'สส.ฝ่ายค้าน' ย้ำความล้มเหลวนโยบายแรงงาน ซัดคิดใหญ่ ทำไม่ได้

'สส.ฝ่ายค้าน' ย้ำความล้มเหลวนโยบายแรงงาน  ซัดคิดใหญ่ ทำไม่ได้

"สส.ปชน." รุมอภิปราย ตอกย้ำความล้มเหลว นโยบายแรงงาน ซัดคิดใหญ่ ทำไม่ได้ เหตุไร้แผนงานหลัก มีแต่คิดไปทำไป ผลงานสะเปะสะปะ

ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงาน ถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อให้คณะรัฐมนตรี ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง พบการอภิปรายของสส.ฝ่ายค้าน ที่ทวงถามความชัดเจนถึงคำประกาศตอนที่พรรคเพื่อไทยหาเสียง ทั้งกรณีค่าแรงขั้นต่ำ และ นโยบายลดราคาค่าโดยสารให้กับคน กทม.

โดยนายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายเพื่อทวงถามถึงคำสัญญาของพรรคเพื่อไทยต่อนโยบายแรงงานขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท  ปลดล็อคศักยภาพคนไทยผ่าน1 ครอบครัว 1 ซอฟพาวเวอร์ สิทธิลาคลอด  เป็นต้น ว่า ยังจำสัญญาดังกล่าวได้หรือไม่ หรือเป็นเทคนิคหลอกแรงงานให้ลงคะแนนให้ และกลับมาแกล้งลืม เพราะเกรงใจกลุ่มนายทุน จ้าสัว ผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งนี้ในสถานการณ์ของกลุ่มแรงงาน ในรอบ 1 ปี เลวร้ายมาก เพราะมีโรงงานปิดตัว 517 แห่งและมีแรงงานถูกเลิกจ้างเพิ่มขึ้น 14,471 คน

“ผมขอถามนายกรัฐมนตรีว่าเรื่องค่าแรงขั้นต่ำตกลงจะเอาอย่างไร เพราะนอกจากไม่มีในคำแถลงนโยบายแล้ว คำสัญญาเดิมที่จะเพิ่มค่าแรง 400 บาท ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การบริหารแบบนี้บอกได้เลยว่า 3 ปีไม่มีเจ๊ามีแต่เจ๊งกับเจ๊ง  แล้วแบบนี้จะหวังอะไรจากรัฐบาลได้อีก” นายเซีย อภิปราย

ขณะที่ นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน อภิปรายถึงแผนการพัฒนาแรงงานของรัฐบาล ที่ไม่ชัดเจน  สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลเองไม่เข้าใจปัญหาของแรงงานโดยเฉพาะในมิติการพัฒนาฝีมือแรงงาน ไม่ได้ทำนโยบายโดยตั้งอยู่บนข้อมูล เมื่อไม่มีข้อมูล ไม่สามารถออกนโยบายที่เหมาะสมและตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง

“มองไม่เห็นความเป็นไปได้ เป็นนโยบายที่คิดเองเออเอง ไม่ใช่คิดใหญ่ทำเป็น แต่คิดใหญ่ ทำไม่ได้ เพราะไม่มีแผนหลัก มีแต่ค่อยๆคิดๆ ค่อยๆทำ แล้วสุดท้ายผลก็จะออกมาสะเปะสะปะ ผมอยากเห็นแผนพัฒนาฝีมือแรงงานที่ชัดเจนที่จะสามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้จริง  จากอุตสาหกรรมเก่าที่กำลังจะตาย มาสู่อุตสาหกรรมใหม่ มีความมั่นคงทางรายได้  หน้าที่การงาน ไม่ใช่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ไม่เคยสอดคล้องกัน” นายสหัสวัต อภิปราย

ทางด้าน นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายถึงปัญหาในพื้นที่กทม. โดยเฉพาะการลดราคาค่าโดยสารรถสาธารณะ ตอนหนึ่งว่า  การคมนาคมที่ไม่มีรอยต่อการเชื่อม ทั้งรถไฟรถไฟฟ้า ขนส่งมวลชนมวล ไม่มีตั๋วร่วม ทั้งที่เป็นหน่วยงานในกระทรวงคมนาคม ภายใต้การดูแลของรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย แต่ผลงานเดียว คือนำภาษีไปอุดหนุนค่าโดยสารแบบอัฐยายซื้อขนมยายแต่ไม่มีการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง.