ถอดรหัส‘เนวิน’ปั้น‘อนุทิน’นายกฯ 'อำนาจเก่า'โอกาสภท.ผงาดขั้วอนุรักษ์ฯ?

“ผูกให้เป็นนายกฯ​ ผูกให้ยิ่งใหญ่​ ผูกให้แข็งแรง”​ ประกาศิตจาก เนวิน ชิดชอบ “ครูใหญ่” ค่ายสีน้ำเงิน ส่งถึง “อนุทิน  ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ระหว่าง“ครูปะกำ​” ทำพีธีผูกข้อมือเรียกขวัญ ในพิธีปะกำช้าง เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 66 ปี ของครูใหญ่ค่ายสีน้ำเงิน เมื่อวันที่4ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรายล้อมไปด้วยคนใกล้ชิด นักการเมือง ข้าราชการ รวมถึงบุคคลจากหลากหลายวงการ ร่วมแสดงความยินดี

นัยที่ดูเหมือนจะกล่าวทีเล่นแต่อาจเป็นทีจริง จาก “น.เนวิน” ส่งผ่านไปถึง “น.หนู” อนุทิน ถูกตีความในแง่การเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะอย่างที่รู้กันตามสไตล์ “ครูใหญ่” ปรากฎตัวเมื่อไหร่มีประเด็นแทบทุกรอบ 

หากยังจำกันได้วันเกิดปี2565 เวลานั้นการเมืองกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวเลี้ยวหัวต่อต่างฝ่ายต่างเปิดโปรดูดสส.ย้ายค่าย ไม่ต่างจาก “ค่ายสีน้ำเงิน” เวลานั้นเปิดตัว“28สส.”  ทั้งในซีกรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ย้ายเข้าชายคาสีน้ำเงิน 

ครั้งนั้น “พ่อใหญ่เนวิน” พูดในเชิงหยอกล้อ “รอบหน้าให้ได้ 120 คน เท่ากับอายุหมอช้างที่มาทำพิธีในวันนี้”

ผลปรากฎว่า การเลือกตั้งเมื่อปี2566 ภูมิใจไทย กวาดสส.ได้71ที่นั่ง แม้ต่ำเป้ากว่า50ที่นั่ง แต่จำนวนสส.ที่ได้เข้าสภาถือว่ามากกว่าปี2562 ที่ได้39 คนเกือบครึ่ง

และตัวเลขสส.71เสียงนี่เองภายใต้สูตรพลิกจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ส่งผลให้ภูมิใจไทย จับมือกับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลปิดตำนาน“มันจบแล้วครับนาย” ท้ายที่สุด 

ไม่ต่างจากสภาสูงเวลานี้ซึ่งส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยสีน้ำเงินเกือบเต็มสภา ทว่าภายใต้แต้มต่อในสภาสูงซึ่งดูเหมือนภูมิใจไทยจะเป็นต่อในแง่นิติบัญญัติ 

แต่หากเทียบกับคะแนนนิยมไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ “พรรคภูมิใจไทย” หรือแม้แต่ตัว “อนุทิน” ในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯแทบไม่ติดลมบน 

 

"กระแส"เป็นรอง-"กระสุน" ยังลุ้น

ตอกย้ำจากผลสำรวจ “นิด้าโพล” เมื่อวันที่29ก.ย.ที่ผ่านมา ที่พบว่า คะแนน “อนุทิน” อยู่ในอันดับ6 เป็นรองทั้ง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคพรรคประชาชน หรือแม้แต่ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หัวหน้าพรรคในขั้วอนุรักษนิยมด้วยกัน 

หรือแม้แต่การช่วงชิงนโยบายเรือธงที่เวลานี้ถูกเบียดชิงพื้นที่ จากพรรคแกนนำอย่างพรรคเพื่อไทย ​โดยเฉพาะนโยบายแจกเงิน10,000 บาทซึ่งนิด้าโพลล่าสุด ระบุว่ามีผลเพิ่มแรงหนุนรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” ถึง30% หากเพื่อไทยเลี้ยงคะแนนนิยมไปได้เรื่อยๆ ย่อมส่งผลไปถึงการเลือกตั้งรอบหน้าได้

จึงมีข่าวว่า กลุ่มบ้านใหญ่ เตรียมสลัดทิ้ง “เสื้อน้ำเงิน” โดยปลายทางหลายสายอาจมุ่งหน้าบรรจบกันที่พรรคนายใหญ่สีแดง ที่เวลานี้ "นายใหญ่" บ้านจันทร์ส่องหล้าคืนสู่ฉากหน้าเปิดโปรด้วยตนเอง ประเดิมบ้านแรกคือ “2พ่อลูกช่างเหลา” แห่งเมืองขอนแก่น และอาจรวมไปถึงจังหวัดต่างๆ

โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานซึ่งถูกโฟกัสเป็นพิเศษ เป็นเช่นนี้การเลือกตั้งรอบหน้าอาจไม่ใช่แค่ “แดง” ชิง “ส้ม” แต่เพียงเท่านั้นแต่อาจรวมไปถึง “สีน้ำเงิน” ที่ต้องสู้เหนื่อยเช่นเดียวกัน

ย้อนสถิติสมรภูมิอีสาน ในการเลือกตั้งรอบที่แล้ว มีตั๋วผู้แทนทั้งหมด133 ที่นั่ง ถูกเฉลี่ยไปยัง เพื่อไทย 73 ที่นั่ง  ภูมิใจไทย 35 ที่นั่ง, พลังประชารัฐ 7 ที่นั่งก้าวไกล 7 ที่นั่ง ไทยสร้างไทย 5 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 2ที่นั่ง ชาติไทยพัฒนา 1ที่นั่งเพื่อไทยรวมพลัง2ที่นั่ง 

ส่องบ้านใหญ่“สีน้ำเงิน” ท๊อปฟอร์ม? 

ยังไม่นับรวมภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งต้องลุ้นภายใต้ “แบรนด์บ้านใหญ่” สู้ “กระแส” จะมีผลมากน้อยเพียงใด   โดยเฉพาะเก้าอี้นายกอบจ.ประเดิมไปบ้างแล้วในบางจังหวัด อาทิ ชัยธวัช เนียมศิริ นายก อบจ.เลย ตัวแทน ธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ อดีตนายก อบจ.เลย  "ทิมสุวรรณ" ในปีกภูมิใจไทย

พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์ กลุ่มนครสวรรค์บ้านเรา และตัวแทน ชาดา ไทยเศรษฐ์ พรรคภูมิใจไทย  สุรเชษ นิ่มกุล นายก อบจ.อ่างทอง กลุ่มสำนึกรักบ้านเกิด และตัวแทน สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล พรรคภูมิใจไทย 

สมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา มารดา สุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ พรรคภูมิใจไทย บ้านใหญ่เมืองกรุงเก่า  สุรีวรรณ นาคาศัย นายก อบจ.ชัยภูมิ ภรรยา สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย  เผด็จ นุ้ยปรีนายก อบจ.อุทัยธานี กลุ่มคุณธรรม ตัวแทน ชาดา ไทยเศรษฐ์ รวมไปถึงจังหวัดอื่นๆที่จะทยอยเลือกตั้งหลังจากนี้ 

ต้องลุ้นกันว่า  “บ้านใหญ่” เหล่านี้จะยังคงเหนียวแน่นกับค่ายสีน้ำเงินมากน้อยเพียงใด  โดยเฉพาะในยามที่ภูมิใจไทยคุมกระทรวงคลองหลอด ถืออำนาจในการจัดการเลือกตั้ง จะยังท๊อปฟอร์มเหมือนรอบที่แล้วหรือไม่  

 สัญญาณ “ครูใหญ่” แผ่บารมี

ภายใต้นัยที่ดูเผินๆเหมือนทีเล่นแต่อาจเป็นทีจริง “ผูกให้อนุทินเป็นนายกฯ”  นี้เอง “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” ย่อมอ่านเกมรู้ดูเกมออกหากยังขืนสู้ด้วยกระแสเหนือกระสุน โอกาสสานฝันดัน “อนุทิน” ขึ้นแท่นหัวขบวนอนุรักนิยม พ่วงด้วยตำแหน่งเบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลแทบไม่มี 

ฉะนั้นการปรากฎตัวของ “ครูใหญ่” ลึกๆแล้วอาจเป็นการแสดงพลังอำนาจพิเศษ ปลุกเร้าสส.ให้มั่นใจ ในแบรนด์สีน้ำเงินในการเป็นพรรคอนุรักษนิยมใหม่ ในฐานะตัวแทนอำนาจเก่า 

ซึ่งหากจับจังหวะดีๆก็มีการโชว์บทบาทมาเป็นระยะ  ที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆนี้คือ บิ๊กอีเวนต์ “ลมหายใจของแผ่นดิน”กลางสนามช้างอารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่28ก.ค. ที่ผ่านมา หรืออ้างถึงการได้รับ“เครื่องหมายสำคัญ” ของอนุทิน ซึ่งเป็นเสมือนใบเบิกทางหลังจากนี้ 

ทว่าในทางการเมืองแล้วยังมีหลายชั้น หลายตอนให้ต้องจับตา โดยเฉพาะสัญญาณระหว่าง “นายใหญ่” ค่ายแดง และน้ำเงิน  ที่แม้เวลานี้จะเล่นบทปิดตำนานมันจบแล้วครับนาย ความสัมพันธ์ระหว่าง "2นายใหญ่" เวลานี้แปรเปลี่ยนในทิศทางบวกหรือลบมากน้อยเพียงใด

ยังไม่นับรวมข่าวคราวการตั้งพรรค“อนุรักษ์นิยมใหม่”  ของบรรดาคีย์แมนคนสำคัญในฝ่ายอำนาจเก่าที่เคยปรากฎออกมาก่อนหน้านี้

โดยเฉพาะ “บิ๊กแป๊ะ”  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.  ซึ่งถูกจับตาบทบาทในฐานะคีย์แมนพรรคใหม่ และ “เสธหิ” หิมาลัย​ ผิวพรรณ​ ที่ปรึกษานายพีระ​พันธุ์​ สาลี​รัฐ​วิภาค​ รองนายก​ฯ และ รมว.​พลังงาน ขุนพลการเมืองอดีตเบอร์หนึ่ง ที่ปรากฎตัวในงานวันเกิดเนวิน

แน่นอนย่อมมีผลในแง่สัญลักษณ์ สื่อถึงการเกาะกลุ่มขบวนอนุรักษนิยม แต่ก็ยังเป็นคำถามว่าภายใต้ข่าวคราวการตั้งพรรคใหม่ ทั้งภูมิใจไทยและ “อนุทิน” จะถูกจัดวางไว้ในบทบาทใด การเมืองยังมีอีกหลายฉากหลายตอน ให้ต้องจับตาอะไรที่ว่าเป็นตัวหลอกถึงเวลาอาจเป็นตัวจริง อะไรที่ว่าเป็นตัวจริงอาจเป็นตัวหลอกเป็นได้