‘ภคอร’ ลาออกหน.-สมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ ขออยู่จุดที่ทำประโยชน์ประชาชน
‘ภคอร’ ยื่นลาออกจากหัวหน้าและสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมขอบคุณที่ให้โอกาสทำงานการเมือง รับขอไปอยู่ในจุดที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ภคอร จันทรคณา หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้มีหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดย น.ส.ภคอร ระบุถึงเหตุผลที่ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ ว่า ตนขอขอบคุณสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ทุกท่าน ที่ได้มอบความไว้วางใจให้กับตนได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับนักการเมืองธรรมดาๆ คนหนึ่ง ซึ่งมีความตั้งใจในการทำงานทางการเมืองเพื่อประชาชน
อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังๆ ตนได้ลงพื้นที่ทำกิจกรรมกับพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเท่าที่ตนได้ร่วมลงพื้นที่ ก็ได้รับเกียรติและร่วมทำกิจกรรมกับทางพรรคฯ เสมอเหมือนกับเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ไปโดยปริยาย อีกทั้ง ตนทราบดีว่า ความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง มีเป็นจำนวนมาก
ซึ่งที่ผ่านมา ตนก็ได้ทำหน้าที่ตามที่กำหนดในกฎหมายและตามความคาดหวังของสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ตนจึงขอลาออกทั้งหัวหน้าและสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคคนอื่นๆ ที่มีศักยภาพเพียงพอและพร้อมที่จะนำทัพพรรคไทยศรีวิไลย์ ในการเลือกตั้งซึ่งคาดว่า จะมาในปี 2570 ให้สามารถปักธงของพรรคในแต่ละพื้นที่ให้กลับมามีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง
“ดิฉันเห็นว่า พรรคไทยศรีวิไลย์เปรียบเสมือนกับบ้านและโรงเรียนสอนการเมืองมาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งที่แห่งนี้ได้เปิดโอกาสให้ดิฉันได้ทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นโฆษกพรรค เลขาธิการพรรค และทำหน้าที่หัวหน้าพรรคจนสุดความสามารถของดิฉัน โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรค ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคต่างๆมากมาย ผลักดัน พรบ.เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึกผู้ถือบัตรชั้น2-3-4 เดือนละ 3000 บาท กลับเข้าสภา เป็นตัวแทนพรรคในการพูดบนเวทีสตรี ในเรื่องสมาชิกผู้พิการ แรงงานและอื่นๆ ขอบคุณโอกาสดีๆที่มีให้จากกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคทุกคนที่ทำให้ได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติทางการเมือง ภารกิจช่วยประชาชน เป็นหน้าที่ของเรา ซึ่งตอนนี้ ไม่ว่าดิฉันไปอยู่ในจุดใดที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้มากขึ้น โดยไม่ละทิ้งอุดมการณ์เดิมที่ดิฉันตั้งใจไว้” น.ส.ภคอร กล่าว