ศาลอาญา สั่งจำคุก 3 ปี ‘เพนกวิน’ หมิ่นเบื้องสูง ลดโทษเหลือจำ 2 ปี ไม่รอลงอาญา

ศาลอาญา สั่งจำคุก 3 ปี ‘เพนกวิน’ หมิ่นเบื้องสูง ลดโทษเหลือจำ 2 ปี ไม่รอลงอาญา

ศาลอาญา สั่งจำคุก 3 ปี ‘เพนกวิน’ หมิ่นเบื้องสูง ลดโทษเหลือจำ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ออกหมายจับหลังหลบหนีรับโทษอายุความ 10 ปี

ที่ห้องพิจารณา 905 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมิ่นเบื้องสูงหมายเลขดำ อ.2802/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14

ตามที่อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลยสรุปความว่า ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2564 ต่อเนื่องกัน จำเลยใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ พริษฐ์ ชิวารักษ์ โพสต์ข้อความและเผยแพร่ภาพสถาบัน พร้อมข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทแสดงความอาฆาตมาดร้าย ขอให้ลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย โดยจำเลยให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว
 

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ แต่นายพริษฐ์ไม่มาศาลตามนัด มีพฤติการณ์หลบหนี ศาลจึงออกหมายจับและนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง

โดยวันนี้นายพริษฐ์ยังคงไม่เดินทางมาศาล คงมีแต่ทนายความเท่านั้นมาศาล ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยตามกฎหมาย ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงพยานโจทก์ล้วนเบิกความสอดคล้องต้องกัน ไม่มีเหตุเบิกความใส่ร้ายจำเลย
 

ส่วนที่จำเลยอ้างว่า อาจจะมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายอื่นเข้ามาใช้เฟซบุ๊กตนเอง ซึ่งก็ไม่แน่ใจนั้น หากเป็นความจริง จำเลยสามารถลบภาพและข้อความดังกล่าวได้ แต่ไม่กระทำ นอกจากนี้ การโพสต์ภาพและข้อความของจำเลยในวันที่ 28 กรกฎาคม ชักชวนให้ใส่ชุดดำก็เป็นบริบทให้เข้าใจได้ว่าเป็นการไว้ทุกข์ ที่จำเลยอ้างว่า เป็นการกระทำเชิงสัญญลักษณ์ เพื่อให้มีการปฏิรูปสภาบันนั้นฟังไม่ขึ้น

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 เป็นความผิดกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานดูหมิ่นสถาบัน อันเป็นบทหนักสุด จำคุก 3 ปี คำให้การจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ให้ออกหมายจับจำเลยมารับโทษตามคำพิพากษา ภายในอายุความ 10 ปี