอกเบี้ยที่สูงเกือบ 10% ของรายได้ที่หามาได้ โดยในการจัดทำงบปี68 พบมีกาตั้งงบเพื่อชดใช้หนี้ 4.1แสนล้านบาท แบ่งเป็นเงินต้น 1.5แสนล้านบาท และ ดอกเบี้ย 2.6แสนล้านบาท เท่ากับ 9%  นอกจากนั้นคือการ ทำงบขาดดุลสูงที่สุด ติดเพดานงบขาดดุลมากไม่เคยมีมาก่อน ขณะนี้มียอดขาดดุลรวม 8.05แสนล้านบาท ซึ่งมีเพดานที่สูงสุดโดยไม่ผิดกฎหมาย คือ8.15แสนล้านบาท ดังนั้นจึงเหลือเงิน1หมื่นล้านบาท ดังนั้นในข้อกังวลคือวิกฤตการเงินกาารคลังในอนาคตหากบริหารจัดการไม่ถูกต้อง ไม่รอบคอบ

นายวีระ อภิปรายตั้งข้อสังเกตในประเด็นการเมืองด้วยว่า เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้นำเป้าหมายสร้างความชอบธรรมในวิธีการดังกล่าวอันตราย ทั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นนโยบายหาเสียงที่เป็นภาระต่องบประมาณและอาจเป็นตัวอย่างของการทำนโยบายที่เสี่ยงต่อการทำงบประมาณในอนาคต ดังนั้นขอให้สส.พิจารณาก่อนลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว.