รู้จัก ‘ปอ ปิฎก’ บุรุษข้างกาย ‘นายกฯ หญิง’

วันที่ 16 ส.ค.67 เป็นอีกวันที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองของตระกูล “ชินวัตร” เพราะมติสภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมาก 319 เสียง ส่งให้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 นับเป็น “นายกฯ หญิง” คนที่ 2 ต่อจาก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และเป็น “ชินวัตร” รุ่นที่ 3 ที่ก้าวสู่เก้าอี้นายกฯ ตามรอย “พ่อทักษิณ ชินวัตร - อายิ่งลักษณ์”

นับตั้งแต่ “พรรคเพื่อไทย” เปิดหน้า-เปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2564 จะเป็นเวลาเกือบ 3 ปีที่ “ผู้มากบารมีนอกพรรค - แกนนำพรรค” พยายามผลักดันเธอให้เข้าสู่แวดวงการเมือง จนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง “สร.1” ได้สำเร็จ เท่ากับว่า ณ เวลานี้ ตระกูล “ชินวัตร” ถึงคราวผลัดใบ ถึงเวลา “รุ่นลูก-เขย-สะใภ้” ที่ทุกคนเป็นฝั่งเป็นฝากันหมดแล้ว ก้าวขึ้นมาสานงานต่อ “พ่อแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี “แม่อ้อ” คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร

ปฏิเสธได้ยากว่า การเป็นทายาทของนายกรัฐมนตรี และคนในครอบครัวยังทำงานในพรรคเพื่อไทย การขยับตัวทำอะไร ย่อมถูกจับตาแทบทุกอย่างก้าว ไม่ว่าจะงานการเมือง หรือธุรกิจ ซึ่ง “พ่อแม้ว-แม่อ้อ” ได้วางบทบาท “ลูก-เขย-สะใภ้” ทั้ง 3 คน แยกกันรับผิดชอบงานด้านการเมือง - ธุรกิจไว้ทั้งหมดแล้ว

เริ่มจาก “ปอ” ปิฎก สุขสวัสดิ์ “สามีอุ๊งอิ๊ง” ที่สมรสเมื่อ 22 มี.ค.2562 ที่ฮ่องกง มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน โดยก่อนที่ “ปอ ปิฎก” จะแต่งงานกับ อุ๊งอิ๊ง “แพทองธาร” ตามหน้าสื่อมีประวัติเพียงแค่ จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และประสบการณ์ทำงาน เพิ่งสอบเป็นนักบินของสายการบินแห่งหนึ่ง และไม่ปรากฏข้อมูลในด้านธุรกิจครอบครัว 

ทว่า ในระยะหลัง “ปิฎก” เปลี่ยนบทบาทของตัวเองมาช่วยภรรยาในงานการเมืองมากขึ้น หลังจากอุ๊งอิ๊งตัดสินใจลงสนามการเมืองในฐานะ “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย”

ว่ากันว่า ปอ “ปิฎก” รู้จักกับ “แพทองธาร” ผ่านการแนะนำของ “คณาพจน์ โจมฤทธิ์” อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ลูกพี่ลูกน้องของ “ปิฎก” และปัจจุบัน “คณาพจน์” ที่ถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปีจากกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ ได้เข้าไปมีบทบาทภายในพรรคเพื่อไทย โดยเป็นแถวหน้าของคนรุ่นใหม่ และเป็นพี่เลี้ยงทางการเมืองให้อุ๊งอิ๊งอีกสถานะ

บทบาทของ “ปิฎก” ปรากฏชัดเจนในหลายเวที และแทบทุกพื้นที่ ที่ “แพทองธาร” ปรากฏตัว คอยตามติดเป็นเงาตามตัว ดูแลความสะดวก ช่วยเหลือภรรยา

ส่วน “พี่น้อง” อีก 2 คน เริ่มจาก “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร พี่ชายคนโต เพิ่งซุ่มเงียบแต่งงานกับ “ตุ๊กติ๊ก” ณัฐฐิญา ปวงคำ ผู้บริหารโรงแรม SC Park ธุรกิจของตระกูลชินวัตร ช่วงปลายเดือนพ.ค.2565 ในมุมธุรกิจ “โอ๊ค” เคยถูกวางตัวให้ดำเนินการ “ธุรกิจสื่อ” โดยก่อสร้างวางรากฐาน “วอยซ์ ทีวี” ตั้งแต่ราว 10 กว่าปีก่อน อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน “วอยซ์ ทีวี” ยุติบทบาทสื่อไปแล้ว แต่ยังมี “คนใกล้ชิด” กุมบังเหียนสื่อออนไลน์ และเทคโนโลยีอยู่

ขณะที่ “สะใภ้ป้ายแดง” ของตระกูลชินวัตร อย่าง “ตุ๊กติ๊ก ณัฐฐิญา” วัย 35 ปี ที่พี่น้องชินวัตร เพิ่งประกาศเปิดตัวต้อนรับเป็นสมาชิกครอบครัวอย่างอบอุ่น มีเพียงประวัติการทำงาน ในธุรกิจครอบครัวชินวัตรเท่านั้น โดยเธอจบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ก่อนหน้านี้เคยทำงานที่ บริษัท ริช บลู พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และปัจจุบันทำงานเป็นผู้บริหารโรงแรม เอส.ซี.พาร์ค

เมื่อก้าวเข้ามาสู่ครอบครัวนักธุรกิจการเมือง เธอจึงถูกจับตาว่า จะถูกวางตัว ให้ช่วยดูแลงานด้านใด ในเส้นทางของ โอ๊ค “พานทองแท้” ทายาทคนโตของอดีตนายกฯ ผู้โด่งดัง

ขณะที่ “เอม” พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ แต่งงานกับ “พงศ์” ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2554 ปัจจุบันมีลูกด้วยกัน 3 คน แฝดหญิง และลูกชาย โดย “พินทองทา-ณัฐพงศ์” เดินหน้าช่วยงานด้านธุรกิจ ซึ่ง “ณัฐพงศ์” มีประสบการณ์จากธุรกิจครอบครัวมาก่อน เป็นกำลังหลัก 

เขาถูกวางตัวไว้เป็นกรรมการบริษัทกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แต่มิได้อยู่ใน 10 ลำดับผู้ถือหุ้นใหญ่ (“อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ถือหุ้นใหญ่สุด 28.43% “เอม” พินทองทา ถือรองลงมา 27.52%)  

ทั้งหมดคือธุรกิจของ “ลูก-เขย-สะใภ้” แห่งตระกูล “ชินวัตร” ที่ปัจจุบัน “อุ๊งอิ๊ง” ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งนายกฯคนที่ 31 “เอม” รับผิดชอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ “โอ๊ค” ที่มีคนใกล้ชิดดูแลงานด้านสื่อ-เทคโนโลยี ทั้งหมดถูกปูทางเตรียมพร้อมก้าวขึ้นมาแทน “พ่อแม้ว-แม่อ้อ” เรียบร้อย

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์