รอยอดีต 'เอก ต๋อม ติ่ง' จาก 'สนนท.' สู่พรรคประชาชน
20 ปี บนเส้นทางแสวงหา 3 สหาย “เอก ต๋อม ติ่ง” จากเบ้าหลอม สนนท. สมัชชาคนจน สู่พรรคมวลชนในนามอนาคตใหม่ ก้าวไกล และประชาชน
วันนี้ ติ่ง-ศรายุทธิ์ ใจหลัก ขยับสู่แถวหน้า ส่วน เอก ธนาธร ต๋อม ชัยธวัช ก็รับบทโปลิตบูโรหลังม่าน สร้างพรรคทางเลือกสู่ชัยชนะปี 2570
พลันที่มีชื่อ “ติ่ง” ศรายุทธิ์ ใจหลัก เป็นเลขาธิการพรรคประชาชน ก็มีการขุดภาพเก่าสมัย 3 สหาย “เอก ต๋อม ติ่ง” ยังเป็นนักศึกษานักกิจกรรมยุคปี 2540 มาเผยแพร่ในสื่อออนไลน์
“เอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า , “ต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ “ติ่ง” ศรายุทธิ์ ใจหลัก เป็นผู้นำนักศึกษาในนาม “สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย” (สนนท.) ยุคเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ปี 2540
พรรคประชาชน (People's Party) อาจเป็นชื่อพรรคที่โดนใจธนาธรมากที่สุดก็เป็นได้ เพราะหลังเรียนจบ ธนาธรสมัครเข้าทำงานในองค์กรที่ชื่อ “กลุ่มเพื่อนประชาชน” (Friend of people-FOP) ซึ่งเป็นฝันแรกๆ ของเขา
กลุ่มเพื่อนประชาชน (FOP) เกิดมาจากนักกิจกรรมกลุ่มหนึ่งที่มีประสบการณ์การทำงานใน สนนท. และสมัชชาคนจน ต้องการสร้างองค์กรขึ้นมารองรับการต่อสู้ในระยะยาวของภาคประชาชน
ปีนี้ จะครบวาระ 40 ปีแห่งการก่อตั้งสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) บรรดาอดีตเลขาธิการ สนนท.กลุ่มหนึ่ง ได้เตรียมจัดงานใหญ่ในช่วงเดือน ต.ค.2567
สนนท. จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2527 จากการจัดสัมมนาองค์การนักศึกษาทั่วประเทศขึ้นที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีองค์การนักศึกษาเข้าร่วม 14 สถาบัน ภายใต้คำขวัญ 3 คำ “เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ”
การก่อเกิดของ สนนท. ถือว่าเป็นมรดกตกทอดจากศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศ(ศนท.) ซึ่งถูกยุบไปภายหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519
หลังปี 2540 บทบาท สนนท. ได้ลงพื้นที่ทำงานร่วมกันกับชาวบ้านในพื้นที่ที่เกิดปัญหาจากโครงการหรือนโยบายการพัฒนาของรัฐ เช่น โครงการท่อก๊าซไทย-พม่า,เขื่อนปากมูล ร่วมกับสมัชชาคนจน และโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลย์ ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา
สามสหาย สนนท.
ดังที่ทราบกัน “เอก ต๋อม ติ่ง” เป็น “เด็กวิดวะ” ธนาธร คณะวิศวกรรมศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ,ชัยธวัช คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และศรายุทธิ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์
สำหรับ ต๋อมและติ่ง เป็นเพื่อนกันมาสมัยเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยต๋อมเป็นคนสงขลา และติ่งมาจากพังงา ทั้งคู่เช่าหอพักอยู่ด้วยกัน
ปี 2541 เอกโคจรมาพบกับต๋อม และติ่ง ที่สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) โดยต๋อม ชัยธวัช เป็นเลขาธิการ สนนท.
ช่วงเวลานั้น มีการปักหลักชุมนุมของชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูล และจัดตั้งเป็นหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งต๋อม ยังได้ร่วมกับหนึ่งในกลุ่มพ่อครัวใหญ่ของสมัชชาคนจน
ปี 2542 อุเชนทร์ เชียงเสน เป็น เลขาธิการ สนนท. ทั้งสามสหายก็ยังทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนนักศึกษาต่างสถาบัน
ปี 2543 ติ่ง เป็นเลขาธิการ สนนท. โดยมีเอก เป็นรองเลขาธิการ สนนท. ซึ่งเวลานั้น สนนท. ได้เคลื่อนไหวร่วมกับสมัชชาคนจน และเครือข่ายสลัม 4 ภาคเป็นหลัก
ติ่ง ศรายุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ The Reporters บอกเล่าถึงช่วงการเป็นนักกิจกรรม ร่วมกับเอกและต๋อม ว่า
“ตอนนั้นเราคิดตามกระแสสังคม ณ เวลานั้น เชื่อในการเคลื่อนไหวนอกสภา เป็นยุคที่ประชาชนค่อนข้างมีเสรีภาพ ประชาชนเคยชุมนุมกันง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เราเป็นส่วนหนึ่งไปเรียนรู้ นักศึกษาไปเรียนรู้ ผมไม่ได้มองว่านักศึกษาใหญ่โต เป็นกลุ่มเล็กๆ ซึ่งเวลานั้นเราไม่ได้สนใจการเมือง แต่การเคลื่อนไหวนอกสภาในเวลานั้น ทำให้เราเรียนรู้และเห็นว่าอำนาจรัฐสำคัญมาก”
หลังปี 2543 ติ่ง ศรายุทธิ์ ยังเดินสายพูดคุยกับเพื่อนนักกิจกรรมรุ่นเดียวกัน แลกเปลี่ยนความคิดตามประสาหนุ่มสาวหัวก้าวหน้า และแวบหนึ่งเคยมีแนวคิดจะตั้งพรรคการเมือง
เส้นทางนักแสวงหา
ในโลกความจริง เมื่อเรียนจบ ทั้งสามคนก็แยกย้ายกันไปทำงานตามวิถีทางของแต่ละคน
ธนาธร ได้สมัครเป็นเจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มเพื่อนประชาชน (Friend of people-FOP) ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิแห่งหนึ่งในเยอรมัน
ตอนนั้น ธนาธรไม่คิดจะกลับไปบริหารงานที่ไทยซัมมิทกรุ๊ป แต่หลังจากพ่อเสียชีวิตในปี 2545 ในฐานะลูกชายคนโต เขาต้องกลับไปประคองธุรกิจของครอบครัว
ส่วนต๋อม ชัยธวัช และปุ๊ ธนาพล อิ๋วสกุล ได้รับการติดต่อจากรุ่นพี่คนหนึ่งให้เข้าทำงานที่สถาบันพัฒนาการเมือง ของภูษณ ปรีย์มาโนช ซึ่งต๋อมและปุ๊ รับหน้าที่ผลิตวารสารชื่อการเมืองใหม่
ปี 2545 ปุ๊ ธนาพล ชวน ต๋อมและเอก มาลงทุนทำสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เพื่อผลิตวารสารฟ้าเดียวกัน โดยมีปุ๊และต๋อม เป็นคนทำงาน
ช่วงเวลานั้น ติ่ง ศรายุทธิ์ แยกไปทำงานที่ สปป.ลาว แต่ก็ยังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับต๋อมและเอกอยู่เป็นประจำ
“ผมไปลาว ระยะเวลา 20 ปีหลังจากแยกย้ายก็มีแลกเปลี่ยนกันบ้าง ถกเถียงกัน เราเป็นมิตรกัน เถียงกัน ก็ไม่มีปัญหากัน เราคล้ายกันมาก ผมไม่ใช่คนเก่งในเรื่องความคิด ยอมรับ ต๋อม และ เอก เก่งกว่าเยอะมาก แต่เราถกกันจนเข้าใจกัน” ติ่งเล่าผ่าน The Reporters
ก่อการพรรคทางเลือก
ปลายปี 2561 ธนาธร ชัยธวัช และศรายุทธิ์ คุยกันตกผลึกเรื่องการทำพรรคการเมือง จึงออกสัญจรไปเชื้อเชิญนักวิชาการ นักกิจกรรม นักธุรกิจมาร่วมกันก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่
ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่ ในเวลานั้น จึงเกิดขึ้นจากกลุ่มเพื่อนเอก และปิยบุตร แสงกนกกุล โดยติ่ง ศรายุทธิ์ ที่มีความเป็นนักปฏิบัติมากกว่านักคิด จึงรับตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค
เอก ต๋อม ติ่ง สามสหายที่คิดก่อการสร้างพรรคอนาคตใหม่ ก็หวังให้เป็นพรรคทางเลือก สำหรับผู้รักสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และประชาธิปไตย
จากพรรคอนาคตใหม่ ผ่านมาถึงพรรคก้าวไกล และพรรคประชาชน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พรรคนี้ฆ่าไม่ตาย แม้ธนาธร และชัยธวัช จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่ศรายุทธิ์ ก็พร้อมจะรับไม้ต่อในบทบาทใหม่-เลขาธิการพรรค
ธนาธร เชื่อว่า เลือกตั้งปี 2570 พรรคประชาชน จะได้ สส.มาเป็นอันดับ 1 และมี สส.มากกว่า 250 คน
“ผมยังยืนยันว่าในสังคมที่เป็นสมัยใหม่แบบนี้ ฆ่าล้างกันไม่ได้เหมือนสมัยก่อน..คุณจะเอาประเทศกลับไปเป็นร้อยปีก็ไม่ได้เหมือนกัน เหลือทางเดียวก็คือประนีประนอม เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเลือดเสียเนื้อ”
นี่คือคำพูดของธนาธร เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่ส่งสัญญาณถึงคนบางกลุ่ม และหากความฝันเขาเป็นจริงในปี 2570 หนทางเดียวที่เหลืออยู่คือ การประนอมอำนาจระหว่างกลุ่มเพื่อนเอกกับกลุ่มชนขั้นนำ