‘จาตุรนต์’ ถอนฟ้อง ‘สนธิ’ หลังยอมขอโทษกล่าวหายกเลิกวิชาประวัติศาสตร์

‘จาตุรนต์’ ถอนฟ้อง ‘สนธิ’ หลังยอมขอโทษกล่าวหายกเลิกวิชาประวัติศาสตร์

‘จาตุรนต์’ ถอนฟ้อง ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ หลังยอมขอโทษ ยอมลบคลิปปมจัดรายการกล่าวหา อดีต รมว.ศึกษาธิการยกเลิกวิชาประวัติศาสตร์

นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอถอนฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2567  หลังนายสนธิออกมาขอโทษผ่านรายการ “SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep252” และโพสต์ข้อความลงบนเฟสบุ๊กยอมรับว่าตนเข้าใจผิดว่านายจาตุรนต์เป็นคนสั่งการยกเลิกวิชาประวัติศาสตร์

โดยนายจาตุรนต์  กล่าวว่า ตนยินดีที่เรื่องนี้ยุติไปได้ด้วยดี ที่สำคัญก็คือยุติความเข้าใจผิดที่อาจจะมีอยู่ในสังคม เพราะว่านายสนธิเป็นผู้จัดรายการที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เมื่อผู้คนได้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไปก็กลายเป็นความเสียหายทั้งต่อตนเองและเสียหายต่อระบบการศึกษา ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ตนต้องฟ้องแพ่งนายสนธิ แต่เมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่หารือกันในศาลแล้ว ตนก็ได้ตัดสินใจที่จะถอนฟ้อง เป็นอันว่าในทางคดีก็ยุติลงเท่านี้ ที่สำคัญคือเป็นการยุติความเข้าใจของสังคมว่าจริงๆ แล้วไม่มีใครในระบบการศึกษาไทยที่ลบการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ออกไปจากหลักสูตรการศึกษาของไทยเลย ก็จะได้เป็นที่เข้าใจทั่วกัน
 

“ผมก็ต้องขอขอบคุณคุณสนธิที่มีสปิริต เมื่อฟังข้อมูลข้อเท็จจริงแล้วก็พร้อมที่จะแก้ไขให้ถูกต้อง ก็ต้องขอขอบคุณด้วยใจ และอยากจะอธิบายเพิ่มเติมว่าในครั้งที่ผมเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการได้มีแนวคิดให้พัฒนาการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ให้เด็กสามารถที่จะถกเถียงและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ได้อย่างเปิดกว้าง แต่ตอนที่มีหน้าที่อยู่เพียงสั้นๆ จึงไม่มีโอกาสที่ได้ปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาใดๆเลย” นายจาตุรนต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงาน นายสนธิ ระบุผ่านรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 61 ออกอากาศเมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ผมเคยออกรายการพูดพาดพิงถึงคุณจาตุรนต์ ฉายแสง โดยผมพูดว่า คนที่สั่งให้กระทรวงศึกษาธิการไม่ต้องสอนประวัติศาสตร์อีกต่อไป ชื่อ จาตุรนต์ ฉายแสง"

นายสนธิ กล่าวต่อว่า “ผมได้รับการชี้แจงข้อเท็จจริงจากนายจาตุรนต์ และให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า นายจาตุรนต์ ไม่ได้เป็นคนสั่งการเกี่ยวกับเรื่องการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ก็เลยถือโอกาสขอโทษนายจาตุรนต์ เกี่ยวกับความเข้าใจผิดดังกล่าวด้วย”

สำหรับจุดเริ่มต้นของการดำเนินคดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2564 โดยนายจาตุรนต์ฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อนายสนธิเนื่องจากการจัดรายการดังกล่าวสร้างความเข้าใจผิดต่อสังคมเป็นวงกว้าง เพราะการศึกษาวิชาประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญของเด็กเยาวชนและประชาชนไทย ดังนั้นการที่ถูกกล่าวหาว่าไปเป็นผู้ยกเลิกวิชาการเรียนการสอนประวัติศาสตร์จึงเป็นความเสียหายอย่างมาก ทั้งนี้ระหว่างการพิจารณาได้มีพยานผู้เชี่ยวชาญและมีความรู้ประสบการณ์ทางด้านการศึกษามาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนว่าไม่เคยมีการยกเลิกวิชาประวัติศาสตร์ออกไปจากระบบการศึกษาไทยเลยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

นายสนธิจึงแถลงต่อศาลว่าตนยินดีที่จะลบคลิปวิดีโอในเฟซบุ๊ก ยูทูป และเว็บไซต์ที่ได้พาดพิงในกรณีดังกล่าวออก รวมทั้งจะพูดในรายการ “SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง” เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและกล่าวขอโทษ จนเมื่อนายสนธิปฏิบัติตามที่ได้แถลงต่อศาลไว้ นายจาตุรนต์จึงถอนฟ้องในที่สุด

‘จาตุรนต์’ ถอนฟ้อง ‘สนธิ’ หลังยอมขอโทษกล่าวหายกเลิกวิชาประวัติศาสตร์

ด้าน ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษาและอดีตอธิการบดีหลายมหาวิทยาลัย  กล่าวว่า วิชาประวัติศาสตร์ไม่เคยหายไปจากหลักสูตรไทย เพราะฉะนั้นที่บอกว่ามีคนเอาวิชาประวัติศาสตร์ออกไปจนทำให้เด็กเยาวชนลืมรากเหง้าของความเป็นไทยจึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เมื่อไม่ถูกต้องเช่นนี้และมาใช้เป็นประเด็นทางการเมืองจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดแล้วสร้างความเสียหาย เพราะบางทีคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงของการศึกษา อาจไม่เข้าใจคำศัพท์บางอย่างที่ใช้ในการศึกษา เช่นคำว่า “เนื้อหา” “กลุ่มสาระ” หรือคำว่า “วิชา” เมื่อโครงสร้างของหลักสูตรเปลี่ยนไปไม่เรียกว่า “วิชา” แต่เรียกว่า “กลุ่มสาระ” ก็ทำให้วิชาประวัติศาสตร์จะจัดอยู่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ในกลุ่มสาระนี้ก็จะมีเนื้อหา ทั้งประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ศาสนา หรือแม้กระทั่งหน้าที่พลเมือง เพราะฉะนั้นเมื่อไม่เจอคำว่าวิชาประวัติศาสตร์ก็อาจจะคิดว่ามันไม่มีวิชานั้นแล้ว แต่ในข้อเท็จจริงเนื้อหาวิชาประวัติศาสตร์ยังอยู่

“คุณสนธิมีความเป็นลูกผู้ชาย ในแง่ที่ว่าเมื่อทราบว่าตัวเองเข้าใจผิดไป หลงผิดไป กระทำผิดไป ก็มีการขอโทษ ส่วนคุณจาตุรนต์เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนั้นแล้วท่านก็ไม่ถือโทษ ผมก็คิดว่ามีน้ำใจที่ดี ในทางคดีจะได้ยุติไป” ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ภาวิช กล่าว

ทั้งนี้ในคดีเดียวกันนายจาตุรนต์ ยังได้ฟ้องร้องนายกฤษณ์พงศ์ เกียรติศักดิ์ และบริษัท บลูสกาย แชลแนล ซึ่งได้นำคลิปของนายสนธิไปนำเสนอในรายการข่าวของช่องบลูสกาย โดยเมื่อได้เจรจากันแล้วก็ยินดีที่จะดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับนายสนธิ ภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้