เจาะละเอียด! ทรัพย์สิน 150 ล้าน ‘พล.อ.ปรีชา’ บ้าน 15 ล้าน รถมินิคูเปอร์ 2 คัน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ สว.กรณีเข้ารับตำแหน่ง และกรณี สว.ชุด “250 สว.” พ้นจากตำแหน่ง หลายราย

ชื่อที่น่าสนใจ “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นจากตำแหน่ง สว.

โดยการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินครั้งนี้ เป็นการเปิดเผยครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี นับตั้งแต่ พล.อ.ปรีชา เข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อปี 2557 และอยู่ในสภาฯเรื่อยมาจนถึงตำแหน่ง สว.ปี 2562-2567 กระทั่งพ้นจากตำแหน่ง สว. ซึ่งตามกฎหมายใหม่ของ ป.ป.ช. มิต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินแก่สาธารณชน หากเข้ารับหรือพ้นจากตำแหน่งไม่เกิน 60 วัน แต่ไม่ห้ามหากเจ้าตัวจะยื่นไว้เพื่อตรวจสอบ

พล.อ.ปรีชา แจ้งมีทรัพย์สิน 58,290,212 บาท ได้แก่ เงินฝาก 51,153,879 บาท เงินลงทุน 1,616,985 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,112,224 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 5,030,000 บาท ไม่มีหนี้สิน มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 3,173,830 บาท เป็นเงินเดือน บำนาญ 953,816 บาท เงินเดือน/เบี้ยประชุม สว. 1,362,720 บาท ดอกเบี้ยเงินฝากสหกรณ์ 857,294 บาท มีรายจ่ายรวม 6.3 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 4.8 แสนบาท ค่าเบี้ยประกันชีวิต 1 แสนบาท เงินบริจาค 50,000 บาท แจ้งข้อมูลการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา โดยมีเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (1) – (8) จำนวน 2,316,536 บาท

ส่วนนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา คู่สมรส มีทรัพย์สิน 91,928,625 บาท ได้แก่ เงินฝาก 55,567,772 บาท เงินลงทุน 1,000 บาท ที่ดิน 12.1 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 15,640,000 บาท ยานพาหนะ 8,090,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 129,853 บาท ทรัพย์สินอื่น 4 แสนบาท ไม่มีหนี้สิน มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 933,935 บาท เป็นดอกเบี้ยเงินฝากสหกรณ์ รายจ่ายรวม 7.3 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 4.8 แสนบาท ค่าต่อทะเบียนและบำรุงรักษารถยนต์ 1 แสนบาท ค่าเบี้ยประกันชีวิต 1 แสนบาท เงินบริจาค 50,000 บาท

รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 150,218,837 บาท ไม่มีหนี้สิน

ทรัพย์สินที่น่าสนใจ นางผ่องพรรณ แจ้งมีบ้าน 2 หลัง ในจำนวนนี้มี “บ้านเดี่ยว” 1 หลัง ตั้งอยู่ที่ ถ.ศรีคชคง ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ได้มาปี 2557-2560 มูลค่า 15.3 ล้านบาท โดยแจ้งหมายเหตุว่า ผู้ยื่นชำระเงิน 6.3 ล้านบาท เงินของคู่สมรส 5.7 ล้านบาท และเงินนายปฐมพล (จันทร์โอชา บุตรชาย) 3.3 ล้านบาท

นอกจากนี้นางผ่องพรรณยังแจ้งถือครองรถยนต์ 4 คัน ในจำนวนนี้มี 2 คันคือ Mini Cooper Countryman ได้มา 2 ธ.ค. 2557 มูลค่า 1,840,000 บาท และ Mini Cooper RHD ได้มา 2 ธ.ค. 2557 มูลค่า 2,250,000 บาท โดยระบุหมายเหตุว่า คู่สมรสประสงค์จะซื้อให้บุตรคนละ 1 คัน บุตรได้นำไปใช้งานตามเจตนารมณ์ของคู่สมรส แต่ยังมิได้จดทะเบียนโอนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ พล.อ.ปรีชา และนางผ่องพรรณ มีบุตร 2 คนคือ นายปฐมพล และนายปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งทั้งคู่เคยปรากฏชื่อเป็นกรรมการ และหุ้นส่วนในบริษัท-ห้างหุ้นส่วนจำกัดอย่างน้อย 5 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ได้แก่ 

1. หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (นายปฐมพล ถือหุ้น 33.3333%)
2. บริษัท พีทีที พาวเวอร์ กรุ๊ปคอน จำกัด ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (นายปฐมพล ถือหุ้น 33.3333%)
3. บริษัท บีวิช คาร์ เร้นทอล จำกัด ทำธุรกิจการให้เช่าและให้เช่าแบบลิสซิ่งยานยนต์ชนิดรถบรรทุกและยานยนต์หนักอื่น ๆ (นายปฐมพล ถือหุ้น 13.5417%)
4. บริษัท ไทยเจริญ แอสเสท จำกัด ประกอบกิจการโรงแรม ห้องพัก บ้านพัก (นายปฐมพล ถือหุ้น 13%)
5. บริษัท พี-ไรท์แอนด์บริส จำกัด ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (นายปฏิพัทธิ์ เป็นกรรมการ และถือหุ้นใหญ่สุด 90%)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2558 จนถึงวันที่ 29 ส.ค. 2567 มีธุรกิจของนายปฐมพล และนายปฏิพัทธิ์ จันทร์โอชา (บุตรชายคนเล็ก พล.อ.ปรีชา) อย่างน้อย 3 แห่งที่เป็นคู่สัญญารัฐ ได้แก่ หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น บริษัท บีวิช คาร์ เร้นทอล จำกัด และบริษัท พี-ไรท์ แอนด์ บริส จำกัด (นับรวมที่เป็นคู่สัญญาเอง และเป็นกิจการร่วมค้า) รวมมูลค่าไม่น้อยกว่า 1,358.51 ล้านบาท