'2สส.ใหม่' พรรคกล้าธรรม รับให้พรรคเดิมขับออก ก่อนซบ 'กล้าธรรม' แค่วันเดียว
"2สส." แจงขอมติพรรคเก่า ให้ขับออกแล้ว ก่อนซบพรรคกล้าธรรม มองโอกาสได้ทำงานให้ประชาชน ชี้อยู่ฝ่ายค้านไม่มีที่ยืน
ที่สภาฯ นายกฤดิทัช แสงธนโยธิน สส.พรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า ตนสมัครเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรมแล้ว หลังจากที่พรรคใหม่ ซึ่งเป็นพรรคเดิมที่ตนสังกัด มีมติขับตนออกจากสมาชิกพรรค เมื่อ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีในการทำงานในพรรคใหม่ฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยอมรับว่าไม่มีบทบาท ไม่มีที่ยืน และทำงานร่วมกันไม่ได้ ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว และเมื่อมีหลายพรรคที่รัฐบาลชวนไปอยู่ด้วยจึงได้ตัดสินใจร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม ซึ่งยอมรับว่าการตัดสินใจดังกล่าวเพราะได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ
นายกฤดิทัช กล่าวต่อว่า การย้ายสังกัดเพื่อให้มีโอกาสทำงานช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ แม้ที่ผ่านมาจะลงพื้นที่ช่วยประชาชนแต่ไปในนามพรรคเล็กคนไม่สนใจ อีกทั้งการทำงานในสภาฯ อยู่พรรคเดิมไม่มีบทบาท การเสนอร่างกฎหมาย ญัตติ ไม่สามารถทำได้เพราะต้องมี สส.ร่วมรับรอง แต่เมื่อย้ายสังกัดแล้วเชื่อว่าจะทำงานได้มากขึ้น
“สำหรับพรรคเดิมที่ผมสังกัด เดิมผมเป็นหัวหน้าและคิดจะยุบ แต่กรรมการบริหารพรรคบางคนไม่ให้ยุบ เพราะอยากทำต่อ ดังนั้นจึงใช้แนวทางลงมติเพื่อขับผมออกจากพรรค ซึ่งขณะนี้ผมเป็นสมัครเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรมและได้เป็นสส.พรรคกล้าธรรม100%” นายกฤดิทัช กล่าว
เมื่อถามว่ากรณีการย้ายพรรคเป็นแนวทางของกลุ่มพรรคเล็ก1เสียงด้วยหรือไม่ นายกฤดิทัช กล่าวว่า ที่ผ่านมา สส.ในกลุ่มพรรคเล็ก 5-6 คนคุยกันตลอด เพราะมีแนวทางขับเคลื่อนเพื่อยื่นญัตติต่างๆ ร่วมกัน แต่การย้ายสังกัดพรรคกล้าธรรมนั้น ขณะนี้มีชัดเจน 2 คน คือ ตนและนายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเดิมสังกัดพรรคพลังสังคมใหม่ ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างการพิจาณาแนวทาง ซึ่งตนตอบแทนคนอื่นไม่ได้
ทางด้านนายเชาวฤทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคพลังสังคมใหม่ มีมติขับตนออก เมื่อ 6 ต.ค. จากนั้นวันที่ 7 ต.ค. ได้ย้ายเข้าสังกัดพรรคกล้าธรรมแล้ว เหตุผลที่ย้าย เนื่องจากพรรคเดิมไม่สามารถนำนโยบายพรรคมาปฏิบัติต่อประชาชนได้ มีอุปสรรคในการแก้ปัญหา ส่วนเหตุผลที่เลือกพรรคกล้าธรรม เพราะเป็นพรรคที่ว่างอยู่ และได้พิจารณาแนวทาง นโยบายแล้วเชื่อว่าแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ โดยการเลือกตั้ง สส.รอบหน้า จะส่ง สส.ลงชิงเก้าอี้ ที่จ.น่าน เขต1 ด้วย
เมื่อถามว่าที่มาอยู่พรรคกล้าธรรม เพราะ ร.อ.ธรรมนัส ชวนมาใช่หรือไม่ นายเชาวฤทธิ์ กล่าวว่า “ไม่เชิง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นวันที่ 5 ต.ค. นายเชาวฤทธิ์ ฐานะหัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ ยังได้นำเจ้าหน้าที่พรรค ลงพื้นที่ จ.มหาสารคาม เพื่อพบปะประชาชน ที่ อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการสาขาชุดใหม่และรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งก่อนหน้าเพียงวันเดียวที่จะขอให้ที่ประชุมพรรคพลังสังคมใหม่ขับออก ตามกระบวนการของกฎหมายเพื่อให้สามารถย้ายพรรคได้ โดยไม่ต้องพ้นจากความเป็น สส.