'วรชัย' ซัดปั่นกระแสโจมตี 'ณัฐุวุฒิ' ดิสเครดิตรัฐบาล เผื่อฟลุ๊คปลุกม็อบ

'วรชัย' ซัดปั่นกระแสโจมตี 'ณัฐุวุฒิ' ดิสเครดิตรัฐบาล เผื่อฟลุ๊คปลุกม็อบ

“วรชัย” ซัดพวกปั่นกระแสโจมตี “ณัฐุวุฒิ” นั่งที่ปรึกษานายกฯ หวังดิสเครดิตรัฐบาล เผื่อฟลุ๊คผสมโรงพวกปลุกม็อบ ชี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยเกิดแบบเดียวกันมาแล้วสมัย”ไทยรักไทย” แนะสู้ตามกติกาดีกว่า

   เมื่อวันที่ 12 ต.ค.นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และอดีตแกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แดีตแกนนำ นปช.ตัดสินใจรับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ว่า ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีนั้น แม้ผู้แต่งตั้งจะเป็นนายกฯ แต่ก็เป็นตำแหน่งที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ จากรัฐ และไม่มีอำนาจสั่งการข้าราชการตามกฎหมาย การรับตำแหน่งนี้จึงเป็นการเสียสละมาทำงานมากกว่า ที่จะตีความว่าเป็นการเข้ามามีอำนาจใดๆ ดังนั้นพวกที่ออกมาโจมตีนายณัฐวุฒิ และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในเรื่องนี้ พยายามจะไม่พูดถึงรายละเอียดของตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ ที่ได้ไม่มีอำนาจรัฐและไม่ได้รับค่าตอบแทน แต่พยายามบิดเบือนประเด็นให้ดูเหมือนว่าเป็นการเข้ามารับตำแหน่งราชการในรัฐบาล

“ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามพยายามทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เพื่อบิดเบือนใส่ร้ายทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การดิสเครดิตรัฐบาลให้มากที่สุด เผื่อฟลุ๊คไปผสมโรงกับพวกพยายามปลุกม็อบโค่นล้มรัฐบาลได้ การกระทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ก็โดนใส่ร้ายป้ายสีทางการเมืองลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วทั้งนั้น” นายวรชัย กล่าว 

 นายวรชัย กล่าวต่อว่า นายณัฐวุฒิ เป็นนักประชาธิปไตยและเป็นนักสู้มีจุดยืนประชาธิปไตยที่ไม่เปลี่ยนแปลง การเข้ามาทำงานร่วมกับรัฐบาลนี้ก็เพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และประเด็นสำคัญๆ ที่จะเป็นพัฒนาประชาธิปไตย อีกทั้งรัฐบาลปัจจุบันก็เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชน น.ส.แพทองธาร ขึ้นมารับตำแหน่งนายกฯ ต่อจากนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ  ก็เป็นการเลือกจากสมาชิกรัฐสภา เป็นการเข้ามาตามระบบอย่างถูกต้อง เมื่อได้คนมีฝีมืออย่าง นายณัฐวุฒิ มาคอยให้คำปรึกษาด้านต่างๆ เชื่อได้ว่าจะทำให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนและการพัฒนาประชาธิปไตยเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น 
        “วันนี้รัฐบาลกำลังทำงานเพื่อประชาชน หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล ก็มีฝ่ายค้านสามารถตรวจสอบได้ตามระบบรัฐสภา สู้กันตามกติกาได้อยู่แล้ว ดังนั้นควรลดความพยายามในการสร้างปัญหาเพื่อชักนำไปสู่การเมืองนอกระบบเหมือนในอดีตอีก”นายวรชัย กล่าว