ปมแตกหัก ‘ทักษิณ-ประวิตร’ ลุ้นเกมเอาคืน ปิดฉาก 19 ปี
“ประวิตร” นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. 2 ปี โดยเกษียณอายุราชการในปี 2548 ระหว่างนั้น มีการสรรหา กรรมการ ป.ป.ช. ทำให้ "ประวิตร" ลงสมัครชิงเก้าอี้ด้วย พร้อมเปิดดีลขอนั่งประธาน ป.ป.ช. แต่เสียงปลายสายปฏิเสธ "ประวิตร" จึงขอถอนตัวในรอบ 18 คนสุดท้าย
KEY
POINTS
- เบื้องหลังฉากแตกหัก "ทักษิณ ชินวัตร" กับ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" มาจากการคัดเลือก กรรมการ ป.ป.ช. เมื่อปี 2548
- มีดีลลับขอให้ "ลุงบ้านป่า" นั่งประธาน ป.ป.ช. แต่ "เบอร์หนึ่งบ้านจันทร์ฯ" ไม่ตอบรับ ทำให้เจ้าตัวต้องถอนตัว ทั้งที่ผ่านการคัดเลือกมาอยู่ในรอบ 18 คนสุดท้าย
- นั่นจึงเป็นชนวนทำให้ "ทักษิณ" และ "ประวิตร" ต้องหันหลังให้กัน และเป็นศัตรูในทางการเมืองมาโดยตลอด
ปมแค้นเก่าก่อนระหว่างสองผู้มากบารมีทาง การเมือง-การทหาร รอวันชำระหนี้กันตอนไหนก็ยังไม่สาย คนหนึ่งผ่านจุดสูงสุดบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี อีกคนหนึ่งผ่านจุดสูงสุดบนเก้าผู้บัญชาการทหารบก
คนหนึ่งคือ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มากบารมีในช่วงนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศ คอนเน็กชันทางการเมืองทำให้เจ้าตัวมีแต่คนรายล้อม ทั้งนักการเมือง บิ๊กข้าราชการ ก่อนจะต้องพเนจร เพราะมีคดีติดตัว
กระทั่งพรรคเพื่อไทย พลิกขั้วจับมือกับ “หัวขบวนอนุรักษนิยม”จัดตั้งรัฐบาล “ทักษิณ”กลับมาเป็นศูนย์กลางอำนาจทางการเมือง พร้อมกับมั่นใจว่า “ตั๋วพิเศษ-สัญญาณพิเศษ” ในยุคที่ “ลูกสาว” แพทองธาร ชินวัตร ครองอำนาจนายกรัฐมนตรี มีความแข็งแกร่งกว่ายุคที่ตัวเองเรืองอำนาจ
อีกคนคือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บารมีเบ่งบานในช่วงนั่งเก้าอี้ “ผู้บัญชาการทหารบก” จัดวางกำลัง วางไลน์เพื่อนพ้องน้องพี่ให้อยู่ในเครือข่ายอำนาจ โดยเฉพาะแผงกำลัง “3 ป.” ไล่ตั้งแต่ “ประวิตร” มาถึง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” และอดีตผบ.ทบ. อีกหลายนาย ล้วนมาจากการสนับสนุนของ “บิ๊กป้อม” บิ๊กบราเธอร์ของใครหลายคน
ในหน้าประวัติศาสตร์การเมือง ระหว่าง“ทักษิณ-ประวิตร” มีทั้งฉากรัก-ฉากแค้นเกิดขึ้น ทำให้สองผู้ยิ่งใหญ่มีหนี้ที่ต้องชำระ
ย้อนไปในช่วง “ทักษิณ” เรืองอำนาจ ได้ตัดสินใจแต่งตั้ง “ประวิตร” ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. แทน “ชัยสิทธิ์ ชินวัตร” ญาติผู้พี่ เนื่องจากตัวของ “ทักษิณ” โดนโจมตีอย่างหนัก ที่แต่งตั้งญาติมานั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ.
ครั้งหนึ่ง “ทักษิณ” เคยออกมาเปิดข้อมูล ในเชิงดูแคลน “ประวิตร” ด้วยวลี “เกาะขอบโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ.”
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการเป็น ผบ.ทบ. คือการนับหนึ่งความยิ่งใหญ่ของ “บิ๊กป้อม” ก่อนจะปั้นรุ่นน้อง-รุ่นหลาน สืบทอดอำนาจทางการทหารมาจนถึงปัจจุบัน
“ประวิตร” นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. 2 ปี โดยเกษียณอายุราชการในปี 2548 ระหว่างนั้น มีการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชุดใหม่ ภายหลัง กรรมการ ป.ป.ช. ชุดที่มี “พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ” เป็นประธาน ต้องสิ้นสุดวาระก่อนกำหนด เนื่องจากถูกศาลสั่งจำคุก โดยให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ฐานกระทำผิดทุจริตต่อหน้าที่
เมื่อ“ประวิตร”กำลังจะหมดอำนาจ จึงต้องหารันเวย์ใหม่ให้ตัวเอง จึงเสนอตัวเข้ามานั่งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. โดยผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบ 18 คนสุดท้าย (กรรมการ ป.ป.ช. มี 9 คน)
วงในได้เล่าถึงฉากสำคัญนี้ว่า “ประวิตร” เปิดดีลไปยัง “ทักษิณ” เพื่อเสนอตัวขอนั่งเก้าอี้ ประธาน ป.ป.ช. แต่กลับถูกปฏิเสธ
โดยมี “บิ๊กเนม” ในวงลับคุยกับ “ทักษิณ” คาบข่าวร้าย ดีลล่ม ไปบอก “ประวิตร” จนเจ้าตัวต้องขอถอนตัว ในรอบ 18 คนสุดท้าย เพื่อไม่ให้เสียหน้า
ล่าสุด “ทักษิณ” เล่าบนเวที Nation TV Dinner Talk : Vision for Thailand เมื่อ 22 ส.ค.ว่า “จุดเริ่มต้นของความบาดหมางมาจากสมัยก่อน เขาเคยสมัครเป็นประธานกรรมการ ป.ป.ช. แต่ผมคัดค้าน เพราะเขาเป็นทหาร จะรู้กฎหมายหรือไม่ ทำให้ สุชน ชาลีเครือที่เรียนหลักสูตร วปอ.กับ พล.อ.ประวิตร ไปบอกเขา ทำให้เขาโกรธตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา”
ความโกรธจนแปรเปลี่ยนเป็นแรงแค้น ในส่วนตัว “ทักษิณ” จึงเชื่อว่า “ประวิตร” อยู่เบื้องหลังการวางขุมกำลัง การวางเกม จนนำไปสู่การรัฐประหารปี 2549 (ยังไม่มีตำแหน่ง) ต่อด้วยการพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ประวิตร ดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม ) ต่อเนื่องจนการรัฐประหารปี 2557 (ประวิตร ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ รมว.กลาโหม)
หากไล่เรียงฉากการเมือง ฉากหลัง ชายชื่อ “ประวิตร” คือมือประสานสิบทิศ ส่วนฉากหน้าชายชื่อ “ประวิตร” ดำรงตำแหน่งสำคัญมาโดยตลอด หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นแรงส่งให้ “ทักษิณ” เชื่อว่า จากวันแตกหัก ไม่สนับสนุนนั่ง “กรรมการ ป.ป.ช.” เมื่อปี 2548 เป็นจุดเริ่มต้นความแค้น
แม้ที่ผ่านมา จะมีบางเหตุการณ์ บางคดี ที่มีคนตระกูลชินวัตร ต้องตกระกำลำบาก จะมีกระแสข่าวว่า “ประวิตร-พี่น้องวงษ์สุวรรณ” ยื่นมือเข้าไปช่วย แต่ “ทักษิณ” ไม่เชื่อว่า “ประวิตร” ช่วยเหลือด้วยความบริสุทธิ์ใจ
กระทั่่งอีกฉากสำคัญที่เชื่อกันว่า ประวิตรอยู่หลังฉาก 40 อดีต สว.ที่ยื่นถอดถอน “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นนายกฯ จากคดีตั้งพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี
นับจากจุดแตกหักจนถึงวันนี้ “ทักษิณ” กลับมาเรืองอำนาจ ขณะที่ “ประวิตร” โหยหาอำนาจ โดยเฉพาะเก้าอี้นายกฯ ที่มุ่งหวังจะครอบครอง
การสกัดกั้น “ประวิตร” ไม่ให้ถึงฝั่งฝันทางการเมือง การกีดกัน “วงษ์สุวรรณ” ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จึงไม่พ้นถูกมองว่า เป็นสิ่งที่ “ทักษิณ” ปรารถนาจะเอาคืน พร้อมทั้งปิดฉากความสัมพันธ์กับ “ประวิตร วงษ์สวุรรณ” อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด