อนุฯชง ป.ป.ช.ชุดใหญ่ถกคดี 'ทักษิณ' ชั้น 14 พ.ย.นี้ ลุ้นสอบ-ตีตก ก.พ. 68
คปท.รุดคุย ป.ป.ช.จี้ถามปมสอบขบวนการเอื้อ 'ทักษิณ' นอนชั้น 14 รพ.ตำรวจ เผยความคืบหน้าสรุปสำนวนส่งที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ชี้ขาด พ.ย.นี้ ลุ้นรับ-ไม่รับคำร้อง ก.พ. 68 ลั่นติดตามต่อเนื่อง ขู่หาไม่ชี้มูลใครเลย ต้องตอบสังคมให้ได้
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) พร้อมด้วยตัวแทน เดินทางยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าการยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบไต่สวนบุคคลที่เกี่ยวข้องในการเอื้อให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจในช่วงระหว่างการรับโทษจำคุก 1 ปี ว่ามีการเจ็บป่วยวิกฤตจนถึงขั้นต้องนอนรักษาตัวนอกโรงพยาบาลราชทัณฑ์จริงหรือไม่
โดยผู้ถูกร้องประกอบด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะกำกับดูแลกรมราชทัณฑ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และอดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ และแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถูกกล่าวหาเกี่ยวกับการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ทำให้เกิดกระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
นายพิชิต กล่าวว่า เรื่องนี้ทาง คปท.มีการยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2566 และที่ผ่านมาก็มีการทวงถามหลายรอบแต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปวันนี้จึงเป็นการมาทวงถามเป็นครั้งที่ 4 และเป็นการทวงถามครั้งสุดท้าย และเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าหารือกับผู้ช่วยซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนโดยตรงหลังจากที่ผ่านมาได้พบเพียงเจ้าหน้าที่เท่านั้น
ทั้งนี้ หลังจากยื่นหนังสือแล้วนายพิชิตพร้อมด้วยตัวแทนได้เข้าหารือกับนายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในคดีนี้ ซึ่งมารับหนังสือทวงความคืบหน้าด้วยตัวเอง โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 15 นาที
นายพิชิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือกับผู้ช่วยเลขา ป.ป.ช.ว่า หลังหารือกับผู้ช่วยเลขา ป.ป.ช. ทราบว่าคณะกรรมการสืบสวนคดี ได้สรุปสำนวนเรียบร้อยแล้ว แม้ว่า จะไม่ได้รับเอกสารเวชระเบียนที่ขอจากโรงพยาบาลตำรวจ ได้เพียงค่ารักษาพยาบาล ขั้นตอนจากนี้ทางอนุกรรมการจะมีการสรุปสำนวนเสนอต่อต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อให้เกิดสภาพบังคับ ภายในเดือน พ.ย.2567 ส่วนจะมีมติตั้งกรรมการไต่สวนจนไปสู่การชี้มูลกับใครบ้างหรือจะตีตกสำนวนไปนั้น ผู้ช่วยเลขาป.ป.ช.ระบุว่าจะสรุปภายในเดือน ก.พ. 2568 ซึ่ง ทางคปท.จะมาติดตามอีกครั้ง
นายพิชิต กล่าวว่า จากการเข้าหารือกัน เบื้องต้นถือว่าพอใจหลังจากการเดินทางมาติดตามหลายครั้ง เพราะที่ผ่านมาคณะกรรมการชุดสืบสวนข้อเท็จจริง ดำเนินการอย่างเร่งด่วน และมีการส่งคำนวณ ภายใน 3 เดือนทั้งนี้ในปีหน้าจะมาติดตามอีกครั้ง
"ป.ป.ช. ต้อง มีคำอธิบายที่ชัดเจนเพื่อชี้แจงต่อสังคม เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่คปท.เท่านั้นที่ร้องเรียนเข้ามา แต่สังคม ประชาชนทั่วไป ได้มีการติดตามเรื่องนี้ เพราะกรณีที่นายทักษิณเข้ารับการรักษาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจเกิดคำถามเกิดขึ้นมากมาย ป.ป.ช.ก็เหมือนพนักงานสอบสวนที่ต้องชี้แจง หากมีการชี้มูลออกมาสังคมก็คงไม่มีการตั้งคำถามอีกเพราะขั้นตอนต่อไปจะมีการสืบข้อเท็จจริง ต่อไปแต่หากไม่ชี้มูลใครเลย ป.ป.ช.ก็จะต้องให้คำตอบกับสังคมไม่เช่นนั้น ป.ป.ช.จะเป็นจำเลยของสังคมเสียเอง" นายพิชิต กล่าว