ศาลยึดทรัพย์ 'อดีตหัวหน้าคลังสินค้า' บมจ.ไทยชูการ์ฯ 5.1 ล้าน รวยผิดปกติ
เลขา ป.ป.ช.เผยศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 3 พิพากษายึดทรัพย์ 'อดีตหัวหน้าคลังสินค้า' บมจ.ไทยชูการ์ฯ 5.1 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน เหตุร่ำรวยผิดปกติ โชว์รายการทำธุรกรรม 2 บัญชี ระหว่างปี 45-51
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงข่าวเกี่ยวกับคดีตามคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 กรณีนายโสรัจจ์ สุทธิวงศ์ เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) กระทรวงพาณิชย์ เมื่อครั้งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคลังสินค้า บริษัท ไทยชูการ์ เทอร์มิเบิ้ล จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.46 - วันที่ 12 มี.ค.47 มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ศาลสั่งให้ทรัพย์สินรวมมูลค่า 5,123,222.50 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายโสรัจจ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง หัวหน้าคลังสินค้า บริษัท ไทยชูการ์ฯ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการตรวจสอบคุณภาพข้าวสาร ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก และจากการไต่สวนมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ
จากการไต่สวนข้อเท็จจริงเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมี ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติให้ส่งรายงาน สำนวน การไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 ความแพ่ง เรื่องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน คดีหมายเลขดำที่ พท 3/2567 คดีหมายเลขแดงที่ พท 2/2567 ระหว่างอัยการสูงสุด ผู้ร้อง กับนายโสรัจจ์ สุทธิวงศ์ ผู้ถูกกล่าวหา ได้ความว่าศาลพิพากษาให้ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่
1. รายการธุรกรรมบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาท่าเตียน ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายโสรัจจ์ สุทธิวงศ์ ดังนี้
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2545 ฝากเงินสดจำนวน 100,000 บาท
วันที่ 6 มิ.ย.45 ฝากเงินสด จำนวน109,870 บาท
วันที่ 31 ก.ค.46 ฝากเงินสดจำนวน65,000 บาท
วันที่ 14 ส.ค.46 ฝากเงินสดจํานวน 80,000 บาท
วันที่ 22 ก.ค.47ฝากเงินสดจำนวน224,155 บาท
วันที่ 6 ก.ย.47 ฝากเงินสดจำนวน150,000 บาท
2. รายการธุรกรรมบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาปู่เจ้าสมิงพราย ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายโสรัจจ์ สุทธิวงศ์ ดังนี้
วันที่ 13 ก.พ.45 ฝากเงินสด จำนวน 100,000 บาท
วันที่ 14 ต.ค.45 ฝากเงินสด จำนวน 1,000,000 บาท
วันที่ 12 พ.ย.45 ฝากเงินสด จำนวน 750,000 บาท
วันที่ 25 มี.ค.46 ฝากด้วยเช็คธนาคาร/โอน 80,000 บาท
วันที่ 13 ส.ค.46 ฝากเงินข้ามเขตหักบัญชี 200,000 บาท
วันที่ 21 ส.ค.46 ฝากเงินข้ามเขตหักบัญชี 50,000 บาท
วันที่ 15 ต.ค.46 ฝากเงินข้ามเขตหักบัญชี 150,000 บาท
วันที่ 29 ต.ค.46 ฝากเงินข้ามเขตหักบัญชี 100,000 บาท
วันที่ 14 พ.ย.46ฝ ากเงินข้ามเขตหักบัญชี 50,000 บาท
วันที่ 19 ม.ค.47 ฝากเงินข้ามเขตหักบัญชี 50,000 บาท
วันที่ 5 ก.พ.47 ฝากเงินข้ามเขตหักบัญชี 91,100 บาท
วันที่ 2 มี.ค.47 ฝากด้วยเช็คธนาคาร/โอน 103,097.50 บาท
วันที่ 7 พ.ค.47 ฝากเงินสด จำนวน 141,000 บาท
วันที่ 17 พ.ค.47 ฝากเงินสดจำนวน 157,500 บาท
วันที่ 6 ก.ค.47 ฝากเงินสดจำนวน 180,000 บาท
วันที่ 11 ส.ค.47 ฝากเงินสด จำนวน 100,000 บาท
วันที่ 10 ก.ค.50 ฝากเงินสด จำนวน 220,000 บาท
วันที่ 20 ก.ค.50 ฝากเงินสด จำนวน 50,000 บาท
วันที่ 6 ส.ค.50 ฝากเงินสด จำนวน 202,000 บาท
วันที่ 15 ส.ค.50 ฝากเงินสด จำนวน 69,500 บาท
วันที่ 13 ก.ย.50 ฝากเงินสด จำนวน 80,000 บาท
วันที่ 19 พ.ย.50 ฝากเงินสด จำนวน 400,000 บาท
วันที่ 7 พ.ค.51 ฝากเงินสด จำนวน 70,000 บาท
รวม 5,123,222.50 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน และแจ้งคำวินิจฉัยไปยังผู้มีอำนาจถอดถอนผู้ถูกกล่าวหา หากไม่สามารถบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์ของผู้ถูกกล่าวหาให้ตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือบางส่วน ให้บังคับเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหา ให้ครบถ้วนภายในระยะเวลา10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา