'วิสุทธิ์' บอกให้เตรียมเช็คชื่อ สส.โหวตหนุนงบฯ ย้ำ 'ปชป.' มีสัญญาใจกันแล้ว

ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วาระสอง เป็นไปอย่างเรียบร้อย และในวันนี้ (5 ก.ย.) เวลาไม่เกิน 21.00 น. จะมีการลงมติในวาระสาม ซึ่งจะได้รู้ว่าใครของจริงหรือของปลอม

"น้องๆ เตรียมปากกาเช็ครายชื่อ ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ถามว่าใครมาบ้างไม่มาบ้าง บางทีก็จำไม่ได้ ก็มีเรื่องติดขัดบ้าง เพราะมีพรรคที่มาใหม่ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องประสานใคร ยังไม่มีการตั้งเป็นวิป จึงใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในการประสาน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอุปสรรค ที่ผ่านมายอมรับว่าฉุกละหุก” นายวิสุทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าหากการลงมติของสส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่สวนทางกันจะเป็นปัญหาหือไม่  นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ก้าวล่วง เพราะเป็นเอกสิทธิ์ของผู้แทน แต่มติพรรคสำคัญ พรรคไหนมีมติอย่างไรต้องทำตามนั้น ส่วนไหนที่เห็นด้วยครึ่งหนึ่ง ก็ไม่ว่ากัน

เมื่อถามว่าสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ได้พูดคุยกันก่อนหรือเป็นสัญญาใจ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า สัญญาใจมีกันอยู่แล้ว โหวตไปในทิศทางเดียวกัน แต่อาจจะไม่ทั้งหมด ตนไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์ แต่เสียงส่วนใหญ่ก็มาทางรัฐบาล อาจจะมีบ้างนิดหน่อย แต่ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.

เมื่อถามถึงวันแถลงนโยบายรัฐบาล ต้องเตรียมองครักษ์พิทักษ์นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรรุนแรงเหมือนสมัยก่อน ตอนนี้ส่วนมากเป็นคนที่จบการศึกษาเก่งๆ พร้อมที่จะชี้แจง ไม่ต้องไปเป็นองครักษ์อะไร ฝ่ายค้านมีหน้าที่ถาม ฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่ตอบ

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรียังใหม่อยู่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า “ไม่ใหม่นะครับ เขาเกิดมาเพิ่งรู้ความก็อยู่บ้านนายกฯ แล้ว อยู่กับการเมืองมาตลอด มากกว่า สส. ด้วยซ้ำไป จะบอกว่าใหม่ไม่ได้ แค่ไม่เคยทำหน้าที่ในสภาเท่านั้น เขารู้ทุกเรื่องทุกราว ผมเองเคยทำงานกับเขาในฐานะหัวหน้าพรรค ผมภาคภูมิใจมาก เพราะนั่งประชุมมาท่านก็รู้ทุกเรื่อง สามารถตอบได้ชัดเจน ตรงไปตรงมา มีความคิดก้าวหน้าเพราะเป็นคนรุ่นใหม่”

เมื่อถามว่าจะมีการติวลูกล่อลูกชนในสภาให้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิสุทธิ์ ระบุว่า ไม่ต้องไปติว เขาสนิทกับคนในพรรค น้องๆพวกนี้ก็ไปทานข้าว ยกหูด้วยกันได้ ส่วนใหญ่ สส.ของพรรคเพื่อไทยก็เป็นคนรุ่นใหม่ เชื่อว่าได้นายกรัฐมนตรีมาทำงาน จะทำให้นโยบายสำเร็จรวดเร็วขึ้น