ด่วน! ‘แพทองธาร’ แถลงเสียใจ ขอโทษ คดีตากใบ ชี้ ออก พ.ร.ก. ขยายอายุความไม่ได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงถึงคดีสลายการชุมนุมตากใบ ที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.67 นี้ว่า ตนจะพูดถึงคดีตากใบที่สื่อมวลชนให้ความสนใจ จริงๆ แล้วคดีนี้เกิดขึ้น 20 ปีที่แล้ว ที่ผ่านมาก็ได้กลับไปดูข้อมูลตัวเลขหลายๆ อย่าง จริงๆ เป็นเหตุการณ์ที่ตัวดิฉันเองเห็นก็รู้สึกเสียใจกับผู้ที่มีผลกระทบทั้งหลาย รัฐบาลตั้งแต่สมัย 20 ปีที่แล้ว ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจ ออกมาขอโทษ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร หรือสมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ รวมถึงอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ออกมาแสดงความเสียใจ และขอโทษต่อเหตุการณ์นี้ มีการชดเชยจ่ายค่าเยียวยาไปแล้ว ดิฉันเองในฐานะนายกรัฐมนตรี วันนี้ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และขอโทษในนามของรัฐบาลด้วย ก็จะทำให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก 

นายกฯ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องของตัวกฎหมาย พวกเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็มีการส่งคำถามไปถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา ในตอนแรกที่มีเรื่องคดีนี้ ตั้งแต่ 1 ต.ค.67 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยรัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งรัดเรื่องนี้ในกระบวนการต่างๆ ที่จำเป็นทุกอย่าง และเมื่อเช้านี้ได้คุยกันเรื่องผลสรุปต่างๆ ก็ได้ถามว่ากฎหมายจะทำอย่างไรได้บ้าง สิ่งที่ได้ให้ความเห็นมา เราจะทำอย่างไรต่อ ทำได้หรือไม่ อะไรบ้างในเรื่องของการออก พ.ร.ก. เราก็เลยมีการส่งไปถามว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง เมื่อพิจารณาหลักการของกฎหมาย ตาม รัฐธรรมนูญ 

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สุดท้ายนี้แล้วก็ขอให้ทุกคนตระหนักถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้ ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่สงบสุข ไม่อยากให้ทุกฝ่ายต้องเกิดความขัดแย้งซึ่งกันและกัน ก็ขอให้ทุกคน พยายามอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ รัฐก็พยายามอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่าคดีนี้จะหมดอายุในวันที่ 25 ต.ค.67 รัฐบาลจะรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างไร หลังสถานการณ์เริ่มมีความรุนแรงเกิดขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ก็อย่างที่ตอบไปแล้ว ในเรื่องเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อมีหมายศาลหรืออะไรก็ตาม กับทางหน่วยงานของความมั่นคง ตำรวจเองก็ทำอย่างเต็มที่ในการดูแล และออกค้นหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีหรืออะไรก็ตามอย่างเต็มที่ แต่ในเรื่องของความรุนแรงที่เกิดขึ้นล่าสุดที่ปัตตานี ก็ได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคง และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ายังไม่มีผู้เสียชีวิต หรือผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่ก็ไม่อยากให้โยงเรื่องความรุนแรงนี้กับการ และไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก ไม่อยากให้โยงเรื่องนี้ 

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องความปลอดภัยของทุกคนในประเทศมีความสำคัญ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายความมั่นคง กลาโหม ก็ได้ดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ก็ตรึงเรื่องนี้กันอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า คนในพื้นที่ชายแดนใต้มองว่า กระบวนการยุติธรรมในคดีตากใบ เป็นทางออกทางเดียวที่จะทำให้ประชาชน ยังคงไว้วางใจรัฐบาล แต่เมื่อคดีสิ้นสุดความไว้วางใจนั้นหายไป ในฐานะผู้นำรัฐบาลจะสื่อสารอย่างไรกับคนในพื้นที่ นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่บอก จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ วันนี้ดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีก็รู้สึกเสียใจ 20 ปีที่แล้วนายกฯ หลายท่าน ที่ผ่านมาก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน มีการเยียวยา และแสดงความรับผิดชอบในส่วนที่ทำได้ เพราะฉะนั้น อย่างที่บอก ดิฉันก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดเช่นกัน ก็ไม่อยากให้ความรุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นอีก ก็อยากให้ทุกคนช่วยกันด้วย เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าจะเกิดความสามัคคีได้ก็ต้องอาศัยทุกๆ ฝ่าย ร่วมมือกันเพื่อจะให้เกิดความสงบสุข ในส่วนของรัฐบาลอะไรที่ทำได้ก็ทำอย่างเต็มที่แน่นอน เราอยากให้พี่น้องประชาชนทุกๆ คนไว้ใจ ว่าการมาอยู่ตรงนี้ก็อยากทำให้พี่น้องประชาชนสบายใจ ทำให้บ้านเมืองได้สงบสุข นั่นก็คือ เป้าหมายสำคัญ 

เมื่อถามว่า คดีนี้เกิดขึ้นในสมัยนายทักษิณ มาวันนี้ลูกสาวเป็นนายกฯ กังวลหรือไม่ จะถูกแรงกดดันมากขึ้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อย่างที่บอกไปเมื่อสักครู่ว่า ตั้งแต่รัฐบาลของนายทักษิณ จนผ่านมาเกิดความรับผิดชอบขึ้นแล้ว มีการพูดคุยกันในหลายๆ ฝ่าย แน่นอนว่าในสมัยนี้ตัวดิฉันเองก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในทุกพื้นที่ของประเทศไทย อย่างสุดความสามารถ พื้นที่ตรงไหนมีประเด็นอะไรก็จะจัดแจงในการดูแลแต่ละพื้นที่ไป 

“ถามว่ากังวลมากขึ้นไหม มันไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว มันเป็นเรื่องของประเทศชาติเป็นเรื่องของการดูแลทุกๆคนในประเทศเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะหัวข้อไหนก็คงต้องดูแลอย่างเต็มที่ในทุกๆ เรื่อง” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า จะลดอุณหภูมิความรู้สึกของผู้คนในเรื่องนี้จะทำอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่อยากให้โยงกับประเด็นการเมือง ในเรื่องคดีตากใบได้รับการพูดคุยเยียวยา คิดว่าทุกคนพยายามอย่างสุดความสามารถ ดูแลปัญหาดูแลจิตใจซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เรื่องอื่นๆ ไม่อยากให้อะไรอย่างอื่นๆ ที่ไม่ใช่คดีนี้เป็นตัวเสริมให้เกิดความรุนแรง ก็ขอให้ไม่เป็นอย่างนั้นแล้วกัน 

เมื่อถามว่า ทนายความของโจทก์ที่ยื่นฟ้องคดีนี้ หรือว่าพึ่งพาระบบยุติธรรมของไทยไม่ได้ อาจพึ่งพาศาลโลก ในส่วนของรัฐบาลจะสนับสนุนเรื่องนี้อย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คดีนี้ก็เห็นแล้วว่ามัน 20 ปีจนถึงวันนี้ก็เพิ่งมีเหตุการณ์ฟ้องร้องเพิ่มเติมขึ้นมาอีก ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็มีหลายประเด็น และหลายองค์ประกอบด้วยกัน ก็ตอบได้แค่นี้จริงๆ ก็คิดว่าศาลได้ทำหน้าที่ และตัดสินไปแล้วก่อนหน้านี้ 

เมื่อถามว่า กมธ.สันติสุขชายแดนใต้ เสนอว่าถ้าคดีหมดอายุความ รัฐบาลอาจจะต้องจ่ายเงินเยียวยาเพิ่มเติมให้ผู้เสียหาย นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวก็ต้องไปพิจารณากัน ก็ต้องดูว่าตอนนั้นจบแบบไหนเมื่อ 20 ปีที่แล้วที่ได้เยียวยาทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต เพราะฉะนั้นก็ต้องดูว่ามีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ที่เราจะสามารถพูดคุย จริงๆ ไม่ได้อยากให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ก็พูดคุยได้ 

เมื่อถามว่า ถ้ามีโอกาสนายกฯ จะลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า แน่นอน ทุกพื้นที่ของประเทศไทย ก่อนจะมีเรื่องนี้ต้องไปทุกพื้นที่อยู่แล้ว หาเวลาอันเหมาะสม และสถานที่ด้วยว่าจะไปที่ไหนอย่างไรก่อนหลัง 

เมื่อถามว่า จะส่งผลต่อคณะเจรจาสันติสุขชายแดนภาคใต้หรือไม่ หลังคดีตากใบหมดอายุความ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าทุกฝ่ายก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความสงบสุขต่อไป รัฐบาลก็เช่นกัน 

เมื่อถามว่า ตำรวจได้รายงานความคืบหน้า ในการติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับคดีนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไร แต่ก็บอกว่าทำอย่างเต็มที่อยู่ ไม่ได้มีคำตอบเพิ่มเติม 

อย่างไรก็ตาม หากพล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี หนึ่งผู้ต้องหาตามหมายจับ กลับมาหลังหมดอายุความ ก็คงต้องพูดคุยกัน แต่ตอนนี้ก็อย่างที่เห็นว่าลาออกจากพรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้ว และยังไม่ได้มีใครคุยกับพล.อ.พิศาล เลย เดี๋ยวลองดูว่าจะอย่างไร 

“แน่นอนว่าประเด็นที่สำคัญมันไม่อยากให้เกิดเรื่องอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรที่สามารถเจรจาพูดคุยได้ต้องทำอยู่แล้ว ไม่มีทางที่จะกลับมาว่ากัน ต้องมีการมูฟอยู่แล้วที่จะต้องคุยหรือพยายามทำให้ย่อปัญหาลง” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า ได้คุยกับทีมที่ปรึกษาถึงคดีตากใบ เป็นอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ปรึกษาตลอดก็ถามด้วยว่า 20 ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมจบไปแล้วกลับมาอีก ก็คุยหมด เพราะอยากได้ความคิดเห็นจากหลายๆ ฝ่าย หลายๆ ช่วงอายุ 

เมื่อถามต่อว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว. ยุติธรรม ระบุคงต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์ เพื่อให้ได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี วันนี้รัฐบาลคิดว่าจะมีปาฏิหาริย์นั้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ปาฏิหาริย์หรือ มันต้องใช้เรื่องจริง 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์