ส่องสังเวียน อบจ.อุดรธานี กลยุทธ์ ‘ทอน-ทิม’ อุ้ม‘เท้ง’

เหลืออีก 2 สัปดาห์ จะถึงวันเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี สังเวียนชี้วัดความนิยมพรรคประชาชน และหัวหน้าเท้ง อีกครั้ง เนื่องจากสนามนี้ พรรคประชาชน ส่ง “ทนายแห้ว” คณิศร ขุริรัง ลงสมัครนายก อบจ.อุดรธานี และมีการเปิดตัวทนายแห้ว มาตั้งแต่เดือน มี.ค.2567

ค่ายสีส้มเพิ่งจัดปราศรัยใหญ่เป็นครั้งแรก ที่ลานเคเอฟซี ศูนย์การค้ายูดีทาวน์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา

วันนั้น หัวหน้าเท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ,เลขาติ่ง-ศรายุทธิ์ ใจหลัก ประธานเอก-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแกนหลักในการปราศรัยหาเสียงช่วยทนายแห้ว

ก่อนหน้านี้ จะมีอดีตหัวหน้าต๋อม-ชัยธวัช ตุลาธน เดินทางมาช่วยปราศรัยหาเสียงในเขตอำเภอรอบนอก พร้อมกับทีมงานพรรคประชาชน ภาคอีสาน

โค้งสุดท้าย อดีตหัวหน้าทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ได้บินกลับมาจากสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยหาเสียงในวันที่ 15-17 พ.ย.นี้

ว่ากันตามจริง หัวหน้าเท้งขึ้นเวทีหาเสียงที่สนามอุดรฯ แต่ก็ยังไม่มีมนต์ขลังพอที่จะโกยแต้มช่วยทนายแห้ว จึงต้องใช้บริการอดีตหัวหน้าทิม

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรฯ เที่ยวนี้ ประธานเอก-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เดินทางมาอุดรฯแทบทุกสัปดาห์ในช่วงนี้

หลายคนอาจไม่ทราบว่า ธนาธร ในฐานะประธานคณะก้าวหน้า ได้ทุ่มสรรพกำลังวางฐานการเมืองท้องถิ่นที่อุดรธานี มาหลายปีแล้ว เริ่มจากปี 2563 ธนาธร ส่งผู้สมัครสมัครนายก อบจ. และ ส.อบจ. ตามมาผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบล และนายก อบต.

ปลายปี 2564 คณะก้าวหน้า ส่งผู้สมัคร นายก อบต.ใน จ.อุดรธานี 23 ทีม ปรากฏว่า ค่ายสีส้มคว้าชัยได้เป็นนายก อบต. 5 แห่ง คือ อบต.นาสะอาด อ.สร้างคอม, อบต.ถ่อนนาลับ อ.บ้านดุง , อบต.โพนสูง อ.บ้านดุง , อบต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง และ อบต.นาบัว อ.เพ็ญ

การเลือกตั้ง สส.อุดรธานี ปี 2566 พรรคประชาชน(ก้าวไกลเดิม) จึงเจาะฐานเสื้อแดงได้ สส.อุดรธานี 1 ที่นั่งในเขต อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่เป็นผลงานของ “ประธานเอก” ที่ลุยสนามท้องถิ่นเมืองอุดรฯ ทุกระดับอย่างเอาจริงเอาจัง

ตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทย การเลือกตั้ง สส.อุดรฯหลายสมัยที่ผ่านมา เพื่อไทยชนะยกจังหวัดมาตลอด แต่หนที่แล้วได้ สส. 7 ที่นั่ง จากทั้งหมด 10 ที่นั่ง ส่วนประชาชน(ก้าวไกล) ได้ 1 ที่นั่ง และไทยสร้างไทย 2 ที่นั่ง

ด้วยความอ่อนแรงของพลังคนเสื้อแดง ประธานเอกจึงหวังว่า “ทนายแห้ว” จะฝ่าด่านการเมืองบ้านใหญ่ และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ อบจ.อุดรฯ

“ทนายแห้ว” คณิศร ขุริรัง ผ่านสนามการเมืองท้องถิ่นมาโชกโชน สมาชิกสภาเทศบาลนครอุดรธานี (ปี 2547-2551) สมาชิกสภา อบจ.อุดรฯ (ปี 2551-2552) และรองนายก อบจ.อุดรธานี (ปี 2552-2555)

สมัยที่ หาญชัย ฑีฆธนานนท์ เป็นนายก อบจ.อุดรธานี สมัยที่ 2 คณิศรได้เป็นรองนายก อบจ. โดยสมัยก่อนหน้านั้น เขาเป็นประธานสภา อบจ.อุดรฯ

ปี 2555 เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรฯ คณิศร ร่วมทีมอดีตนายกฯหาญชัย ต่อสู้กับวิเชียร ขาวขำ ที่ลาออกจาก สส.อุดรฯ มาลงสมัครนายก อบจ. แต่ก็พ่ายพลังคนเสื้อแดง

สมัย คสช.ปี 2557-2559 คณิศรเคยเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จ.หนองบัวลำภู นัยว่า ทนายแห้วรู้จักมักคุ้นกับนายทหารใหญ่แถวภาคอีสาน จึงได้รับการเสนอชื่อเป็นสมาชิก สปช.

ประสบการณ์ทางการเมืองที่โชกโชนของ “ทนายแห้ว” จึงทำให้พรรคส้มเมืองอุดรฯ มีรูปแบบหาเสียงแตกต่างจาก จ.ราชบุรี นั่นคือ มีทั้งหน่วยจรยุทธ์ออกไปพบด้อมส้มตามบ้านนอกคอกนา และหน่วยเวทีปราศรัยย่อยระดับอำเภอ มินับกองทัพสื่อโซเชียลที่สายสีส้มมีความถนัดอยู่

ฝั่งเพื่อไทย “สส.ป๊อป” ศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดธานี พรรคเพื่อไทย เริ่มติดป้ายหาเสียงที่มีภาพอดีต สส.ป๊อป ประกบแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ทีมงานเพื่อไทยอุดรฯ ประเมินว่าตีเหล็กต้องตีตอนร้อน จึงได้ขยายผลจากสวนดุสิตโพลและนิด้าโพล สำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท ซึ่งเรตติ้งนายกฯแพทองธารเพิ่มสูงขึ้น และทิ้งห่าง “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

รวมถึงกรณี ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง วางโปรแกรมไปช่วย ศราวุธ เพชรพนมพร หาเสียงชิงเก้าอี้นายก อบจ.อุดรธานี ช่วงวันที่ 13-14 พ.ย.2567

มองแบบเซียนการเมือง ศราวุธ บ้านใหญ่เสื้อแดงเป็นต่อ “ทนายแห้ว” คณิศร ขุริรัง พรรคประชาชน แต่เพื่อความไม่ประมาทและต้องการ “ชนะขาด” พรรคเพื่อไทย จึงจัดการหาเสียงแบบจัดเต็ม 3 เวที

ไม่ว่าใครแพ้หรือชนะ ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรฯ จะให้คำตอบว่า บารมีนายใหญ่ “ทักษิณ” ยังขลังอยู่หรือไม่ และอีกด้านหนึ่ง ก็จะมีคำตอบเรื่องกลยุทธ์ “ทอน-ทิม” อุ้ม “เท้ง” จะได้ผลมากน้อยแค่ไหน