ปฏิบัติการ แช่แข็ง ‘ผบ.ทร.’ 1 ปีวัดฝีมือ ‘พล.ร.อ.จิรพล’

ในวันรับมอบตำแหน่ง “บิ๊กแมว” พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. ตอบคำถามสื่อ ถึงแนวทางการสร้างความรักความสามัคคีลูกประดู่ เพื่อสยบร้อยร้าว จากผลพวงการปรับย้ายในห้วงหลายปีจนถึงปัจจุบัน ที่สร้างแรงสะเทือนเลื่อนลั่นภายในกองทัพเรือ

แม้ พล.อ.อ.จิรพล ยืนยันว่าไม่กังวล เพราะกำลังพลของกองทัพเรือรู้หน้าที่ มีความกลมเกลียว ประสานการทำงานกันได้ ในขณะที่ตนเองก็พร้อมรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ และความเห็นแตกต่าง เพื่อหาทางออกร่วมกัน

ทว่า ผบ.ทร.คนใหม่ หวั่นใจไม่น้อย เพราะรับรู้ถึงกระแสต่อต้านจากคนใน และนอกกองทัพเรือมาโดยตลอด ถึงกับเอ่ยปากหารือ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม อดีต ผบ.ทร.หลายครั้งก่อนที่จะมีการโปรดเกล้าฯ

ย้อนไปสัปดาห์ที่แล้ว “กองทัพเรือ” มีพิธีอำลาชีวิตการรับราชการชั้นนายพลช่วงค่ำ 27 ก.ย.ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อตอบแทนคุณงามความดีของผู้เกษียณอายุราชการที่ได้อุทิศกำลังกายกำลังใจ ปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกำลังสติปัญญาและความสามารถ อันเป็นผลให้กองทัพเรือมีความเจริญก้าวหน้าและพัฒนาต่อเนื่อง

ภายในงานวันนั้น มีทหารชั้นนายพลทั้งที่เกษียณ และไม่เกษียณบางตา ไม่ถึง 200 คนจากทหารนายพลประมาณ 400 คน โต๊ะจีนจัดไว้รับรองไร้คนนั่งเกือบ 20 โต๊ะ สะท้อนถึงปฏิบัติการอารยะขัดขืน ไม่ยอมรับวิธีการทำงาน การจัดวางคนในตำแหน่งต่างๆ ของ “บิ๊กดุง”

โดยเฉพาะ “พล.ร.อ.จิรพล” เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 23 ของ “บิ๊กดุง” ถูกโจมตีเรื่องคุณสมบัติ ด้อยกว่าแคนดิเดตในไลน์ 5 ฉลามเรือ จบนักเรียนนายเรือต่างประเทศ ไม่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ถูกด้อยค่าเป็นเพียง “ร่างทรง”

ทำให้ขาดความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการ และการพัฒนากองทัพ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเรือดำน้ำที่ยังย่ำอยู่กับที่ รวมถึงความคาดหวังในการผลักดันโครงการจัดซื้อเรือฟริเกตปีงบประมาณ 2569 หลังจากกองทัพเรือทำไม่สำเร็จ ในปีงบประมาณ 2567 และ 2568

บรรยากาศพิธีอำลาชีวิตการรับราชการชั้นนายพลคุกรุ่นตั้งแต่เริ่ม โดยเฉพาะในช่วง“บิ๊กดุง”ขึ้นกล่าวบนเวที บางช่วงบางตอนเกี่ยวกับการปรับย้ายในกองทัพเรือ อยากให้ทุกฝ่ายหยุดการเคลื่อนไหว และยอมรับ เพราะการต่อสู้ได้จบลงแล้ว

ส่งผลให้ ตท.24 เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กน้อย” พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง และ ตท.25 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข วอล์กเอาต์ออกจากงานอย่างพร้อมเพรียง

ทั้ง พล.ร.อ.วรวุธ และ พล.ร.อ.สุวิน ต่างเป็นแคนดิเดต ผบ.ทร. อยู่ในไลน์ 5 ฉลามเรือ แต่การปรับย้ายล่าสุด พล.ร.อ.วรวุธ ถูกแขวนในตำแหน่งประธานที่ปรึกษากองทัพเรือ ส่วนพล.ร.อ.สุวิน ถูกโยกเป็นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด

ท่ามกลางกระแสข่าว มีการทำสัตยาบันร่วมกันพร้อมกับใช้คำว่า “ฟรีซ ผบ.ทร.คนใหม่” และก๊วนทหารใกล้ชิดของ “บิ๊กดุง” หลังได้รับการผลักดันให้เติบโตในตำแหน่งสำคัญข้ามหัวรุ่นพี่หลายรุ่น

พล.ร.อ.จิรพล เปิดใจกับเนชั่นทีวีพร้อมยอมรับว่า ทุกคนจับตามองว่าคนคนนี้ (ชี้ที่ตัวเอง)จะทำงานได้มากแค่ไหน แต่ขอยืนยันว่า จะทำงานอย่างเต็มความสามารถ และยึดมั่นความถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

ส่วนปัญหาเรือดำน้ำ เป็นเรื่องเฉพาะหน้าที่ต้องเข้ามาจัดการ ขณะนี้ เรื่องอยู่ที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะมีการหารือภายใน1-2 สัปดาห์ ที่ผ่านมาโครงการล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด 2-3 ปี กระทบกับแผนงานอื่นๆ ฉะนั้นอยากให้แผนเดินอย่างไม่ติดขัด และนโยบายมีความชัดเจน คือต้องเดินหน้าต่อไป

อีกทั้งตามแผนยุทธศาสตร์ของกองทัพ ต้องมีเรือดำน้ำ 4 ลำ ส่วนเรือฟริเกตที่ต้องดูแลสองฝั่ง ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียง ต้องมี 8 ลำ

แม้ว่า พล.ร.อ.จิรพล จะทำหน้าที่ ผบ.ทร.เข้าสู่วันที่ 5 แล้ว และเตรียมมอบนโยบายการทำงานในวันที่ 9 ต.ค.นี้ แต่ความเคลื่อนไหวภายในและภายนอกกองทัพเรือยังเหมือนไฟลามทุ่ง

จากความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปรับย้าย กลายเป็นการขุดคุ้ยความไม่ชอบมาพากล การจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ สาเหตุเรือหลวงสุโขทัยล่มในยุคบิ๊กดุง เป็น ผบ.ทร. และผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ

ยิ่งปัจจุบัน บิ๊กดุงยังไม่ได้ย้ายออกจากบ้านพักรับรอง ผบ.ทร. แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.2567 โดยให้เหตุผลว่า บ้านพักส่วนตัวอยู่ระหว่างปรับปรุงยังไม่เสร็จ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง

ท่ามกลางความขัดแย้งภายในกองทัพเรือ เปรียบเป็นระเบิดลูกใหญ่รอวันปะทุ กำลังเป็นบททดสอบ “พล.ร.อ.จิรพล” นักเรียนนายเรือจบนอก ที่ไม่ได้เติบโตร่วมกับลูกประดู่ ซึ่งล้วนจบจากโรงเรียนนายเรือ ไร้พวกพ้องเป็นมือเป็นไม้ในการทำงาน

ก็เป็นเรื่องน่าคิดว่า “พล.ร.อ.จิรพล” จะฝ่าคลื่นใต้น้ำ นำพากองทัพเรือไปสู่จุดสูงสุดที่ลูกประดู่คาดหวังได้หรือไม่ 

ตามคำฝากฝังของ“บิ๊กดุง”ในวันรับมอบตำแหน่ง "ดูแลกองทัพเรือด้วย ทำให้ดีที่สุด ลบคำครหา คำปรามาสให้ได้”