‘ความหวัง’ ‘รัฐบาลใหม่’
จนถึงวันนี้รัฐบาลโดยการนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังคงไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลที่จะเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร
ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า ปัจจัยท้าทายที่กำลังถาโถม ประเทศ ประชาชน ต่างรอความหวังรัฐบาลใหม่ เข้ามาแก้ปัญหาปากท้อง เพราะยิ่งปล่อยให้เกิดสุญญากาศนานออกไปเท่าไหร่ ยิ่งกระทบต่อความเชื่อมั่น การลงทุนต่างๆพลอยชะงัก เพราะนักธุรกิจ นักลงทุนล้วนรอการแถลงนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาลแบบฟูลทีม โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญๆ หน้าตาดรีมทีมเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร
การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ ในระยะสั้น ความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจทำให้นักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศชะลอการตัดสินใจ ส่งผลให้การลงทุนชะงักงัน นอกจากนี้ ความล่าช้าในการจัดทำและอนุมัติงบประมาณแผ่นดินอาจส่งผลต่อการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอาจลดลงจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้การใช้จ่ายในประเทศชะลอตัว ทั้งหมดนี้อาจนำไปสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวม
ในระยะยาว ความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล อาจส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในหลายมิติ โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อาจต้องชะลอหรือยกเลิก เนื่องจากขาดความต่อเนื่องในนโยบายและการสนับสนุนทางการเมือง การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่จำเป็นอาจถูกเลื่อนออกไป ทำให้ประเทศสูญเสียความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติ นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาสังคมและเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ความเหลื่อมล้ำ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม อาจไม่ได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศในระยะยาว
ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจเช่นนี้ รัฐบาลควรตั้งรัฐบาลให้เร็ว พร้อมเดินหน้านโยบายที่เร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะสั้น ควบคู่ไปกับการวางรากฐานสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว ระยะสั้นรัฐบาลควรเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตรงจุด เช่น เพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐในโครงการที่สร้างงานและกระจายรายได้สู่ประชาชน สนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีผ่านมาตรการการเงินและภาษี และส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติและรักษาเสถียรภาพทางสังคม
ขณะเดียวกัน รัฐบาลควรเร่งวางแผนและดำเนินการเพื่อพัฒนาประเทศในระยะยาวด้วย เน้นปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ยืดหยุ่นและแข่งขันได้ในตลาดโลก ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นทั้งด้านกายภาพและดิจิทัล พัฒนา “คน” ผ่านการปฏิรูปการศึกษาและการฝึกอบรม “ทักษะ” ที่ตรงความต้องการตลาดแรงงานในอนาคต ที่อาจสร้างความเข้มแข็งและความยืดหยุ่นให้เศรษฐกิจในระยะยาว พร้อมรับมือความท้าทายในอนาคต... ทั้งหมดนี้ล้วนรอความหวัง “รัฐบาลใหม่”