‘จุลพันธ์’ แย้ม แจกเงิน เฟส2 ช่วงโลว์ซีซั่น ชี้ ห่างเฟสแรก เกินไปไม่ดี
“จุลพันธ์” เผย แจกเงิน เฟส2 มาในเวลาเหมาะสม ยังไม่เคาะ จ่ายแค่5,000 ชี้ ห่างเฟสแรกเกินไปไม่ดี มีแรงเฉื่อย ไม่แคร์ ครหา เอาคนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน มาใช้ ไม่ใช่เรื่องศักดิ์ศรี
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการโอนเงิน 10,000 บาท เฟสแรก 14.5 ล้านคน ว่า กลุ่มคนพิการยังมีที่ค้างอยู่จำนวน 8,829 ราย ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องบัตร และบางส่วนสิทธิ์ซ้ำกับกลุ่มเปราะบาง ประมาณ 93,000 ราย ส่วนกลุ่มเปราะบางยังเหลืออีก 372,458 ราย ซึ่งมีปัญหาเรื่องบัญชีไม่เดิน และยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ ซึ่งในกลุ่มนี้หากมีการเช็คสิทธิ์แล้วแต่ยังไม่ได้เงิน ต้องไปประสานกับธนาคาร และไปดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชนให้เรียบร้อย โดยทางกระทรวงการคลังจะมีการโอนเงินซ้ำอีก 3 ครั้งตามรอบ
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงกรณีที่มีการโอนเงินเข้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์แต่ถูกหักหนี้จากบัญชีอัตโนมัติ ว่า ไม่มีการหักบัญชีทันที เป็นความเข้าใจผิดของผู้รับสิทธิ์เอง และมีบางรายที่ไปผูกพร้อมเพย์กับธนาคารอื่นแต่ไม่รู้ตัว ขณะนี้จำนวนเม็ดเงินที่เข้าไปในระบบทั้งหมด ประมาณ 141,000 ล้านบาท และจะมีผลต่อการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ 3.35 %
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ประชาชนมีการนำเงินไปซื้อเหล้า ซื้อหวย อาจจะไม่ตอบโจทย์การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้น รัฐบาลต้องคิดให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว เพราะหากรออีก 3 เดือน จะยิ่งส่งผลกระทบทางลบด้านเศรษฐกิจ จึงต้องมีการปรับรูปแบบ ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลดี และตรงกับความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาจจะมีตังค์ใช้ที่นอกเหนือความคาดหวังของรัฐบาลบ้าง แต่เป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกับผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด และในเฟสถัดไปก็จะพยายามทำให้เป็นรูปแบบดิจิทัล
ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เฟส2 ยังไม่มีกำหนดว่าจะจ่ายเพียง 5,000 ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ คณะกรรมการทุกอย่างต้องมีกลไก โดยรอผลการประชุมจากคณะกรรมการ
เมื่อถามถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปตามเป้าเดิมของรัฐบาลหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจลดไปตามสัดส่วน แต่เม็ดเงินที่เติมลงไปไม่ได้หายไปไหน ยังมีสภาพคล่องในระบบ หมุนเวียนแต่อาจจะมีการรั่วไหลบ้าง แต่เม็ดเงินจะเป็นตัวหมุนในระบบเศรษฐกิจโดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น ถัดจากนั้นจะต้องดูระยะเวลาที่เหมาะสมในการเติมเม็ดเงินลงไปอีกรอบ เพื่อเป็นแรงบวกในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ส่วนจะต้องเป็นช่วงเทศกาล เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ ยังไม่สามารถกำหนดได้หรือให้คำตอบได้ แต่จะห่างจากเฟสแรกไปก็ไม่ดีเพราะจะให้เกิดแรงเฉื่อย ดังนั้น ต้องเติมเข้าไปในจังหวะเวลาที่เหมาะสม
เมื่อถามว่า เฟส2จะใช้เป็นไพ่เด็ด ช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ก็ใกล้เคียงอย่างนั้น ขอดูอีกที
เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน วิจารณ์ว่าพายุหมุนทางเศรษฐกิจจะไม่เกิดขึ้นแล้ว นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ดูง่ายๆช่วงหนึ่งถึงสองวันนี้ ตั้งแต่เริ่มโอนเงินเงินก็เกิดการจับจ่ายใช้สอยคึกคักแล้ว ดังนั้น สิ่งที่ได้คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นของรัฐบาล
ส่วนในช่วงปลายปีจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆออกมาหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า มี กำลังคุยอยู่ แต่จะเป็นคนละครึ่งหรือเที่ยวด้วยกันยังไม่ได้ข้อสรุป
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าหากเป็นโครงการเหล่านี้จะกลายเป็นข้อครหาว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เพราะเคยวิจารณ์โครงการนี้ไว้เยอะ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ต้องดูตามสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ จะเอาเรื่องพวกนั้นมาเป็นตัวตั้งไม่ได้ และพวกตนคงไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นอุปสรรค แต่จะดูสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด การจะเอาศักดิ์ศรีมาคงไม่ใช่แต่ต้องเอาประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก พร้อมย้ำว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นอยู่ที่ความเชื่อมั่น และเสถียรภาพของรัฐบาล รวมถึงนโยบายที่มีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อถามว่า การแจกเฟส2หากดำเนินการล่าช้าจะมีผลกระทบต่อเป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม เมื่อเราแบ่งเฟสแล้วชัดเจนเราก็ต้องคำนวณดูจุดที่มีความเหมาะสมที่สุด ห่างไปก็ไม่ดี ความเหมาะสมคือไม่ห่างเกินไป ไม่ชิดจนเกินไป และต้องไม่ใช่ช่วงที่เติมไปแล้วไม่เกิดแรงหน่วงอย่างเห็นได้ชัด