'มงคลกิตติ์’ พร้อมคณะ ลุยตรวจน้ำท่วมอยุธยา เชื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  มอบหมายให้  นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์  ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา ประธานคณะทำงานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายฉัตรชัย เข็มทอง  อดีต ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์  จ.ฉะเชิงเทรา เขต 3 คณะทำงาน นายสรกฤช  จันทรคณา   นายอนุรักษ์  อมรเมตตาจิต  นางสาวกฤษยากร สรชัย และ นายอดิศร สังข์จันทร์ คณะทำงาน ร่วมลงพื้นที่ ต.บางหัก ม.1-8 ต.บางหลวงโดด ม.1-4 อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยธยา เพื่อมอบข้าวสาร 688 ถุงๆละ 5 กก. และ น้ำดื่ม 688 แพ๊ก 8,256 ขวด ให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย น้ำท่วม มากว่า 1 เดือน 688 ครัวเรือน พร้อมให้กำลังใจ สอบถามชีวิตความเป็นอยู่ การทำมาหากิน รายได้ รายจ่ายของครอบครัว อาการเจ็บไข้ได้ป่วยของผู้สูงอายุ และปัญหาอื่นๆ

นายมงคลกิตติ์  กล่าวว่า  ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีห่วงใยประชาชนใน อำเภอบางบาล และ อำเภออื่นๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ถูกน้ำท่วมสูง 1-3 เมตร เป็นเวลานาน อย่างมาก เพราะเห็นว่าน้ำท่วมทุกปีเป็นเวลา 1-4 เดือน ประชาชนตกทุกข์ได้ยาก ทำมาหากินไม่ได้ ปกติรายได้มีแค่ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ(บัตรคนจน) 200-300 บาท/เดือน บัตรผู้สูงอายุ 600/700/800/900 บาท/เดือน ดีหน่อยปีนี้มีเงินกู้จากรัฐบาล ให้กับผู้มีรายได้น้อย-คนพิการ คนละ 10,000 บาท/คน

รวมทั้ง ค่าเยียวยาน้ำท่วม หลังละ 9,000 บาท ไม่รวมค่าซ่อมบ้านเสียหายจากน้ำท่วม ประชาชนในพื้นที่ 2 ตำบลนี้ มีผู้สูงอายุมาก ลูกหลานไปทำงานภายนอกนำรายได้มาจุนเจือครอบครัวได้ไม่มาก รายได้ก็มีไม่มากจากสวัสดิการจากภาครัฐ จึงต้องประหยัดมัธยัสถ์กันที่พอมีกินในปี 2567 ก็จากเงิน 10,000 บาท/คน ที่รัฐบาลไปกู้ยืมในอนาคตมาให้ก่อน และ ของบริจาคจาก มูลนิธิฯ หน่วยงานอื่นๆ ที่ช่วยๆกัน  ทั้งนี้ ในอนาคตหลังจาก คลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร(เจ้าพระยา 2) เสร็จ ก็จะทำให้น้ำท่วมลดระดับอย่างมาก เพราะเจ้าพระยา 2 สามารถเก็บกักน้ำได้ถึง 15 ล้าน ลบ.ม.เอาไว้ใช้ยามฝนแล้งเพื่อการเพาะปลูกได้อีก

“ผมลงพื้นที่น้ำท่วมอยุธยามาตั้งแต่เป็น สส.บัญชีรายชื่อ จนกระทั่งตอนนี้ที่ผมและคณะพรรคประชาธิปัตย์มาลงพื้นที่ ก็ยังเห็นประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวถูกน้ำท่วมอยู่เสมอ ผมนับถือน้ำใจของทุกท่าน เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เป็นแก้มลิงรองรับน้ำเหนือที่ไหลลงมา เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ไหลไปท่วมในพื้นที่สำคัญๆ ของประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โครงการ คลองระบายน้ำหลากบางบาล – บางไทร มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งคาดว่า จะเสร็จทันตามกำหนดที่ทางโครงการวางไว้คือ ปี 2569 โดยจะช่วยให้ บรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ตัวเมืองพระนครศรีอยุธยาและพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง และสามารถลดระดับความลึกของน้ำท่วมลงได้ รวมทั้ง เพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำสำหรับการใช้ประโยชน์พื้นที่ด้านเกษตรกรรมในเขตพื้นที่โครงการและพื้นที่ข้างเคียงอีกด้วย”นายมงคลกิตติ์กล่าว