'ภูมิธรรม'ยัน​ 'อิ๊งค์' ประสบการณ์การเมืองแน่น ตั้งแต่ 8 ขวบ พารัฐบาลรอด​

'ภูมิธรรม'ยัน​ 'อิ๊งค์' ประสบการณ์การเมืองแน่น ตั้งแต่ 8 ขวบ พารัฐบาลรอด​

"ภูมิธรรม" ยัน​ "อิ๊งค์" มีวัยวุฒิคุณวุฒิ ประสบการณ์การเมือง ซึมซับตั้งแต่ 8 ขวบ ตามพ่อ ไปปราศรัยทุกที่​ เชื่อนำพารัฐบาลรอด​ ลั่นโควตารัฐมนตรีพรรคร่วม- โครงการดิจิทัล​ ต้องล้างไพ่ใหม่เพราะเป็นรัฐบาลชุดใหม่

เมื่อเวลา 09.05 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม​ เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อโหวตเรื่องนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่า พรรคร่วมรัฐบาล เห็นตรงกัน และแสดงท่าทีทางการเมือง ของแต่ละพรรคเมื่อวานนี้ ถือเป็นโอกาส และบทบาท ของพรรคเพื่อไทย เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะเลือกบุคคลที่มีความพร้อมที่สุด เป็นบุคคลที่มีศักยภาพ มีความสามารถที่จะมา สานต่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน ที่กำลังประสบอยู่ค่อนข้างหนัก​ 

ส่วนเมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิมทั้งหมดยังยืนยันโควต้ารัฐมนตรีเดิมหรือไม่นั้นนายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องรอนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ ถ้าได้รับการโหวต ให้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นสิทธิ์ของท่านที่จะพิจารณา​

เมื่อถามว่าตามมารยาททางการเมืองต้องเป็นโควตาเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า "ไม่มี โควตาเดิมหรอกครับ" เมื่อรัฐบาลเก่าสิ้นสุดลง รัฐบาลใหม่ก็ต้องอยู่ที่ผู้นำคือนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ตั้งมา ซึ่งจะต้องหารือกับหัวหน้าพรรค ที่สนับสนุน ส่วนจะเป็นการล้างไพ่ใหม่หรือไม่ขออย่าพูดแบบนั้น​  เพราะยังไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะคิดอย่างไร ต้องรอให้พิจารณา

ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิมสนับสนุนได้มี เงื่อนไข หรือไม่ ว่าจะต้องเป็นโควตาเดิม เพราะมีกระแสข่าว ว่าพรรคร่วมเดิมจะใช้โควตาเดิม นายภูมิธรรม ระบุ ไม่ทราบว่าเป็นความเห็นผู้ใด แต่โดยมารยาท ก็คุยกันตามปกติ ในการเลือกผู้นำคนใหม่ ที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ ว่ามีศักยภาพที่จะทำงาน รายละเอียดต่อไปต้องไปทีละขั้น เราเสนอชื่อยังไม่แน่ใจเลยว่าสภาจะตัดสินใจอย่างไร การจะพูดอะไรไปก่อนสภาตัดสินใจ ก็จะดูไม่มีมารยาททางการเมือง วันนี้ถ้าสภาตัดสินใจเลือกนางสาวแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี​ ขั้นตอนต่อไปต้องให้เวลานางสาวแพทองธารพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล​ ถึงสถานการณ์ปัจจุบัน และให้ทุกฝ่ายคิดร่วมกัน 

ส่วนที่นางสาวแพทองธารเป็นคนในตระกูลชินวัตร หลายคนสงสัยว่า จะมีการเปลี่ยนผ่าน ประเทศไปได้อย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า คนใหม่จะเป็น ตระกูลชินวัตรหรือไม่ ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่เป็นด้านลบ ตระกูลชินวัตรได้ทำงานกับประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่อง ใช้บุคลากรของตระกูลมาสนับสนุนเป็นเรื่องรายบุคคล นายกรัฐมนตรีแต่ละคนล้วนมีลักษณะพิเศษ วันนี้นางสาวแพทองธารเสนอตัวต้องอยู่ที่สาธารณชนเป็นผู้ตัดสิน​ ว่าเป็นอย่างไร สิ่งที่สำคัญ คือ นางสาวแพทองธารไม่ได้เพิ่งเข้ามาทางการเมือง​ แต่ได้ซึมซับ สถานการณ์ประเด็นและภาวะทางการเมือง มายาวนานตั้งแต่ 8 ขวบ​ ตนเคยให้สัมภาษณ์ไปว่านางสาวแพทองธารเคยมีประสบการณ์ทางการเมืองตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคไทยรักไทย หลังจากนั้นติดตาม คุณพ่อไปปราศรัยทุกที่ สามารถรับฟังอะไรต่างๆได้มาก หลังตัดสินใจเข้าสู่การเมืองได้เปิดตัว เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่จังหวัดขอนแก่น เดิมยังเป็นห่วงว่าเพิ่งเข้ามาการเมือง​ ขณะที่สื่อมวลชนก็สัมภาษณ์ แต่นางสาวแพทองธารก็ตอบได้ดีและมีวุฒิภาวะทางการเมือง ที่จะตอบประเด็นต่างๆ และได้แสดงบทบาทจนเป็นที่ยอมรับของพรรค จนมาเป็นหัวหน้าพรรคในปัจจุบัน และสามารถปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคได้ดีไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นการที่กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเลือก นางสาวแพทองธาร จึงเห็นว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง สมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน สนับสนุนและผลักดันให้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่จะรับใช้ประเทศชาติต่อไป

ส่วนยืนยันจะเดินหน้าโครงการดิจิทัล​วอลเล็ต หรือไม่นายภูมิธรรม กล่าวว่า นางสาวแพทองธารจะต้องพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนที่จะต้องแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภาเพราะถือว่าเป็นการเริ่มต้นรัฐบาลใหม่

เมื่อถามว่าถ้ามีการยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต พรรคเพื่อไทยจะเสียความน่าเชื่อถือนายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ไปถึงตรงนั้น ว่าจะทำหรือไม่ทำ จึงขอให้รอดูนโยบาย ของรัฐบาลชุดใหม่ก่อน​ ที่ต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลและเห็นพ้องต้องกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำมีกระแสข่าวว่านายทักษิณ​ ชินวัตร ทวงติงและอยากให้ยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต​ นายภูมิธรรม กล่าวว่าได้ยินครั้งแรกจากสื่อ​ ไม่ได้ยินจากปากนายทักษิณหรือฟังจากหู​ เพราะช่วงที่พิจารณาเลือกนางสาวแพทองธารตนติดภารกิจที่ต่างประเทศ

ส่วนวัยวุฒิของนางสาวแพทองธารจะเป็นปัญหาในการนำพารัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี​ นักการเมืองทุกวันนี้ มีวุฒิภาวะทางการเมือง ทุกอย่างที่นางสาวแพทองธารมา​ มาตามกระบวนการทางการเมือง อายุหรือวัยไม่ใช่ปัญหา ขอให้ไปดูผู้นำโลก พร้อมยกตัวอย่างนายกรัฐมนตรีของประเทศคาซัคสถานก็มีอายุน้อย แค่ 40 กว่าปี วันนี้เทรนด์ของโลกและเทรนด์ประเทศไทย ไม่ได้ดูที่อายุหรือ​วัย​ แต่อยู่ที่ศักยภาพความสามารถ การเข้าถึงประชาชน และการยอมรับ จากประชาชนเป็นหลัก