'รัฐบาล' กดปุ่มปล่อยเงินดิจิทัล เฟสแรก 25 ก.ย. ให้ 14.2ล้านคน

ที่รัฐสภา นายพิชัย  ชุณหวชิร  รมว.คลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภา วาระการแถลงนโยบายคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ต่อคำถามและประเด็นอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา โดยระบุตอนหนึ่งถึงประเด็นการลดราคาพลังงาน ว่า สำหรับค่าพลังงาน ทั้งนี้เราเลือกความมั่นคง คือ ต้องมีใช้ ส่วนราคาถูกหรือแพง เป็นลำดับรอง

“สำหรับราคาถูกเราต้องเป็นเจ้าของ ของที่เหลืออยู่ในประเทศไทยในฝั่งอันดามันทำอะไรไม่ได้มาก เพราะอยู่ใกล้เมียนมาร์ ส่วนที่อยู่ในอ่าวไทย ของที่เหลืออยู่นำขึ้นมาไม่ได้ ยังมีปัญหาเรื่องดินแดนของใครแต่เรื่องดินแดนไม่จบ ต่อให้พื้นที่น้อยเถียงกัน 50 ปีไม่จบ แต่ที่ต้องทำให้จบคือ ทรัพยากรที่มีจะเอามาใช้อย่างไร เพราะอีก 30 ปีเลิกใช้น้ำมันไม่มีปรระโยชน์แล้ว เป็นโจทย์ท่ีน่าคิด โครงสร้างที่อยู่ในอ่าวไทย สามารถผลิตได้ราคาเพียง 20 เหรียญต่อหนึ่งบาร์เรล  สำหรับราคาก๊าซธรรมชาตินำเข้าอยู่ที่ 75 เหรียญ  หากสามารถแก้ปัญหาที่เห็นต่างเรื่องดินแดน ไม่ต้องจบก็ได้ คุยด้วยสมานฉันท์เพื่อนบ้าน เอาข้างล่างมาใช้ จะได้ความเป็นเจ้าของ ได้ความมั่นคง และ ได้ราคา นำไปซึ่งยูนิตี้ที่ลด คือ ค่าไฟฟ้าต่ำกว่าา 3.5บาทแน่นอน” นายพิชัย ชี้แจง

นายพิชัย ชี้แจงด้วยว่าสำหรับดิจิทัลวอลเล็ต คือการแก้หนี้ ผ่านการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ได้คิดแล้วว่าจะทำให้เร็วที่สุด ก้อนแรก หนึ่งหมื่นบาทครบ 14.2 ล้านคน รวมเป็นเงิน 1.4 แสนล้านบาท ซึ่ง 90% ได้ดูและทบทวนแล้ว ทั้งนี้ยืนยันกดปุ่มเงินก้อนแรก ได้ในวันที่ 25 ก.ย. ส่วนเฟสสอง ยอมรับว่ามีงบจำกัด ขณะเดียวกันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการใช้งบประมาณเพื่อปรับปรุงโครงสร้างจุดอ่อนแอของประเทศก่อน  หากมีเงินเหลือจะจัดให้ส่วนที่เหลือ

“ภาพรวมของเรื่องนี้ต้องความยืนหยุ่นของแผนสถานการณ์เปลี่ยนแปลง เราต้องเปลี่ยนไป สำหรับโครงการในเฟสต่อไป เมื่อมีวิสัยทัศน์ จะนำไปกำหนดชื่อโครงการและแผนงานให้ชัดเจน มีแผนงานอะไรจะทำให้สำเร็จ  เพื่อติดตามต่อไป” นายพิชัย ชี้แจง.