ถกญัตติด่วน 'คดีตากใบ' ปชน.จี้ถกอย่างมีวุฒิภาวะ -ประชาชาติ ชงแก้กม.ไม่นับอายุความ

ถกญัตติด่วน 'คดีตากใบ' ปชน.จี้ถกอย่างมีวุฒิภาวะ -ประชาชาติ ชงแก้กม.ไม่นับอายุความ

สภาฯถกญัตติด่วน 'คดีตากใบ' พรรคประชาชน จี้แก้ปัญหาอย่างมีวุฒิภาวะ ด้าน "ประชาชาติ" จี้แก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 ไม่นับอายุความ

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม ที่ประชุมได้มีการพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา เสนอโดย นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) และนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ กรณีเหตุสลายการชุมนุมในคดีตากใบ ซึ่งจะสิ้นสุดอายุุความวันที่25ต.ค. รวมถึงแนวทางการฟื้นฟูความชอบธรรมของรัฐและการแก้ไขความไม่สงบ3จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเสนอข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล

โดยหลังจากที่2สส.ได้เสนอญัตติด่วน กลับถูกพรรคเพื่อไทยคัดค้าน โดยนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนวาระดังกล่าวขึ้นมาเป็นเรื่องด่วน

จากนั้นนายวันนอร์จึงให้ที่ประชุมลงมติว่าจะเลื่อนวาระดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาหรือไม่ แต่ก่อนลงมติได้เปิดให้สมาชิกได้แสดงความเห็น
 

โดยนายรอมฎอน กล่าวว่า ถ้านับจากวินาทีนี้เป็นต้นไปถึง00.00น.วันนี้นับเป็นย13ชั่วโมง15นาทีที่อายุความของคดีโศกนาฏกรรมที่มีผู้เสียชีวิตถึง85คนหมดอายุความและยังไม่สามารถนำตัวผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินคดีได้ ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ตากใบถือเป็นหนึ่งในหลายเหตุการณ์ความรุนแรง3จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอด20ปีที่ผ่านมาคน โดยเหตุการณ์ตากใบถือเป็นจุดเปลี่ยนของรัฐและประชาชนเป็นบาดแผลที่จะต้องสะสางอย่างมีวุฒิภาวะเพื่อสร้างสันติภาพหาข้อยุติจากความขัดแย้งได้    

วันนี้กระบวนการยุติธรรมกำลังถูกท้าทายและตีบตันหลายเดือนที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นกมธ. ศาล พยายามทำให้ความจริงปรากฎ ทำให้เกิดคำถามในแวดวงระหว่างประเทศว่ารายังยึดหลังนิติธรรมหรือไม่

สิ่งที่น่ากังวลคือสถานการณ์ความไม่สงบหลังจากนี้ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น แม้จะมีความพยายามในการเดินหน้าพูดคุยสันติภาพใหม่แต่คงอยากหากมีการผูกปมใหม่

ที่สำคัญคือความเชื่อมั่นรัฐไทยที่กำลังถดถอย จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะนำเรื่องนี้มาหาทางออกร่วมกันในสภา ยอมรับว่าเรื่องเป็นปัญหาการเมืองแต่ไม่ใช่ปัญหาระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของประชาชนและรัฐ เราจึงต้องเผชิญหน้าอย่างมีวุฒิภาวะ 

ในยุคนายทักษิณ ชินวัตร วันที่30-31 มี.ค.2548 ได้เคยใช้เวทีสภาในการอภิปรายปัญหาดังกล่าวมาแล้วจึงอยากเรียกร้องให้ใช้พื้นที่สภาในการหาทางออกตรงนี้ 
 

ด้านนายกมลศักดิ์ กล่าวว่า  ช่วงที่ผ่านมาหากดูสถิติสถาการณ์ความไม่สงบในพื้นที่3จังหวัดภาคใต้ถือว่าน่าเป็นห่วงและไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคประชาชาติพรรคเดียวแต่เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้อเสนอความเห็นไปยังฝ่ายบริหาร เหตุการณ์ตากใบเรากังวลว่าจะนำไปสู่เงื่อนไขใหม่ โดยที่ไม่มีการดำเนินการ 

วันนี้มีการเบี่ยงเบนหลายประเด็น ประเด็นแรกทำไม่เพิ่งมาฟ้องตอนนี้ซึ่งเป็นประเด็ที่สุ่มอยู่ในใจประชาชนพื้นที่โดยตลอดแม้จะรับเงินเยียวยาไปแล้วแต่คดีไม่ระงับ ตามพ.ร.บ.ศอบต.2553 มาตรา9(7)ระบุชัดว่า กรณีเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าที่มีสิทธิรับเยียวยาแต่ไม่ตัดสิทธิอื่นแต่วันนี้กำลังเบี่ยงเบนประเด็นว่ารับเงินไปแล้วพอหรือยัง 

ขณะเดียวกันมีความพยายามโยงว่าพี่น้องที่ไปชุมนุมเป็นแนวร่วมอย่าไปให้ความสำคัญถือเป็นการเบี่ยงเบนข้อเท็จขจริงและจะนำไปสู่ความขัดแย้งมากขึ้นประวัติศาสตร์ครั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนทัศนะคติ กรณีดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่พี่น้องมลายูออกมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม และเป็นครั้งแรกที่ข้าราชการระดับสูงคือแม่ทัพภาค4 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9ออกหมายจับ ถ้ายังไม่มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อให้ทุ่มงบเท่าไรหรือเยียวยาแค่ไหนปัญหาก็จะไม่จบสิ้น

ที่น่าห่วงคือวันนี้ยังมีคนทำงานอยู่ภายใต้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทยแต่ยังไม่สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลช่วยคลี่คลายตรงนี้ 

ตนชื่นชมน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรที่ออกมาแสดงความเสียใจแต่อยากรัฐบาลทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่า ประชาชนจะไม่สูญเปล่าหากออกมาต่อสู้ตรงนี้ด้วยการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา95 เพื่อให้คดีไม่หมดอายุความเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา

นายประยุทธ์ ยืนยันว่าไม่ใช่ว่าจะไม่เห็นด้วยที่จะให้กระบวนการยืนยันเดินหน้าแต่มีความสงสัยว่าหากตนเป็นผู้เสียชีวิตจฟ้องตั้งแต่วันแรกแต่เหตุใดมาฟ้องในปีสุดท้ายตนเสียดาย ส่วนตัวอยากให้ตำรวจจับกุมตัวผู้กระทำผิดหรือดลใจให้ผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 

ทั้งนี้มีข้อเสนอให้รัฐบาลออกพ.ร.ก. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา172ส่วนตัวมองว่ามีข้อจำกัดว่าออกได้ในกรณีใดบ้าง หากจะเจาจงในกรณีใดกรณีหนึ่งก็ทำไม่ได้เช่นกัน ทั้งนี้การเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบยืนยันว่าบ้านเมืองมีกระบวนการยุติธรรม การแสดงความรับผิดชอบถือว่าเป็นเรื่องสง่างามจึงมองว่าเหตุการณ์เกิดมา20ปีแต่วันนี้บอกว่าเป็นญัตติด่วนตนไม่เห็นด้วย แต่หากวิป2ฝ่ายเห็นว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นตนก็พร้อมที่จะถอนญัติดังกล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการพูดคุยของวิปทั้ง2ฝ่าย ได้ข้อตกลงร่วมกันจะให้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาดังกลล่าวแต่จะมีการกำหนดเวลาที่ชัดเจน โดยแบ่งเป็นฝ่ายค้าน5คน และฝั่งรัฐบาลจะมีตัวแทนจากพรรคประชาชาติ พรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐและ พรรครวมไทยสร้างชาติพรรคละ1คนและจะมอบหมายให้กมธ.แต่ละคณะนำไปพิจารณาต่อไป

โดยนายประยุทธ์ ได้ยอมถอนญัตติเลื่อนวาระ จากนั้นที่ประชุมได้มีการพิจารณาญัตติด่วนของนายรอมฏอนต่อไป