นายกฯอุ๊งอิ๊ง อยากทำอะไรให้สำเร็จ | อิทธิ กวีพรสกุล
และแล้ว “อุ๊งอิ๊ง” (แพทองธาร ชินวัตร) หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและลูกสาวคนเล็กของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ก็ได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เมื่อ 18 ส.ค.67 หลังจากนี้จะเป็นการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ครม.และถวายสัตย์ปฏิญาณตน
จากนั้นจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วัน ทั้งนี้ จะมีความชัดเจนใน ก.ย. 67 (อ้างอิงตามนายกคนที่ 30 กระบวกการตั้งแต่ลงมติเลือกนายกฯไปจนถึงประชุม ครม. นัดแรกใช้ระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์หลังรับสนองพระบรมราชโองการฯ)
บทความนี้เป็นตอนต่อเนื่องของบทความเรื่อง ถ้า “อุ๊งอิ๊ง” อยากเป็นนายกรัฐมนตรี : ยุทธศาสตร์และจุดศูนย์ดุล (COG) ซึ่งใช้ตัวแบบที่เรียกว่ายุทธศาสตร์ทหารของลิคเก้ (Lykke Model of military strategy) หรือ “ม้านั่งสามขา” เชื่อมโยงกับแนวคิดจุดศูนย์ดุลเพื่อวิเคราะห์หนทางปฏิบัติของ “อุ๊งอิ๊ง” ในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สื่อต่างประเทศและนักวิเคราะห์หลายฝ่ายเห็นว่าตระกูลชินวัตรกำลังเดินหมากที่เสี่ยงและทำให้ “เเพทองธาร” ตกเป็นเป้าและอยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยง
ขณะที่ ณพล จาตุศรีพิทักษ์ นักวิจัยรัฐศาสตร์สถาบัน ISEAS-Yusof Ishak Institute สิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์ AP ว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคศัตรูในอดีตฝ่ายอนุรักษนิยมภายใต้การนำของแพทองธาร อาจสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้มากขึ้น เพราะเธอมีสิ่งที่เศรษฐาไม่มีคือ “สายตรง” ไปยังบิดาผู้ทรงอิทธิพลที่มีอำนาจในการตัดสินใจ
เชื่อว่าแพทองธารซึ่งกำลังศึกษาหลักสูตรมินิ วปอ.น่าจะสามารถฝ่าความท้าทายที่เรียกว่า VUCA หรือ สภาวะความผันผวน (volatility) ไม่แน่นอน (uncertainty) ซับซ้อนยุ่งเหยิง (complexity) และคลุมเครือ (ambiguity) อันเป็นความปกติแบบใหม่ (New Normal)
ที่มีทั้งความไร้เสถียรภาพและการเปลี่ยนแปลงแบบคาดไม่ถึงด้วยการใช้ด้านตรงข้ามของ VUCA คือ วิสัยทัศน์ในการมองภาพอนาคต (vision) ด้วยความรู้ความเข้าใจ (understanding) ทำงานให้กระจ่างใส (clarify) และปรับเปลี่ยนด้วยความปราดเปรียว (agility)
แม้กระนั้นก็ตาม นายกฯอุ๊งอิ๊งอาจพิจารณาแนวคิดเรื่องความเสี่ยงของโดนัลด์ รัมส์เฟลด อดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯระบุว่า
1) มีหลายสิ่งที่เรารู้ว่าเรารู้ (known knowns) ซึ่งเป็นความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่
2) เรารู้ว่ามีหลายสิ่งที่เรายังไม่รู้ (known unknowns) คือ การไม่รู้ศักยภาพของความเสี่ยง
3) เราไม่รู้ว่ามีหลายสิ่งที่เรายังไม่รู้ (unknown unknowns) เป็นความเสี่ยงประเภทร้ายแรงที่สุด เนื่องจากเราไม่รู้ว่ามีความเสี่ยงแบบนี้ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบที่คาดไม่ถึง
หลังพิธีรับสนองพระบรมราชโองการฯ นายกฯอุ๊งอิ๊งแถลงว่าจะดำเนินนโยบายทั้งหมดของอดีตนายกฯ เศรษฐา รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจและการปฏิรูป “ครั้งใหญ่” แก้ไขปัญหายาเสพติด ปรับปรุงระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศ
ส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ ไม่ละทิ้งนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แต่จะพยายาม “ศึกษาและรับฟังทางเลือกเพิ่มเติม” เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการนี้มีความรับผิดชอบทางการคลัง
นอกจากนี้ไม่มีแผนจะแต่งตั้งบิดาของเธอให้ดำรงตำแหน่งใด ๆ ในรัฐบาล แต่จะขอคำแนะนำจากเขา
หน่วยงานด้านความมั่นคงและการข่าวกรอง ซึ่งได้รับอาณัติจากประชาชนให้สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและสังคม (speak truth to power) อาจจะตั้งคำถามนายกฯอุ๊งอิ๊ง
เกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนทางการข่าวกรอง (What are your intelligence priority?) รวมทั้งความมุ่งหมาย (purpose) และความต้องการของสาธารณะ (What do you want to accomplish?)
บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงออกบทวิเคราะห์ประเมินว่า นโยบายเศรษฐกิจภายใต้การนำของนายกฯอุ๊งอิ๊งน่าจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยนโยบายสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุนนายกฯอุ๊งอิ๊งอาจได้รับการหยิบยกมาดำเนินต่อ
เช่น นโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย คงจะไม่ถูกนำกลับเข้าไปสู่บัญชียาเสพติด แต่อาจผลักดันออกกฎหมายควบคุมแทน
เมื่อ 22 ส.ค.67 อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ได้ร่วมงาน “Dinner Talk Vision for Thailand 2024” จัดโดย NATION TV และแถลงวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจและแนวทางแก้ไข โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นนโยบายต่อเนื่องจากรัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาล น.ส.แพทองธาร สาระสำคัญดังนี้
1) ปัญหาหนี้ครัวเรือนเสนอให้รัฐบาลซื้อหนี้เสียจากธนาคารกลับมาบริหารเองผ่านบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐ (AMC) แบบเดียวกับ TAMC ในสมัยวิกฤตต้มยํากุ้ง
2) โครงการดิจิทัลวอลเล็ตใช้งบเพิ่มเติมปี 1.45 แสนล้านบาทแจกเป็นเงินสดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้กลุ่มเปราะบางและผู้พิการ 14.5 ล้านคนใน ก.ย.67
3) ส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ Runway 3 จะเปิดใช้งานเป็นทางการ 1 พ.ย. นี้
4) Entertainment Complex และการให้คนต่างชาติเช่าที่ดินไทยระยะยาวช่วยเร่งการเติบโต GDP เพราะ “Underground economy” ไทยสูงเกือบร้อยละ 50 ของ GDP
5) เดินหน้ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเพื่อลดค่าใช้จ่ายประชาชน เรียกเก็บ Congestion charge
6) สร้าง Ecosystem สำหรับ EVs สนับสนุนให้ผู้ผลิต EV ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถ EV พวงมาลัยขวาและต้องใช้ local supply ไทยมากขึ้น
7) นโยบาย Soft power ส่งเสริม Thai boxing, E-sport, Thai Kitchen และ Fashion มวยไทยทำเป็นลีกเหมือนฟุตบอลเร็วกว่าเพราะมีความพร้อมและเป็นที่รู้จักของโลกอยู่แล้ว สนับสนุน E-sport อย่างจริงจัง
8) ขยายกองทุนวายุภักษ์ทำหน้าที่ซื้อหุ้นใน SET 50 และ SET 100 ที่ราคาต่ำกว่าที่ควรเข้ามาอยู่ในกองทุน นอกจากนี้อยากให้ปรับภาษีนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาให้เป็นธรรมและแข่งขันได้
การแสดงวิสัยทัศน์ดังกล่าว นอกจากเป็นการ “โชว์พาว” และสร้างความหวังแก่แฟนคลับของอดีตนายกทักษิณ ยังกระตุ้นความหมั่นไส้ของฝ่ายตรงข้ามโดยตรง
อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์ก็เหมือนความฝันที่ยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม เนื่องจากยังไม่มีคณะรัฐมตรีหรือ “เจ้าภาพ” ในการขับเคลื่อนนโยบาย
สำหรับนายกอุ๊งอิ๊ง (ทายาทรุ่นที่สาม) ซึ่งรับไม้ต่อจากนายกเศรษฐาอาจต้องใช้ระยะเวลา 3 ปีข้างหน้าในการพิสูจน์ตัวเองภายใต้ร่มเงาการ “ครอบครอง” ของบิดาและกระแสเชี่ยวกราก (turbulent) ของการร้องเรียนเรื่องในอดีตซึ่งอาจถือเป็นเสียงรบกวน (noise) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยตลอดมา
รูเชอร์ ชาร์มา หัวหน้าฝ้ายกลยุทธ์ระดับโลกของ Morgan Stanley Investment ผู้เขียนหนังสือ The Rise and Fall of Nations ระบุว่า “การปฏิวัตินำไปสู่การเติบโตและช่วงเวลาที่แสนสุดยอด ช่วงเวลาดี ๆ เหล่านั้นก็ผลักดันให้เกิดความหยิ่งยโสและความงมงายที่นำไปสู่วิกฤติครั้งใหม่อีกครั้ง
(อ้างอิงจาก Mastering the Market Cycle เขียนโดย Howard Marks ผู้แปล ศักดิ์สิทธิ์ แสงอรุณ จัดพิมพ์โดยบริษัท เอฟพี เอดิชั่น จำกัด หน้า 332)