'บีวิช คาร์ฯ' ธุรกิจให้เช่ารถเครือ ‘หลานบิ๊กตู่’ คว้างานรัฐปีงบ 67 อีก 59 ล้าน

'บีวิช คาร์ฯ' ธุรกิจให้เช่ารถเครือ ‘หลานบิ๊กตู่’ คว้างานรัฐปีงบ 67 อีก 59 ล้าน

‘บีวิช คาร์ เร้นทอล’ ธุรกิจลิสซิ่งให้เช่ารถ ‘ปฐมพล จันทร์โอชา’ หลาน ‘บิ๊กตู่’ ถือหุ้น คว้างานรัฐปีงบ 67 อีก 8 โครงการ วงเงินกว่า 59.46 ล้านบาท รายได้ล่าสุดปี 66 กว่า 136 ล้านบาท กำไร 18 ล้านบาท พบ 9 ปีที่ผ่านมา 3 ธุรกิจในเครือกวาดไปแล้วอย่างน้อย 1,358 ล้านบาท

บริษัท บีวิช คาร์ เร้นทอล จำกัด ธุรกิจลิสซิ่งรถยนต์ หนึ่งในบริษัทเครือข่ายธุรกิจของ “ปฐมพล จันทร์โอชา” บุตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี (ปัจจุบันเป็นองคมนตรี) ได้เข้าเป็นคู่สัญญารัฐในการให้เช่ารถแก่หน่วยงานของรัฐ ประจำปีงบประมาณ 2567 อย่างน้อย 8 โครงการ รวมวงเงินกว่า 59.46 ล้านบาท

ฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2567 พบว่า บริษัท บีวิช คาร์ เร้นทอล จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 8 แห่ง ได้แก่ การเคหะแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองย่างเสือ จ.สระบุรี เทศบาลตำบลภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา อบต.ท่าเคย จ.ราชบุรี อบต.มะม่วงสองต้น จ.นครศรีธรรมราช และ อบต.นายายอาม จ.จันทบุรี รวมวงเงินอย่างน้อย 59.46 ล้านบาท

โดยสัญญาที่มีมูลค่าสูงสุดคือ การเคหะแห่งชาติ เป็นการประกวดราคาเช่ารถยนต์ จำนวน 2 รายการ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงิน 51.12 ล้านบาท ลงนามสัญญา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา

สำหรับข้อมูล บริษัท บีวิช คาร์ เร้นทอล จำกัด จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2567 พบว่า จดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2561 ทุนปัจจุบัน 300 ล้านบาท (เพิ่มทุนจดทะเบียนครั้งล่าสุด 27 ธ.ค. 2566 จากเดิม 240 ล้านบาท) ตั้งอยู่ที่ 44 อาคารรุ่งโรจน์ธนกุล (ชั้น 6) ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด การให้เช่าและให้เช่าแบบลิสซิ่งยานยนต์ชนิดรถบรรทุกและยานยนต์หนักอื่น ๆ 

ปรากฏชื่อกรรมการ ดังนี้

  1. นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล
  2. นายชญานิน ปัตตพงศ์
  3. นายนิกร ทั่งทอง
  4. นายอิทธิ สุเมธโชติเมธา
  5. นายปฐมพล จันทร์โอชา
  6. นายศิวพงศ์ บุญสาลี (หนึ่งในนักธุรกิจเครือ “ศักดิ์สยามลิสซิ่ง”)

รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อ 29 เม.ย. 2567 นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล ถือหุ้น 17.8333% นายชญานิน ปัตตพงศ์ ถือหุ้น 17.8333% นายนิกร ทั่งทอง ถือหุ้น 17.8333% นายอิทธิ สุเมธโชติเมธา ถือหุ้น 17.8333% นายศิวพงศ์ บุญสาลี ถือหุ้น 17.8333% และนายปฐมพล จันทร์โอชา ถือหุ้น 10.8333%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 546,741,988 บาท หนี้สินรวม 272,103,796 บาท มีรายได้รวม 136,341,093 บาท รายจ่ายรวม 107,878,511 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 10,151,833 บาท กำไรสุทธิ 18,310,749 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2558 จนถึงวันที่ 29 ส.ค. 2567 มีธุรกิจของนายปฐมพล และนายปฏิพัทธิ์ จันทร์โอชา (บุตรชายคนเล็ก พล.อ.ปรีชา) อย่างน้อย 3 แห่งที่เป็นคู่สัญญารัฐ ได้แก่ หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น บริษัท บีวิช คาร์ เร้นทอล จำกัด และบริษัท พี-ไรท์ แอนด์ บริส จำกัด รวมวงเงิน (นับรวมที่เป็นคู่สัญญาเอง และเป็นกิจการร่วมค้า) ไม่น้อยกว่า 1,358.51 ล้านบาท

โดยนับตั้งแต่ปี 2561 หจก.คอนเทมโพรารีฯ หนึ่งในธุรกิจของ “ปฐมพล” อยู่ระหว่างถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนจัดตั้งในค่ายทหารสมเด็จพระเอกาทศรถ (กองทัพภาคที่ 3) แต่กลับได้ร่วมประมูลและชนะงานโครงการของรัฐ โดยเฉพาะของกองทัพภาคที่ 3 หลายโครงการ รวมวงเงินหลายร้อยล้านบาท

ขณะเดียวกันเมื่อปี 2565 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ได้ยก 5 กรณีหลักที่น่าสนใจเกี่ยวกับความเสี่ยงในการทุจริตคอร์รัปชันประจำปี 2564 โดยกรณีของ หจก.คอนเทมโพรารีฯ เป็นหนึ่งในตัวอย่างดังกล่าวด้วย