'วิปรัฐบาล' บอก 'พท.' ไม่เสียหน้า หากสภาฯโหวตตกข้อสังเกตกมธ.นิรโทษกรรม
"วิปรัฐบาล"รอเคาะมติ ทิศทางโหวต ข้อสังเกตของกมธ.นิรโทษกรรม มองมีทางออก2ทาง พร้อมย้ำ "พท." ไม่เสียหน้าหากสภาฯโหวตไม่เห็นชอบ
ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาฯ วันที่ 24 ต.ค. ที่จะมีการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ต่อเนื่อง ว่า จะเป็นการพิจารณาว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับข้อสังเกตของกมธ. ทั้งนี้ผลการลงมติจะมี 2 ทาง คือ หากสภาเห็นชอบกับข้อสังเกตของกมธ. จะส่งให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่หน่วยงานจะทำหรือไม่ นั้นไม่มีข้อบังคับ และหากสส.ไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกต ไม่ต้องส่งให้หน่วยงานใด และข้อสังเกตนั้นจะอยู่กับสภาฯ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ม่ข้อกังวล
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับทิศทางการโหวต นั้นหลังจากที่ได้ฟังกมธ.ที่มาจากทุกพรรคชี้แจงแล้ว ในวันที่ 24 ต.ค. เวลา 09.00 น. จะประสุม สส.พรรคเพื่อไทย เพื่อขอมติพรรคว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ดังนั้นขณะนี้ตนจึงไม่กล้าระบุว่าจะเห็นด้วยหรือไม่
เมื่อถามว่าการโหวตของพรรคจะปล่อยให้ฟรีโหวตหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้องหารือในพรรค โดยต้องรับฟังข้อชี้แจงจากนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ฐานะประธานกมธ. ดังนั้นทิศทางการโหวตต้องรอวันดังกล่าว
เมื่อถามว่าหากสภาฯ โหวตตกพรรคเพื่อไทยจะเสียหน้าหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีแต่พรรคเพื่อไทย เพราะกรรมาธิการมีทุกพรรค รวมถึงฝ่ายค้าน ขณะที่ผลการศึกษาไม่ใช่เรื่องของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นเรื่องของทุกพรรคการเมือง หากสภาฯ ไม่เห็นชอบก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นแค่ผลการศึกษาไม่ใช่กฎหมายของพรรคเพื่อไทย อีกทั้งเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการตราพ.ร.บ. เพราะเป็นเพียงการศึกษาตามที่หน่วยงานต้องการ และการทำกฎหมายนั้นไม่จำเป็นต้องเดินตามข้อสังเกตของกรรมาธิการ
เมื่อถามถึงร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่บรรจุในวาระต่อการยกมาพิจารณา นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า
“มีในวาระหลายฉบับ แต่ต้องว่ากันอีกที ขณะนี้วิปยังไม่พิจารณา ดังนั้นสมัยประชุมนี้ไม่ทัน ส่วนจะเข้าสมัยหน้าได้ทันหรือไม่ตองพิจารณาหากมีเรื่องด่วนต้องว่าไปตามข้อบังคับ”
เมื่อถามย้ำถึงจุดยืน ต่อ มาตรา 112 นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า “ยืนยันพันเปอร์เซ็นต์ว่าพรรคเพื่อไทยไม่แก้โดยเด็ดขาด”