‘สันติ’ เสี่ยงหลุด จุดไฟ พปชร. ‘ธรรมนัส’ ส่งสายตรงนั่ง รมต.

‘สันติ’ เสี่ยงหลุด จุดไฟ พปชร. ‘ธรรมนัส’ ส่งสายตรงนั่ง รมต.

ศึกในพลังประชารัฐ ที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ จะว่าไปก็คงไม่ผิด ต้นเหตุน่าจะมาจากความอยากขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการจนตัวสั่นของ “สันติ” โดยยืมมือ “ลุงป้อม” เคลื่อนเกม จนความสัมพันธ์กับ “ธรรมนัส” ขาดสะบั้นเกินเยียวยา

KEY

POINTS

  • ปมแตกหักระหว่าง ธรรมนัส - ประวิตร จุดเริ่มต้นคนในพลังประชารัฐมองตรงกันอยู่ที่ สันติ อยากขึ้นรัฐมนตรีว่าการ 
  • ทักษิณ ที่โปรฝั่ง ธรรมนัส มีโอกาสที่จะเลือกโผ ครม. พรรคพวกผู้กองมากกว่า 
  • สันติ มีโอกาสหลุดเก้าอี้ เมื่อข่าวหนาหูว่า ทักษิณ ให้ก๊วนมะขามหวานแอ็กชันว่าไม่อยู่ข้างลุง แต่สันติทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

อยู่ๆ ความไม่ลงรอยกันในพรรคพลังประชารัฐ อันเนื่องมาจากเกมแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรี เหมือนจะจบลงง่ายๆ เมื่อพรรคออกแถลงการณ์ ร่วมรัฐบาลต่อ และส่ง 4 รายชื่อรัฐมนตรีคนเดิมให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา

ทั้งที่ก่อนหน้านั้นวันเดียว ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาฯ พรรค เพิ่งประกาศตัวเป็นอิสรภาพ ไม่ขึ้นกับประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค

ผู้คนเลยสงสัยว่า ก่อนที่แถลงการณ์จะออกมา น่าจะมีแต่แกนนำสายลุงป้อมเท่านั้น ที่ประชุมหารือกัน

หลังธรรมนัส โดนดัดหลัง ตัดออกจากกองมรดก ชิงเสนอชื่อรัฐมนตรี โดยไม่มีผู้กอง พร้อมกับข้ออ้างของลุงป้อมว่าพรรคร่วมรัฐบาลเขาไม่เอาธรรมนัส

เกมนี้ที่ลุงพยายามรุกรบจบเร็ว คนในสายลุง และผู้กอง มองตรงกันว่า เพราะสันติ พร้อมพัฒน์ อยากนั่งรัฐมนตรีว่าการ จนตัวสั่น เลยฉวยจังหวะเรื่องคุณสมบัติ และจริยธรรมที่กำลังร้อนแรง เขี่ยธรรมนัสทิ้ง แล้วดันตัวเองเสียบ รมว.เกษตรและสหกรณ์ แทน

ซ้ำร้ายลุงดันไปเคลิ้มตาม และเข้าใจทุกอย่างไปตามที่สันติว่า จนเกิดการเอาคืนวัดพลังโชว์จำนวน สส. ที่กระทรวงเกษตรฯ แน่นอนฝั่งผู้กองมีมากกว่าลุงป้อม

กว่าจะตั้งตัวได้ สถานการณ์ลุกลามไปไกล ลุงป้อม และคนใกล้ชิดพยายามโทรศัพท์หาผู้กอง เป็น 10 สายก็ไม่รับ

จนเป็นที่มาของไพบูลย์ นิติตะวัน ต้องวิ่งแจ้นไปกระทรวงเกษตรฯ ส่งสาส์นจากบ้านป่าฯ ว่าลุงยอม เปลี่ยนโผ ครม.จากเดิมไม่มีชื่อธรรมนัส ให้กลับมาเป็นรายชื่อเดิมทั้งหมด แต่ไพบูลย์ ก็ต้องผิดหวังกลับไป เมื่อปลายทางไม่รับข้อเสนอ

ฝั่งสันติ ที่เล่นบทรักพี่เสียดายน้อง หรือเหยียบเรือสองแคม แสดงตัวอยู่กับลุง แต่เบื้องหลังในวันที่วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ เมียของสันติ และสส.เพชรบูรณ์ บางส่วนไปโผล่อยู่ฝั่งธรรมนัส 

ว่ากันว่าเพราะนายก ด๊อยซ์ อัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ คุยกับสันติให้โทรศัพท์หาธรรมนัส

ทั้งสองคน เมื่อได้คุยกัน ธรรมนัส กล่อมสันติ ให้ยอมๆ เถอะ สู้ไม่ได้แล้ว เลยปรากฏภาพที่เมียสันติ และสส.เพชรบูรณ์ ต้องแบ่งกำลังไปอยู่กับผู้กอง

ช่วงเช้า 21ส.ค.67 มีการพูดต่อๆ กันว่า ธรรมนัส ไปพบทักษิณ ชินวัตร เพื่อส่งโผ ครม. ในสัดส่วนของตัวเอง ก่อนที่แถลงการณ์พลังประชารัฐ จะออกมา

ในจังหวะไล่เลี่ยกันก็มีกระแสข่าวหนาหูว่า ทักษิณยื่นเงื่อนไขให้สันติ ทำนองว่าต้องแอ็กชันอะไรบางอย่าง ว่าไม่อยู่ข้างลุง เพื่อแลกกับตำแหน่ง แต่วันที่ 21 ส.ค.67 สันติ ก็ยังเข้าบ้านป่าฯ หาลุงป้อม

ดังนั้น โอกาสที่ “สันติ พร้อมพัฒน์” จะหลุดรัฐมนตรีก็มีสูง เช่นเดียวกับ “พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” โดยเก้าอี้ รมช.สาธารสุข และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นไปได้ที่จะลอยไปอยู่กับประชาธิปัตย์ ที่ได้ไฟเขียวเข้าร่วมรัฐบาล

น่าสนใจว่า โผ ครม.โควตาพรรคพวกผู้กอง มีการพูดกันอย่างกว้างขวางว่า รอบนี้ธรรมนัส คุยกับทักษิณแล้ว พร้อมเสียสละ ไม่รับตำแหน่ง เพื่อขจัดข้อครหาทั้งหลายทั้งปวง

แต่โควตายังเป็นของผู้กอง ว่ากันว่ามีการส่งรายชื่อสายตรงไปให้แกนนำจัดตั้งรัฐบาลพิจารณา 2 คน คือ แหม่ม นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ คนใกล้ชิด และอัครา พรหมเผ่า น้องชาย มาคุมกระทรวงเกษตรฯ แทน

ส่วนหนุ่มหน้ามนคนแปดริ้ว อรรถกร ศิริลัทยากร รมช.เกษตรฯ ก็ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม

ศึกในพลังประชารัฐ ที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ จะว่าไปก็คงไม่ผิด ต้นเหตุน่าจะมาจากความอยากขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการ โดยยืมมือลุง เคลื่อนเกม จนความสัมพันธ์กับผู้กอง ขาดสะบั้นเกินเยียวยา

แรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นกระทบชิ่งกันไปหมด สันติ ที่ชิงเปิดก่อน แต่กลับไม่ได้เปรียบ หนำซ้ำ ยิ่งเร่งเกมให้ผู้มีอำนาจตัวจริงของรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง เผด็จศึกยึดเก้าอี้จากน้องชายลุงป้อม และตัวสันติเอง ก็อาจต้องกุมขมับ กลับบ้านมือเปล่า

แคนดิเดตรัฐมนตรี “แพทองธาร1” หลายคน ที่นิ่งแล้ว ทยอยได้รับแบบฟอร์มกรอกประวัติกันถ้วนหน้า รวดเร็วตามที่อุ๊งอิ๊งประกาศ จะให้จบภายในสัปดาห์นี้

คนที่ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ โอกาสสูงที่จะได้เป็นเสนาบดี เว้นแต่จะเกิดอุบัติเหตุ ไปตกรอบในขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติที่เข้มข้นเหลือเกิน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์