เบิร์ธเดย์ 'จตุพร' ปลุกคนลงถนน ค้านเปิดบ่อนถูกกฎหมาย-ให้เช่าที่ดิน 99 ปี
เบิร์ธเดย์ “จตุพร” ปลุกคนลงถนน ค้านนโยบาย บ่อนถูกกฎหมาย ให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี ด้าน “ทนายนกเขา” อัดนักการเมือง - ทหาร - กลุ่มทุน รวมหัวแบ่งผลประโยชน์ ทำประเทศอยู่กับที่ ไปต่อไม่ได้
เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2567 ที่สถานีพีซทีวี รามอินทรา คณะหลอมรวมประชาชน นำโดย 3
นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มคณะหลอมรวมประชาชน จัดเวทีพูดคุยปราศรัยในหัวข้อ “ประเทศไทย อดีต ปัจจุบัน อนาคต” เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 59 ปีของนายจตุพร
บรรยากาศก่อนเริ่มงาน เป็นไปด้วยความคึกคัก มีมวลชนจากอดีตกลุ่ม นปช. และ กปปส. เข้าร่วม โดยมีวงออร์เคสตราจากนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง บรรเลงเพลงก่อนการปราศรัย
จากนั้นเป็นช่วงการปราศรัย โดยนายนิติธร กล่าวว่า เราหวังพึ่งนักการเมืองมานาน และบางคนก็หวังพึ่งนักการทหาร แต่สุดท้ายนักการเมืองก็คือนักการเมือง นักการทหารที่เราหวังพึ่งว่าเขาควรจะเป็นทหาร สุดท้ายเขาก็คือนักการเมืองตัวพ่อเหมือนกัน เราก็จะอยู่กันแบบนี้ ประเทศไปไหนไม่ได้
เราจะออกมาห่วงใยบ้านเมือง ท้วงติงแสดงความคิดเห็น ก็มีพวกบอกว่า เดี๋ยวเขาจะปฏิวัติยึดอำนาจ แต่เขายึดอำนาจจากนักการเมืองชั่ว ไม่ได้ยึดอำนาจจากที่ประชาชนออกมาชุมนุม สุดท้ายก็เอาตัวรอด ไปร่วมมือกัน
ดังนั้นประเทศไทยต้องมาก่อน คือการหลอมรวมประชาชนให้ได้ แต่วันนี้เราถูกแบ่งแยก ทำให้ถูกแบ่งความสามัคคี ซึ่งทุกคนบอกว่าจะปรองดองสมานฉันท์ แต่สุดท้ายก็รวมหัวกัน คือการสมานฉันท์ของนักการทหาร และนักการเมือง เอาอำนาจไปสร้างผลประโยชน์ เอาผลประโยชน์มาซื้ออำนาจ จนประเทศไปไหนไม่ได้
เมื่อมีพรรคการเมืองน้องใหม่ขึ้นมา หลายคนก็มีความหวัง ลงคะแนนให้ แต่สำหรับตนไม่เคยลงคะแนนให้พรรคไหน เลือกตั้งครั้งใดก็โหวต NO เพราะเชื่อใจใครไม่ได้
“วันนี้เราเห็นภาพฝั่งหนึ่งรัฐบาล คนรัฐประหารไปจับมือกับคนโกง อีกฝั่งหนึ่งเราเห็นคนโกงไปจับมือกับคนล้มเจ้า เสร็จแล้วการเมืองก็จะวนอยู่แบบนี้ เอาเศรษฐาออกไป ก็ได้อุ๊งอิ๊งมา เอาอุ๊งอิ๊งออกไปก็จะได้อนุทินมา ได้อนุทินมา เราก็จะกลายเป็นเด็กนักเรียน เพราะเขาจะมีครูใหญ่ตามมาด้วย ถ้าอนุทินไม่เอา เขาก็จะเสนอป้อมให้ ถ้าป้อมมา เราทุกคนก็ต้องเข้าบ้านป่าฯ ในเมืองอยู่ไม่ได้" นายนิติธร กล่าว
นายนิติธร กล่าวต่อว่า ส่วนนายพีระพันธุ์ ที่ถูกมองว่าเป็นนักการเมืองน้ำดี ตนก็เชื่อ แต่ขึ้นมาก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมีแค่ 30 เสียง ประเทศก็เป็นแบบนี้
หลายคนก็บอกว่าเลือกตั้งรอบหน้า พรรคเพื่อไทยจะสามารถรักษาระดับไว้ได้ก็มี พรรคก้าวไกลก็มีเช่นกัน ประเทศก็จะวนอยู่แบบนี้ ไปไหนไม่ได้ ถ้าปล่อยให้มีการยึดอำนาจ เมื่อยึดเสร็จเราก็จะเห็นนักการเมืองหน้าเดิมกลับมานั่งรัฐมนตรี หรือไม่ก็นั่งบอร์ดต่างๆ ซึ่งก็จะมีกลุ่มทุนใหญ่อยู่เบื้องหลัง มันไม่เคยมีประชาธิปไตย ที่บอกว่ามี มันไม่มี เคยมี มีแต่การสมคบคิด มีแต่ระบบอุปถัมภ์ มีแต่การแบ่งปันผลประโยชน์ใช่หรือไม่
จึงเป็นสิ่งที่เราต้องเอาประเทศไทยมาก่อน และต้องหลอมรวมประชาชน ซึ่งสิ่งที่พวกคนเหล่านี้กลัวมากที่สุดคือประชาชน สิ่งที่จะจัดการบ้านเมืองได้อย่างแท้จริงไม่ใช่ทหาร ไม่ใช่อาวุธ แต่คือใจของประชาชนที่ใจถึง
รวมทั้งเขาบอกว่า เราจุดไม่ติดเพราะไม่มีท่อน้ำเลี้ยง ซึ่งมันสู้ใจไม่ได้ ที่ผ่านมาก็สู้กันแบบนี้ แต่ปัญหาทางการเมืองที่ติดตอนนี้ มันมาจากความคิดของคนไทย ไม่จดจำอดีต จนวนกลับมาเจอแบบนี้ ย่ำอยู่กับปัจจุบัน เพ้อฝันเลื่อนลอยกับอนาคต ทำให้คนไทยถูกกดขี่เอาเปรียบ เพราะหลายคนยึดติดกับตัวบุคคล และวาทกรรมปรุงแต่งทั้งหลาย แต่กลับปลอมทั้งสิ้น วันนี้ถ้าจะนำพาบ้านเมืองต้องประเทศไทยมาก่อน
นายนิติธร ยังกล่าวถึงเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่าจะสร้างเงินสกุลของตัวเอง ยังเอาเงินจากแผ่นดินมาสร้างเพื่อแข่งขันกับเงินของประเทศ ให้มีค่ามากกว่าเงินบาท เป็นจุดมุ่งหมายที่จะทำดิจิทัลวอลเล็ต เช่นเดียวกับกรณีการเอาที่ให้ต่างชาติเช่า 99 ปี ที่ถูกมองว่ามีความเหมาะสมหรือไม่
ขณะที่นายจุตพร ขึ้นเวทีกล่าวบทกลอนว่า “ผ่านเวลามา 59 ปี ผ่านร้อนหนาวในชีวีต ไม่เคยหวั่น ยังคงเป็นจุตพร พรหมพันธุ์ ที่ศรัทธาและเชื่อมั่นต่อผองชน“
พร้อมกล่าวต่อว่า ขอสื่อความไปถึงรัฐบาลว่า หลังจากนี้เราจะทำอะไรกันบ้าง ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายวันมานี้ เต็มไปด้วยคำเยาะเย้ย ถากถาง ว่าเป็นม็อบจุดไม่ติด หรือเป็นม็อบรับจ้าง หรือมีดีลกับคนนั้นคนนี้บ้าง ซึ่งตนจะสื่อว่า คนที่จะทำให้ม็อบจุดติด หรือคนจุดม็อบ ไม่ใช่ตน หรือทนายนกเขา ไปจนถึงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แต่ที่ผ่านมาคนที่มีหน้าที่จุดม็อบให้ติด คือนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลทั้งสิ้น
“น้ำมันกองฟืนในนาครนี้ คนที่จะเป็นผู้จุดอยู่ในมือของคุณอุ๊งอิ๊ง อยู่ในมือของพ่ออุ๊งอิ๊ง หลายคนบอกว่าไล่รัฐบาลไม่ไปหรอก จริงครับ เพราะรัฐบาลจะไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ไม่ได้ไปเพราะประชาชนขับไล่ แต่ไปเพราะกรรมเก่า ไปเพราะสนามกอลฟ์อัลไพน์ของยายเนื่อม“ นายจตุพร กล่าว
นายจุตพร กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลจะไปก็มาจากการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่มาจากการลงมติของพรรคที่มี น.ส.แพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรค ที่อยู่ในห้วงเวลาขององค์กรอิสระ ส่วนภาคประชาชนที่จะลงถนนก็มาจากเรื่องนโยบายของรัฐบาล
“ถ้ามีการทำบ่อน 8 แห่ง หรือถ้าจะมีการขายแผ่นดิน 99 ปี ทั้งแผ่นดินบวกคอนโด หรือแผ่นดินที่อยู่ในแลนด์บริดจ์ ระบบราง ระบบล้อ คุณทำไป แต่ต้องไม่แถมแผ่นดิน 3 แสนไร่เป็นเวลา 99 ปี ซึ่งมีทางออก 2 มหาสมุทรอินเดียแปซิฟิก อ่าวไทย อันดามัน ไม่งั้นเจอกับประชาชนอย่างแน่นอน" นายจตุพร กล่าว
นายจุตพร กล่าวอีกว่า "ถามว่าทำไมเราต้องบอกประชาชนให้ลงท้องถนน การจุดม็อบติดคือรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง การบ่อน 8 แห่ง การขายแผ่นดิน 99 ปี การเจรจาผลประโยชน์ประเทศกับกัมพูชา และเสียดินแดน นี่คือการจุดม็อบ ถ้าคุณจุดติด ผมจะออกไปยืนขวางการขายชาติขายแผ่นดินของคุณเอง เพราะในแต่ละโครงการไม่มีผลประโยชน์ชาติ เป็นเรื่องผลประโยชน์ของตนเองทั้งสิ้น เพราะอีก 99 ปี ทั้งคนพูด และคนเชื่อก็ตาย แต่ประเทศจะเป็นอย่างไร รวมถึงยังพาประเทศเป็นเมืองอบายมุข ฟอกเงิน แลกกับผลประโยชน์อันน้อยนิดที่ชาติบ้านเมืองจะได้ แต่ให้ตัวเองมั่งคั่งอย่างมโหฬาร ไม่สนใจความหายนะของชาติ เป็นการจุดม็อบที่ดีที่สุด สร้างบ่อนวันไหน เจอกันวันนั้น"
“พี่น้องภาคใต้ฟังผมดีๆ นะ 3 แสนไร่คือแผ่นดินของภาคใต้ ในอดีตขุดคลองคอดกระ บอกทำไม ไม่ได้เพราะกลัวแบ่งแย่งดินแดน วันนี้ไม่กลัวการแบ่งแยกดินแดน เพราะยกดินแดน 3 แสนไร่ให้เขา ไม่บัดซบจริง คิดไม่ได้“ นายจตุพร กล่าวและว่า
ถ้าการออกมาแบบนี้ เป็นพวกป่วนเมือง เป็นม็อบรับจ้าง แล้วพวกสนับสนุนการขายชาติขายแผ่นดินเป็นพวกไหน ตนอยากรู้จริงๆ ซึ่งรัฐบาลไม่มีสิทธิมาขายชาติขายแผ่นดิน ถ้าคนไทยยอมให้เกิดขึ้นก็ให้รู้ไป ต่อให้จะเหลือกี่คนก็ไม่สำคัญ เราจะไปยืนขวางต่อให้เหลือตนกับนายนิติธร ก็จะไปยืนขวาง
นายจุตพร ยังกล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การรักษาตัวที่ชั้น 14 มีใครเชื่อบ้าง เป็นเรื่องที่ยิ่งกว่าละครลวงโลก รวมถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยที่ให้ถ้อยคำ และข้าราชการกรมราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ และการสอบสวนของแพทยสภา ที่ได้ยินว่าเสร็จแล้ว จึงสงสัยว่านายทักษิณหายไปไหนหลายวัน หากมีการดำเนินการในส่วนนี้ นายทักษิณจะได้กลับไปเป็นนักโทษ อย่างที่ควรจะเป็น
ในช่วงหนึ่งนายจตุพร กล่าวว่า มีพวกบรรดาลิ่วล้อทั้งหลายบอกว่าตนเองไปร่วมมือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคประชารัฐ ซึ่งตนยืนยันว่า ยังไม่ได้ร่วมมือ แต่ถ้ากวนมากๆจะเดินไปหา ชวนพล.อ.ประวิตรด้วย แต่ตอนนี้ตนไม่เคยเจอกัน
“ตอนผมอยู่ตรงนั้น ผมก็ยืนอยู่แถวหน้า รู้มือกันทุกคน แต่เมื่อวันนี้ผมยืนอยู่ตรงกันข้ามกับทักษิณ และจะตรงกันข้ามกันตลอดไป ไม่มีทางจะเป็นอย่างอื่น" นายจตุพร กล่าว
นายจุตพร กล่าวอีกว่า ในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ จะไม่มีใครไปมอบตัวในคดีตากใบจนขาดอายุความ และการพูดของรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลงานความมั่นคง จะทำให้ความสงบในชายแดนใต้รุนแรงเกินกว่าที่คุณคิด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชายแดนใต้ คนที่จะต้องรับผิดชอบคนแรกชื่อนายทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างอื่นไม่ได้
ในช่วงท้าย นายจตุพร กล่าวว่า ปีนี้ตนเองอายุครบ 59 ปี ตนได้รับคำอวยพรจากคนที่ตนเคารพนับถือ ฉะนั้นเป็นคำพรที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญในการต่อสู้ยับยั้งการขายชาติขายแผ่นดิน แม้จะต้องแลกกับชีวิตอิสรภาพอีกครั้ง ตนไม่กลัวตายไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ดังนั้นสิ่งที่พวกนี้วางแผนจะทำ ตนขอบอกเลยว่าไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติหน้า ก็จะไม่มีวันได้ทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการปราศรัยของนายจตุพร มวลชนที่มารับฟังพร้อมอวยพรวันคล้ายวันเกิดซึ่งนายจตุพรได้กล่าวขอบคุณ และขอไม่เป่าเค้ก เนื่องจากไม่อยากให้มีบรรยากาศดังกล่าว เพราะมีสถานการณ์อุทกภัยในภาคเหนือ