‘พร้อมพงศ์’ ขอฉายา ’เด็ดพี่‘ บท ‘นักร้อง’ เขย่า ‘บอสบ้านป่า’

‘พร้อมพงศ์’ ขอฉายา ’เด็ดพี่‘ บท ‘นักร้อง’ เขย่า ‘บอสบ้านป่า’

"เขาพยายามเรียกเด็จพี่ๆ มองเราเหมือนลิเก บ้าง เหมือนจักรๆ วงศ์ๆ บ้าง เขาพยายามด้อยค่า แต่สิ่งที่ผมทำมันสะเทือนกับเขา” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษ ถึงการเคลื่อนไหวนอกสภาฯ ยื่นคำร้องเพื่อหวังตอบโต้ "บิ๊กบอส" แห่งพรรคพลังประชารัฐ

KEY

POINTS

  • "พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์" เดินสายนอกสภาฯ ยื่นร้ององค์กรอิสระ-สภาฯ ตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ปมลาประชุม มีลักษณะทัวร์นอก ฐานเป็นเจ้าพนักงานรัฐรับเงินเกิน 3,000 บาท
  • อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทยปฏิเสธการเดินสายยื่นร้อง พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ออกมาปกป้องรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
  • เตือน "ไพบูลย์ นิติตะวัน" อาจเข้าข่ายกระทำการสุ่มเสี่ยงทำให้ "พรรคพลังประชารัฐ" ถูกยุบพรรคได้ หลัง "ธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ยอมรับปรึกษา "ไพบูลย์" ปมร้อง "ทักษิณ" และ "พรรคเพื่อไทย" กรณีล้มล้างการปกครอง
  • "พร้อมพงศ์" ไม่สนใจฉายา "เสด็จพี่" เพราะเชื่อว่าตัวเองมีผลงาน
  • "เสนอหน้า-เสนอตัว-เสนอผลงาน" ทำให้ "พร้อมพงศ์" เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทยมาเกือบ 10 ปี
  • เคยติดคุกจริงในคดีหมิ่นประมาทอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ เคยถูกทหารเอาปืนจี้หัวในวันยึดอำนาจรัฐประหาร ทำให้ติดโทษแบนการเมืองรวมกัน 11 ปี

“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นพญาอินทรี เวลาไปไหน พญาอินทรี บินเหมือนนกไหมละ บินเหมือนเหยี่ยวไหม ไม่…ใหญ่กว่านั้นอีก เวลาไปก็บินอย่างหรู กินอยู่สบาย” 

"พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์" อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดบ้านพักส่วนตัวย่านรามอินทรา ให้สัมภาษณ์พิเศษ “กรุงเทพธุรกิจ” ถึงการเดินสายยื่นคำร้ององค์กรอิสระ รวมทั้งสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติการณ์ของ “บิ๊กบอส” แห่ง “พรรคพลังประชารัฐ”

ยิ่งสถานการณ์การเมืองต้องอยู่ในห้วงการใช้ “นิติสงคราม” ห้ำหั่นกัน

ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลพรรคเพื่อไทย “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ยื่นคำร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ดีเดย์วันที่ 10 เดือน 10 กล่าวหา “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย กระทำที่เป็นการใช้สิทธิ และเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

วันรุ่งขึ้น “พร้อมพงศ์” สวนหมัดตอบโต้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบการลาประชุมสภาฯ โดยให้เหตุผลว่าเดินทางไปต่างประเทศของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ใน 3 ช่วงเวลาคือ วันที่ 27-29 มีนาคม 2567, วันที่ 18-20 มิถุนายน 2567 และวันที่ 31 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2567 รวม 8 วัน

ซึ่งเขาได้รับข้อมูลว่ามีลักษณะ “บินหรู อยู่สบาย” หาก พล.อ.ประวิตรไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ก็จะเข้าข่ายผิดกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 128 ฐานเป็นเจ้าพนักงานรัฐรับเงินเกิน 3,000 บาท

“พร้อมพงศ์” ชี้ว่า “อาจจะเป็นความฝัน ของใครบางคน ผมก็ไม่รู้ แต่ถามว่านิติสงครามหรือไม่ ให้ประชาชนตัดสินใจดู เรื่องนี้จะเป็นนิติสงครามหรือไม่ คนในรัฐบาลก็ต้องพร้อมที่จะแก้ปัญหา เพราะอาสามาเป็นฝ่ายบริหาร”

“แกนนำรัฐบาล เมื่อมีปัญหา ปัญหามีไว้แก้ ไม่ได้มีไว้แบก เพราะฉะนั้นต้องแก้ไป ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้ดุลพินิจรับ (คำร้องของธีรยุทธ) หรือไม่ ยังไม่รู้เป็นดุลพินิจของศาลท่าน แต่ถ้ารับ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยก็ชี้แจงได้”

‘พร้อมพงศ์’ ขอฉายา ’เด็ดพี่‘ บท ‘นักร้อง’ เขย่า ‘บอสบ้านป่า’

ถามว่า การที่คุณพร้อมพงศ์ ออกมาเดินสายต่างๆ เป็นความพยายามที่จะปกป้องรัฐบาลและต้องการจะล้ม พล.อ.ประวิตร ใช่หรือไม่ “พร้อมพงศ์” ตอบว่า “ผมเป็นอดีต สส.เพื่อไทย เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย มาเกือบ 20 ปี ตั้งแต่ปลายพรรคไทยรักไทย อยู่มา 3 พรรคแล้ว แต่วันนี้ถ้าเพื่อไทยทำไม่ถูกต้อง เช่น เป็นรัฐบาลบริหาร ทุจริต ผิดกฎหมาย ไม่เป็นไปตามนโยบาย ประชาชนเสียหาย ประเทศชาติเสียหาย ผมตรวจสอบทันที ผมไม่ลักษณะรักพรรคการเมือง แล้วหลงพรรคการเมืองหัวปักหัวปำ”

“ถ้าประชาชนเดือดร้อน ประเทศเสียหาย ผมก็ตรวจสอบ ผมไม่ใช่เป็นนายแบก แบกทุกเรื่องไม่ใช่”

จ้องสอย "บิ๊กบอส" พปชร.

ก่อนหน้านี้ “พร้อมพงศ์”ยังยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรมของสภา และเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้ตรวจสอบการลาประชุมของ พล.อ.ประวิตร โดยหยิบยก การประชุม 27 ครั้ง แต่ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เข้าประชุมเลย และ 13 ธันวาคม 2566 - 3 เมษายน 2567 มีการประชุม 33 ครั้งมาประชุม 4 ครั้ง ขาดประชุม 29 ครั้ง ซึ่งในใบลาอ้าง “ติดภารกิจ”

"ข้อมูลก็หลั่งไหลมาอีก น่าจะไม่ไปประชุมสภา ขาดประชุมสภา แล้วใช้การลาเป็นฉากบังหน้า เกือบ 90% ของการประชุมสภาฯ ขณะนี้มีวาระ 100% ของการประชุม อันนี้ผมก็ตรวจ แล้วไปอย่างบินหรู กินอยู่สบาย ไปเครื่องบินไหน ก็เครื่องบินไม่ใช่เครื่องบินพาณิชย์ เครื่องบินน่าจะเป็นเครื่องบินส่วนตัว แล้วของใครหรือไม่ น่าจะเช่าเหมาลำไหม ก็ต้องตอบมา เพราะเครื่องบิน ผมจะบอกอีกนิด มีตัวเลข 2 ตัวที่แถลงข่าว แต่มีตัวเลขหนึ่ง N519 จริงหรือไม่ วงเล็บข้างหลังว่า ซีพี อันนี้ใบ้นะ“

"พร้อมพงศ์“ ประกาศว่า จะเลิกตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร ทันที หาก พล.อ.ประวิตร แสดงสปิริตด้วยการลาออกจาก สส.

“ท่านลาออกจาก สส.ก่อน ให้ประชาชนเกิดความศรัทธาตัวท่าน และพรรคพลังประชารัฐ ท่านยังมีเครดิตอะไรอยู่ ผมแนะนำท่าน อย่างคนที่เป็นลูกหลานนะ อย่าไปเชื่อคนรอบข้าง ผมมองว่าน่าจะบริวารเป็นพิษ หรือคนใกล้ชิด น่าจะทรยศหักหลังท่านอีก ท่านมีสติคิด เข้าวัดไปทำบุญ ศึกษาผู้มีธรรมทั้งหลาย ถึงเวลาปล่อยวางชีวิตได้แล้ว ท่านลาออกจาก สส.นะ ผมก็หยุดตรวจสอบ”

โต้ "ธีรยุทธ" ร้องตรง ศาล รธน.

“พร้อมพงศ์” มองคำร้องของ “ธีรยุทธ” ที่ต้องการใช้เครดิตจากผลงานยุบพรรคก้าวไกลมาสอย “ทักษิณ” และ “พรรคเพื่อไทย” โดยมีปลายทางคือการยุบพรรคในชั้นศาลรัฐธรรมนูญว่า คำร้องดังกล่าวต่างกับคดียุบพรรคก้าวไกลมาก ตนเป็นนักร้อง เป็นอดีต สส.เคยทำงานตรวจสอบ เป็นรองประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. คนที่ 1 หากเป็นตนจะไม่ร้อง เพราะเป็นคำร้องที่ข้ามหัวองค์กรอิสระไป

"เรื่อง รพ.ตำรวจ ชั้น 14 ที่มองว่านายกฯทักษิณ สั่งการให้พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยสั่งการรัฐบาลให้เหมือนอนุโลมให้ท่านไปอยู่ชั้น 14 ได้ โดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว มันเป็นไปไม่ได้เลยในทางข้อเท็จจริงและการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ เรื่องที่สอง เป็นเรื่องที่เขาร้อง ป.ป.ช.ไว้แล้ว

“ภาคเอกชนเขาจัด 10 เดือน 10 จะมีโปร แต่วันนี้ผมมองแล้วเป็นเรื่องไม่มีสาระทางการเมือง แล้วก็ขายเกินจริง คำร้องนั้น ผมต้องถามคุณไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่โฆษณาไว้ ว่าจะเป็นอาฟเตอร์ช็อก เหมือนแผ่นดินไหวในทางการเมือง รัฐบาลอยู่ไม่ได้ พรรคเพื่อไทยมีอันเป็นไป มีปัญหาแผ่นดินไหวขนาด 11 ริกเตอร์เลยนะ ไหวจนเกิดคลื่นสึนามิได้ อากาศเปลี่ยนแปลง ภูมิรัฐศาสตร์เปลี่ยนแปลง แต่มันไม่ใช่ มันเกินจริง”

‘พร้อมพงศ์’ ขอฉายา ’เด็ดพี่‘ บท ‘นักร้อง’ เขย่า ‘บอสบ้านป่า’

เตือน "ไพบูลย์"เสี่ยงทำ พปชร.ถูกยุบ

ขณะเดียวกัน “พร้อมพงศ์” ยังเตือน ”ไพบูลย์“ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรคอาจเข้าข่ายเสี่ยงถูกยุบพรรคได้ เพราะมีลักษณะที่น่าจะแบ่งหน้าที่กันทำงาน แบ่งบทกันเล่นกับ “ธีรยุทธ” หรือไม่ เพราะ “ธีรยุทธ” ยอมรับว่ามีการปรึกษากับ “ไพบูลย์”

“คุณธีรยุทธ น่าจะเป็นคนซื่อมั้ง ท่านเป็นทนายความให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อด้วย ผมเก็บรายละเอียดการให้สัมภาษณ์ไว้ด้วย บอกว่ามีการปรึกษาคุณไพบูลย์ คุณไพบูลย์มีสถานะ คือ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ไปดู พ.ร.ป.พรรคการเมืองปี 2560 มาตรา 45 ไปดูเลย คุณไพบูลย์เป็นนักกฎหมาย ถ้ามีปัญหามันโยงไปถึงมาตรา 92 นะ เดี๋ยวเข้าตำรา ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวนะ”

“มีคนร้องกับผมมาว่าเรื่องคุณธีรยุทธ ว่าท่านมีความใกล้ชิดกับใคร และน่าจะเกี่ยวข้องกับใครบ้าง น่าจะเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ไหม เดี๋ยวผมตรวจ ผมให้ความเป็นธรรมด้วย”

“ที่ผมติดใจมากที่สุุดคืออะไร รู้ไหม อดีตนายกฯ ทักษิณ สมคบกับสมเด็จฮุนเซน อดีตผู้นำกัมพูชา ว่า เอื้อประโยชน์ให้กัมพูชาในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งมันยังไม่เกิดขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในอดีตเคยมีเรื่องดาราจำได้ไหม ที่มีปัญหาตอนยุคนายกฯ ทักษิณ ตอนนั้น ต้องเอาเครื่องบินไปขนคนไทยกลับ ผมเรียกภาษาการเมืองว่า น่าจะชักศึกเข้าบ้านหรือไม่”

ถามถึงกรณีหากฝั่งตรงข้ามล้มอดีตนายกฯ ทักษิณได้ก็จะทำให้รัฐบาลแพทองธารจะอ่อนแอลง “พร้อมพงศ์” ระบุว่า “เขาคิดผิด พรรคเพื่อไทยบริหารโดยคณะกรรมการบริหารพรรค ผมเป็นมา 10 ปี ก็มีคณะกรรมการบริหารพรรค ที่สำคัญรัฐบาลบริหารโดยพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯ ทักษิณ ถามว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ ที่คนเพื่อไทยให้ความศรัทธาเคารพ ถามว่าท่านจะมาสั่งการกรรมการบริหาร จะมาครอบงำ มันไม่ได้ ก็ดูข่าวที่ผมยกตัวอย่าง ปล่อยข่าว แหล่งข่าวก็ไม่รู้จริงเท็จ บอกไปพบกัน เสนออาจารย์ชัยเกษม นิติสิริ สุดท้ายที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เขาเลือกนายกฯ แพทองธาร กรรมการบริหาร ก็เคาะนายกฯ แพทองธาร มันคนละเรื่อง”

‘พร้อมพงศ์’ ขอฉายา ’เด็ดพี่‘ บท ‘นักร้อง’ เขย่า ‘บอสบ้านป่า’

ยึด "เสนอหน้า-เสนอตัว-เสนอผลงาน"

“พร้อมพงศ์”เข้ามาทำงานการเมืองตั้งแต่ยุคปลายของพรรคไทยรักไทย มาถึงพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ครองตำแหน่งโฆษกพรรคเพื่อไทย เกือบ 10 ปี ต้องพ้นจากตำแหน่ง เพราะติดคุกจริงในคดีหมิ่นประมาทอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2558 และวันนี้เหลือโทษแบนการเมืองอีก 1 ปี

“พร้อมพงศ์”ระบุว่า “เราติดคุก 1 ปี โดนตัดสิทธิอีก 10 ปี รวม 11 ปี ถ้าเป็นคนอื่น เขาก็คิดว่า ชีวิตมันจบแล้ว มันไม่จบ ผมตัวตนไม่ได้เป็นการเมืองเลย ผมไม่ได้มีตำแหน่ง แต่ผมมาสร้างตำนานได้”

“การเมืองมี 3 อย่าง เสนอหน้า เสนอตัว เสนอผลงาน ทุกวงประชุม ผมไปเสนอหน้า ผมมาแล้วนะ เรียกไม่เรียกไม่รู้ แต่ผมมาแล้วนะ เสนอตัว มีอะไรใช้ได้ ผมไปทำให้เลย พูดจริง ไปทำเองจ่ายเอง ทำงานเองหมดเลย เขาเห็นว่าไอ้นี่ เสนอหน้าทุกวัน เสนอตัว เสนอผลงาน ผลงานผมเป็นที่ประจักษ์”

การเมืองติดคุกจริง ละครแค่สมมติ

อย่างไรก็ตาม "พร้อมพงศ์" เคยผ่านงานการแสดงทั้งภาพยนตร์ และละคร โด่งดังบทบาท "พระเอก" คู่กับนางเอก "เปิ้ล จารุณี สุขสวัสดิ์" เล่นหนังเรื่องแรก "เลดี้ฝรั่งดอง" สร้างรายได้ถึง 10 ล้านบาทเมื่อปี 2527 เพราะการให้ความเมตตาของ "พันคำ" หรือ พร้อมสิน สีบุญเรือง แห่ง "สีบุญเรืองฟิล์ม"

‘พร้อมพงศ์’ ขอฉายา ’เด็ดพี่‘ บท ‘นักร้อง’ เขย่า ‘บอสบ้านป่า’

‘พร้อมพงศ์’ ขอฉายา ’เด็ดพี่‘ บท ‘นักร้อง’ เขย่า ‘บอสบ้านป่า’

อดีตพระเอกบอกถึงการไม่หวนกลับไปคืนวงการบันเทิง ว่า "บทบาทในอดีตเราเป็นพระเอกนะ ปัจจุบันเราเป็นดาราทางการเมือง ที่เป็นบทบาทจริงนะ แล้วเขาจะเชื่อบทบาทเราไหม อันไหนสมมติ อันไหนจะจริงอ่ะ"

‘พร้อมพงศ์’ ขอฉายา ’เด็ดพี่‘ บท ‘นักร้อง’ เขย่า ‘บอสบ้านป่า’

"ผมติดคุกทหาร เอาปืนจี้หัวผม เอาถุงคลุมหัว แล้วมัดแขนผม เหลือขาอย่างเดียว อุ้มผมขึ้นรถตู้ แล้วเอาผมไปขังอยู่ห้องมืด ผมต้องนอนใส่กางเกงใน มันร้อนมาก" พร้อมพงศ์ ซึ่งเป็น 1 ในตัวแทนของพรรคเพื่อไทย เล่าถึงนาทีวันที่เขาและแกนนำพรรคเพื่อไทย ถูกทหารจับกุมตัวในวันยึดอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557 กลางสโมสรทหารบก

"ในหนัง มันสมมติ เขาไม่จี้จริง อันนี้จี้จริง ถ้าเขาทำปืนลั่นใส่ ก็เรียบร้อย" 

“พร้อมพงศ์” เคยผ่านการเล่นละครพื้นบ้าน “จักรๆ วงศ์ๆ” ก่อนเข้าสู่การเมือง ทำให้ฉายา “เสด็จพี่” ถูก “เทพไท เสนพงศ์”โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ขณะนั้นดิสเครดิตเขา

‘พร้อมพงศ์’ ขอฉายา ’เด็ดพี่‘ บท ‘นักร้อง’ เขย่า ‘บอสบ้านป่า’

"คำว่าเด็จพี่ๆ จริงๆ ไม่ใช่ เสด็จพี่ หรอก เขาเรียก เด็ดพี่ ด.เด็ก นักข่าวเรียกผมว่า เด็ดพี่ เด็ดจริงๆ ไอ้นี่มันเหมือนเกินมนุษย์ พรรคประชาธิปัตย์ ก็พยายามด้อยค่าเรา แต่เราก็ไม่ได้สนใจหรอก ฉายา ชื่อเล่น ก็ไม่ค่อยชอบ เพราะเรามีตัวตน มีชื่อนะ ผมก็เรียนจบดอกเตอร์ มีคำนำหน้านามทางวิชาการ"

"เขาพยายามเรียกเด็จพี่ๆ เขาพยายามมองเราเหมือนลิเก บ้าง เหมือนจักรๆ วงศ์ๆ บ้าง เขาพยายามด้อยค่า แต่สิ่งที่ผมทำมันสะเทือนกับเขา"

ส่วนอนาคตหลังพ้นโทษแบนทางการเมืองในอีก 1 ปีหลังจากนี้ "พร้อมพงศ์" บอกว่า "ต้องดูก่อนว่า พรรคเพื่อไทยยังทำเพื่อประชาชนไหม ที่สำคัญยังให้โอกาสเราไหม ถ้าไม่ให้โอกาส ผมก็ไปที่อื่น ถ้าผมยังทำการเมืองนะ แต่ถ้าว่า ถ้าไม่ลง สส.หรือเป็นนักการเมือง ผมก็ทำอย่างนี้ ทำธุรกิจไป และช่วยประโยชน์สาธารณะ"

“พร้อมพงศ์” ยังย้ำถึงผลงานล่าสุดของเขาถึงการตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร ที่ลาประชุมเป็นฉากบังหน้าว่า “สุดท้าย พล.อ.ประวิตร ต้องเอาเงินเดือนมาคืน นี่คือจำนน ผลจากการที่ผมตรวจ ถ้าผมไม่ตรวจ จะคืนไหม”