กกต.ถกใหญ่เตรียมเลือกตั้งนายก อบจ. ปี 68 'แสวง' ชี้คนลาออกก่อนทำเปลืองงบ

กกต.ถกใหญ่เตรียมเลือกตั้งนายก อบจ. ปี 68 'แสวง' ชี้คนลาออกก่อนทำเปลืองงบ

กกต.ประชุมเตรียมเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศปี 68 'แสวง' ชี้คนลาออกก่อนครบวาระ ทำเปลืองงบ-คน ต้องจัดเลือก 2 รอบ ชี้กฎหมายออกแบบมาดี แต่มีผู้ใช้ช่องว่างชิงความได้เปรียบ มองสนาม จ.อุดรฯ เดือด คนมีชื่อเสียงแห่ลงพื้นที่ กระตุ้นคนใช้สิทธิมากขึ้น ยันยังอยู่ในกรอบกฎหมาย

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 ที่ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรม รามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร ศ.สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมชี้แจงเพื่อเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยมีนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เป็นผู้กล่าวรายงาน 

การประชุมในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 15 พ.ย. 2567 เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้เห็นชอบแผนการจัดการเลือกตั้ง โดยกำหนดให้วันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2568 เป็นวันเลือกตั้งและรับสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันที่ 23 – 27 ธ.ค.  2567 เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด และให้ผู้ปฏิบัติงานจัดการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งรับทราบแนวทางการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง โดยกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด 76 จังหวัด ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด หัวหน้ากลุ่มงานจัดการเลือกตั้งและการมีส่วนร่วม ผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 280 คน

ในการนี้ ผู้เข้าร่วมการประชุมจะได้รับทราบความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ เช่น กรอบระยะเวลาหรือแผนการจัดการเลือกตั้ง ขั้นตอนกระบวนการรับสมัคร การวินิจฉัยสิทธิสมัคร การเตรียมบุคลากรและวัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง การปิดประกาศและแผ่นป้ายในการหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้ เพื่อให้การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย

ภายหลังการประชุม นายแสวง ให้สัมภาษณ์ว่า การเลือกตั้งเป็นงานของประเทศ ซึ่งผ่านมาด้วยดีทุกครั้ แม้ระหว่างทางจะมีปัญหาทุกครั้ง ส่วนการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่กำลังจะมาถึงนี้ ตนคิดว่าน่าจะมีปัญหาเช่นกัน แต่ด้วยความร่วมมือขององคาพยพทำงานร่วมกันมาก็จะทำให้การเลือกตั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ. ดีขึ้น โดยขณะนี้มีบางจังหวัดจะต้องเลือก 2 ครั้งเพราะมีการลาออกของนายก ข้อมูลตอนนี้มี 29 จังหวัด ในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. 2567 จะมี 3 จังหวัดที่จะต้องจัดการเลือกตั้งประกอบด้วย อุดรธานี เพชรบุรี และนครศรีธรรมราช  และในสัปดาห์ถัดไปเป็นการเลือกนายก อบจ.กำแพงเพชร ขณะที่บางจังหวัดก็ยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้ง ยังไม่แน่ใจว่านี้ไปจนถึงการครบจะมีการลาออกอีกหรือไม่ ทำให้ต้องใช้งบประมาณ 2 ครั้ง และลงแรงคนเลือก 2 ครั้ง แต่ไม่พ้นวิสัยการทำงานให้มีประสิทธิภาพ

นายแสวง กล่าวว่า แต่ถ้าจะส่งสัญญาณไปยังนายก อบจ.ที่กำลังคิดจะลาออกเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ การลาออกหลังวันที่ 3 ธ.ค. จะสามารถเลือกพร้อมกันได้ แต่คาดคะเนว่ามีการลาออกเพราะเป็นเหตุผลทางางการเมือง และเหตุผลทางข้อกฎหมาย คือห้ามหาเสียงใน 180 วัน พูดไปก็ไม่รู้ว่าจะมีผลอะไรหรือไม่ เพราะทางการเมืองเขาคงตัดสินกันไปแล้ว เพียงแต่ส่งสัญญาณไปว่า หากเห็นแก่เรา หรือเห็นแก่ประโยชน์ในการประหยัดงบประมาณ  ก็คิดว่าหากลาออกแบบประหยัดงบประมาณ คงดีกว่า

จริง ๆ กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมจัดการเลือกตั้งโดยยึดหลักการ 4 ข้อ คือ

1.ความเป็นเจ้าของ

2.การมีส่วนร่วม

3.ความโปร่งใสทุกขั้นตอน คิดว่าประเทศไทยมีความโปร่งใสที่สุดแล้ว ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

4. ประสิทธิภาพ มักพบปัญหาหลังปิดลงคะแนนแล้ว มีเรื่องร้องเรียนเกินครึ่งมาจากการทบบัตร หรือบัตรเขย่ง

ดังนั้นแต่ถ้าเราละเอียดขึ้นใส่ใจขึ้น ก็จะไม่มีเรื่องที้จะทำให้คนไปมาเสียดสี ซึ่งเราสามารถทนได้อยู่แล้วนอกจากนี้ กกต.ยังอยู่ระหว่างนำมติศาล หรือ กกต.มาจัดทำแนวทางการวินิจฉัยผู้สมัครเพื่อส่งให้กับทุกจังหวัดใช้เป็นแนวทางต่อไป แต่ยังยืนยันว่า สุดท้ายการวินิจฉัยยังเปนอำนาจของจังหวัดเช่นเดิม  

เมื่อถามว่าการใช้เทคนิคในการลาออกก่อน มีความเหมาะสมอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า ในฐานะคนที่จัดการเลือกตั้งไม่อยากให้ความเห็นในเรื่องนี้ ให้คนที่มีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้พิจารณาดูว่ามันควรจะเป็นแบบนี้หรือไม่ เพราะคนที่ออกแบบมาต้องการให้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คนนำไปใช้กลับนำไปใช้เพื่อประโยชน์อีกเรื่องหนึ่ง พอมันไม่ตรงก็มีช่องว่างถ้าจะมีการแก้กฎหมายทางสำนักงานก็น่าจะมีความเห็นให้ได้ แต่ในชั้นนี้ตนไม่อยากให้ความเห็นอะไรเพราะมันเป็นสิทธิตามกฎหมาย ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมตนมองว่าคนที่ลาออกก็น่าจะมีเหตุผล ไม่ว่าจะเหตุผลทางกฎหมายหรือเหตุผลทางการเมืองในพื้นที่

เมื่อถามถึงการเลือกนายก อบจ.ที่จังหวัดอุดรธานี มีการแข่งขันสูง กกต.จะมีการจับตาจับตาเป็นพิเศษหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ถ้าพูดจริงๆ คือกกต.ชอบ เพราะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสนใจและตื่นตัวไปออกเสียงลงคะแนน ซึ่งการทยอยเลือกที่ผ่านมาประชาชนออกมาใช้สิทธิน้อย เพราะอาจจะมีข่าวอื่นมากลบบ้าง เมื่อเกิดกรณีที่จังหวัดอุดรธานีผู้ช่วยหาเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชนลงไปในพื้นที่ทำให้มีความน่าสนใจทั้งในแง่สื่อและประชาชน น่าจะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ออกมาใช้สิทธิจำนวนมากขึ้น 

เมื่อถามว่าจะเป็นการสุ่มเสี่ยงให้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมากขึ้นด้วยหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เท่าที่ติดตาม พบว่ายังอยู่ในกรอบ การแข่งขันที่สูงหรือเข้มข้นไม่ได้บอกว่าจะผิดกฎหมาย ยอมรับว่ามีโอกาสที่จะผิดกฎหมายอยู่เหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาต้องบอกว่าไม่ว่าการเลือกตั้งระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น สู้กันที่วิธีคิดนำเสนอนโยบาย มากกว่าที่จะไปใช้วิธีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยดูจากการติดตามการเลือกตั้ง อบจ.หลายแห่งพบว่าเป็นไปในลักษณะเช่นนั้น และประชาชนยังไปใช้สิทธิ์น้อย 

เมื่อถามถึงการใช้งบประมาณในการจัดการเลือกนายก อบจ. นายแสวง กล่าวว่า แต่ละจังหวัดจะเลือกตั้งไม่เท่ากัน โดยในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น 90% ของงบของท้องถิ่น ส่วนอีก 10% เป็นงบกกต. เพื่อใช้สำหรับการควบคุมให้สุจริตและเที่ยงธรรม ดังนั้นขนาดของท้องถิ่น หรือจำนวนเขตจึงมีผลกับการใช้งบฯ ว่าจะมากหรือน้อย อย่างจ.นครราชสีมาจะต้องใช้เยอะ เพราะมีหบายเขต มีจำนวนประชากรเยอะ เราจึงไม่เห็นภาพรวม เพราะเขาไม่ได้รายงานเรา เขาจะทำงานตามระเบียบค่าใช้จ่าย ซึ่งจะกำหนดต่อคนต่อหน่วยอยู่แล้ว และเขาจะคำนวนตามนั้น แต่ในส่วนของกกต.จะตั้งทุกจังหวัดในการสืบสวนสอบสวนให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม แต่อย่างที่บอกว่า หากเลือกตั้ง 2 ครั้ง ก็ต้องคูณ 2 เช่น จังหวัดหนึ่งมี 10,000 หน่วย เลือกนายกอบจ.ที่ลาออกไปก่อนแล้ว ก็หมื่นหน่วย ผู้มีสิทธิก็เท่ากัน พอจะเลือกสมาชิกอบจ.ก็ทำเหมือนกันหมด ห่างกันแค่เดือนสองเดือนก็ต้องทำเหมือนเดิมหมด ถึงอย่างไรก็ต้องใช้งบฯ  บางคนบอกว่า เป็นผลดี เพราะทำให้เกิดการใช้จ่ายในท้องถิ่น ก็แล้วแต่วิธีคิด แต่ในอีกมุมหนึ่งทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาใช้สิทธิน้อยลง เพราะเลือกนายกอบจ.ไปแล้ว แต่หากเลือกพร้อมกัน ความชอบธรรมของคนใช้สิทธิก็จะมากขึ้น 

เมื่อถามถึงกรณีกรรมาธิการร่วมศึกษากฎหมายประชามติ ส่งหนังสือเชิญ กกต.ไปร่วมหารือเกี่ยวกับการทำประชามติในการจัดแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ นายแสวง กล่าวว่า ได้มีการเชิญ กกต.ไปให้ความเห็นในวันที่ 20 พ.ย. นี้ หากตนไม่ติดภารกิจอะไรก็จะเดินทางไปชี้แจงเอง