'กมธ.ปราบโกง' แฉ 'เลขาฯ กมธ.กระจายอำนาจ' ฉ้อโกงประชาชน
"รองปธ.กมธ.ปราบโกง" สภาฯ รับเรื่องร้องเรียน ถูก "เลขานุการ กมธ.กระจายอำนาจ" ใช้ตำแหน่งหลอกลวง-เข้าข่ายฉ้อโกง พบเสียหาย 8 ล้าน
ที่รัฐสภา นายปรีติ เจริญศิลป์ สส.นนทบุรี พรรคประชาชน ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนโรงพยาบาลพีเอ็มจี และ น.ส.ธชาษร บุญเย็น เจ้าของร้านชุดกีฬาจากจังหวัดนนทบุรี ซึ่งถูกบุคคลที่มีตำแหน่ง เลขานุการประจำ กมธ.กระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร ใช้ความน่าเชื่อถือในตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งแอบอ้างผู้เสียหาย ว่าสามารถให้งานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยได้ โดยต้องวางเงินประกัน หรือซื้อสินค้าจากบุคคลดังกล่าว
นายปรีติ กล่าวอีกว่า เลขานุการฯ คนดังกล่าว เป็นบุคคลภายนอกที่สส.แต่งตั้งให้เข้ามาช่วยงาน และมีตำแหน่งในสมาคมกีฬา มีพฤติกรรมหลอกลวงผู้เสียหาย ด้วยการแอบอ้างหนังสือของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แนบไปด้วยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ในการเจรจากับผู้เสียหาย ซึ่งหน่วยงานราชการดังกล่าวสอดคล้องกับตำแหน่งที่ เลขานุการฯคนดังกล่าวเป็นอยู่ และจากการตรวจสอบหนังสือ ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เบื้องต้น ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นคนเซ็นหนังสือ และไม่ทราบว่าเป็นหนังสือจริงหรือไม่
นายปรีติ กล่าวว่า ผู้เสียหาย 2 จาก 3 ราย พบว่ามีมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 8 ล้านบาท รายแรกเป็นโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านบางขุนเทียน ถูกหลอกให้วางเงินประกัน4 ล้านบาท เพื่อจะได้รับงานในการตรวจสุขภาพจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วภูมิภาค ส่วนรายที่ 2 เป็นผู้ประกอบการค้า ย่านนนทบุรี ถูกหลอกให้ซื้อลูกฟุตบอล และทำเสื้อกีฬา ทั้งที่โครงการดังกล่าวไม่มีอยู่จริง ทำให้ผู้เสียหายทั้ง 2 รายแจ้งความฐานฉ้อโกง อย่างไรก็ดีผู้ถูกต้องเรียนเป็นคนมีความรู้ทางกฎหมายจึงไปเจรจายืดเวลา ในการคืนเงินให้กับผู้เสียหาย โดยใช้เทคนิคจ่ายคืนเพียงบางส่วน หรือจ่ายคืนเป็นเช็ค แต่เช็คเด้ง ทำให้ไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ เพราะ มีการสลักหลังว่าเป็นเช็คจ่ายเพื่อการค้ำประกันเท่านั้น หรืออ้างว่ากำลังนำบ้านไปจำนองกับธนาคาร เพื่อนำเงินมาคืนให้ผู้เสียหาย โดยมีวัตถุประสงค์ให้คดีหยุดชะงักลง หรือผู้เสียหายไม่ดำเนินการต่อ เนื่องจากคดีฉ้อโกง เป็นความผิดส่วนตัว ซึ่งสามารถยอมความได้
“ผู้ถูกร้องเรียนคนดังกล่าวมีพฤติกรรมหลอกลวง ผู้เสียหายรายใหม่ ไปเรื่อยๆเพื่อนำเงินมาจ่ายผู้เสียหายรายเดิม จึงขอให้ประชาชนที่พบว่ามีผู้ที่เอาตำแหน่งในกรรมาธิการ ไม่ว่าจะเป็นคณะใดไปแอบอ้างเพื่อขายงาน หรือเรียกรับเงิน อันเป็นการทุจริต ขอให้แจ้งมายัง กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อร่วมด้วยช่วยกันกำจัดมิจฉาชีพ ใส่สูทที่แอบแฝงอยู่ในสภาฯ" นายปรีติ กล่าว
นายปรีติ กล่าวด้วยว่าจากการตรวจสอบทราบว่าผู้ถูกร้องเรียนเคยอยู่ในกรรมาธิการหลายคณะ และมีพฤติกรรมลักษณะเข้าข่ายฉ่อโกงจำนวนมากโดยทราบว่ามีผู้เสียหายอีก 3 รายที่ไปแจ้งความดำเนินคดีที่กองปราบปราม จึงถือว่าเป็นมิจฉาชีพ
"ในวันที่ 18 ก.ย. ตนจะเสนอเรื่องนี้ในที่ประชุมกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ให้ตรวจสอบ พร้อมสอบถามไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อให้ยืนยันหนังสือที่แอบอ้าง หลอกลวงผู้เสียหาย เป็นฉบับจริงหรือไม่ เพราะมีข้อความลักษณะว่าสนับสนุนสมาคมกีฬา ให้ได้รับงาน ทั้งนี้ทราบว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาถือเป็นผู้กว้างขวางในย่านมีนบุรี จึงอาจทำให้คดีล่าช้าได้" นายปรีติ กล่าว