'ไหม' ชี้เลื่อนเคาะประธานบอร์ดแบงก์ชาติ แค่ประวิงเวลา เชื่อตกลงกันได้
'ศิริกัญญา' มองเลื่อนเคาะ 'ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ' แค่ประวิงเวลา เหตุหลายคนวิจารณ์อาจมีคนแทรกแซงตั้ง 'ผู้ว่าแบงก์ชาติ' เชื่อสุดท้ายคงตกลงกันได้ เกิดความสบายใจทุกฝ่าย ไร้การเมืองแทรกแซง
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2567 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน (ปชน.) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ) ที่วันนี้มีการเลื่อนออกไป ว่า ผู้ที่มีสิทธิ์เสนอชื่อคนที่จะเข้าไปทำหน้าที่คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดังนั้นจะบอกว่าการเมืองห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยว คงเป็นไปไม่ได้ ขออย่าเพิ่งตั้งแง่
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้ เป็นตัวบุคคลที่สืบเนื่องมาจากการกระทำในอดีตที่ผ่านมา ที่มีพฤติกรรมส่อเค้าว่าจะกระทำการแทรกแซงแบงก์ชาติ เนื่องจากนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคยพูดว่าจะปลดผู้ว่าแบงก์ชาติในช่วง 2554-2555 จึงกลายเป็นข้อกังวล แต่ตามกฎหมาย ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติมีอำนาจที่จะแต่งตั้งกรรมการนโยบายการเงินฝั่งผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน ตามกระบวนการก็จะมีการเปลี่ยนหมุนเวียนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ส่วนจะมีจุดร่วมของแต่ละฝ่ายจะเลือกประธานสำเร็จหรือไม่นั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ท้ายที่สุดก็คงมีการตกลงกัน เมื่อเช้ามีข่าวว่าเลื่อน และจะเสนอชื่อคนอื่นขึ้นมาแทนด้วย ตนคิดว่า ท้ายที่สุดคงจะมีการทำความเข้าใจกัน และได้ตัวเลือกที่เหมาะสม
เมื่อถามว่า หากคนที่อยู่ในการเมืองเข้าไปมีตำแหน่ง จะสามารถขับเคลื่อนแบงก์ชาติเดินหน้าสอดรับกับรัฐบาลได้หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ถ้าเป็นคนที่มีวาระเข้าไปเพื่อนโยบายให้สอดคล้องกับรัฐบาล ก็น่าจะมีส่วนสำคัญ แต่ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ไม่ได้มีอำนาจเข้าไปกำหนดดอกเบี้ยนโยบาย หน้าที่ตรงนี้ยังเป็นของกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อยู่ดี แต่ในฐานะประธานบอร์ดแบงก์ชาติ มีสิทธิจะกำหนดว่าใครจะเข้ามาเป็น กนง.ในรุ่นต่อๆไปด้วย รวมไปถึงการเสนอชื่อผู้ว่าแบงก์ชาติคนต่อไป ต้องดูว่ายังสามารถดำเนินการได้อย่างอิสระ และคำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาวหรือไม่ และฝ่ายการเมืองเอง ก็มีแรงกดดันที่จะทำงานตอบสนองกับเป้าหมายในระยะสั้นมากกว่า ซึ่งตนคิดว่ามีส่วนสำคัญมาก ตามกฎหมายดูเหมือนจะไม่มีอำนาจอะไร แต่ถ้ากำหนด กนง.อีก 2 คนได้ ก็อาจจะเปลี่ยนเสียงข้างมากใน กนง.ได้ หรือเปลี่ยนตัวผู้ว่าแบงก์ชาติ ตรงนี้เป็นส่วนที่เราต้องจับตา
ส่วนหากคนของฝ่ายการเมืองเข้าไปจะเป็นการควบรวมและลดการตรวจสอบลงหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า แบงก์ชาติไม่ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบ แต่มีเป้าหมายการดำเนินนโยบายที่ต่างกันกับรัฐบาล อย่างไรรัฐบาลก็ต้องดูที่ระยะสั้นอยู่แล้ว เพราะอยู่ได้เพียง 4 ปี และยังมีปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไขให้กับประชาชน เขาก็มีสิทธิมองในระยะสั้นอยู่แล้ว แต่โดยกลไกเราออกแบบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องมองยาวกว่า ซึ่งตรงนี้ไม่มีใครมอง นักการเมืองหรือรัฐบาลไม่สามารถที่จะมองยาวได้ เพราะก็ต้องมีการเลือกตั้งอีก ดังนั้นการที่มีหน่วยงานหรือองค์กรหนึ่งที่รักษาความอิสระ และมองไปในระยะยาวมากกว่า น่าจะทำให้เกิดสมดุลให้กับประเทศมากกว่า
ส่วนการเลื่อนการเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาตินาทีสุดท้าย จะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นการซื้อเวลามากกว่าคงจะมีการพูดคุยตกลงกันให้เสร็จเรียบร้อยว่า จะทำหน้าที่สบายใจกันทุกฝ่าย ไม่มีการเข้ามาแทรกแซง ในการกำหนด กนง.หรือ แคนดิเดตผู้ว่าแบงก์ชาติ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีผลกระทบอะไรเพราะตาม พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดให้รักษาการทำหน้าที่ได้ต่อจนกว่าจะมีการเลือกประธานบอร์ดคนใหม่