'อดีตสว.' จับตา 23ก.ย. ส่อมีสว.หลุดเก้าอี้ สะเทือนกระบวนการเลือกเป็นโมฆะ
"สมชาย" ระบุให้จับตา คำตัดสินศาลฎีกา 23 ก.ย. คดี กกต. ให้ใบดำ "สมชาย เล่งหลัก" เชื่อมีสว.หลุดเก้าอี้ สะเทือนกระบวนการเลือกสว.ทั้งระบบ-ส่อโมฆะ
นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ระบุให้จับตา วันที่ 23 ก.ย. มีลุ้นสว.หลุดเก้าอี้ ทั้งนี้ตามประกาศศาลฎีกา เรื่องแจ้งรับคำสั่งศาลฎีกาที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ก.ย.2567 ที่นายสมชาย เล่งหลัก สว. กลุ่ม19 ที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองไปก่อนแล้วสอยทีหลังนั้นเป็นอดีตผู้สมัครสส.พรรคภูมิใจไทย ที่ถูก กกต. ส่งชี้ขาด แจกใบดำ นั้น แม้จะมีการอ้างว่า ยังมีสิทธิได้รับเลือกเป็น สว. และประธานกกต.ลงนามรับรองไปแล้ว ตั้งแต่10 ก.ค. 2567 นั้น มีข้อสงสัยตามมาในทางกฎหมาย หลายประการ
1.กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร สว. ทั้ง4หมื่นกว่าคนครบถ้วนถูกต้องจริงหรือไม่
2.กรณีนี้ หากศาลฎีกาพิพากษาตัดสิทธิเลือกตั้ง จะเป็นเหตุให้การเลือกกันเองในระดับอำเภอ จังหวัด ประเทศ และการประกาศรับรองไปก่อนนั้น เป็นโมฆะเพียงแค่คนเดียวแล้วเลื่อนบัญชีสำรองขึ้นมาแทนได้จริงหรือไม่
3.จากข้อ1-2นั้น จะทำให้การเลือกกันเองของผู้สมัคร สว.ทั้งหมดเป็นโมฆะหรือไม่ เพราะผู้สมัครสว ทุกคน ล้วนเข้าสู่กระบวนการโหวตเลือกกันเองแบบตรง และเลือกกันเองแบบไขว้กลุ่ม มาทั้งกระบวนการตั้งแต่ระดับอำเภอ ไปเลือกระดับจังหวัด และเข้าไปเลือกกันจนได้เป็นสว ในระดับประเทศนั้น
"ทุกคะแนนล้วนมีความสำคัญและสัมพันธ์กัน แตกต่างจากการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบเขตที่เป็นการแข่งขันกันระหว่างผู้ชนะกับผู้แพ้ ที่ชัดเจนมากว่า ถ้าใครโดนตัดสิทธิก็เป็นเรื่องเฉพาะรายเฉพาะเขตเท่านั้น แต่กระบวนการเลือก สว. ตามรัฐธรรม2560 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มีความสัมพันธ์กันทุกคะแนนทั้งกระบวนการ" นายสมชาย ระบุ
นายสมชาย ระบุด้วยว่าความเห็นทางกฎหมายส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องใหญ่
และน่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องทั้งหมด ที่เขาเรียกว่าเด็ดดอกไม้ดอกเดียวสะเทือนถึงดวงดาว ขึ้นอยู่กับผู้สมัคร สว.ที่เห็นว่าตนเสียสิทธิไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเลือกที่ เข้าข่ายถูกโจมตีว่า มีขบวนการฮั้วนั้น จะร้องต่อ กกต. ผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญให้เห็นเป็นประเด็นวินิจฉัยอย่างไร