ภูมิธรรม หวั่น แบ่งผลประโยชน์พื้นที่อ้างสิทธิ์ลามศาลโลก ให้ระวังพูดเขตแดน
"ภูมิธรรม“ เรียกถกแบ่งผลประโยชน์พื้นที่อ้างสิทธิ์ไทย-กัมพูชา ทันทีหลัง ครม.ไฟเขียวนั่งหัวโต๊ะ JTC เตือนระวังพูดด้านเทคนิค หวั่น กระทบดินแดน หากอนาคตเรื่องถึงศาล เผยลงพื้นที่เกาะกูด โมเดลเดียวเขาพระวิหาร แสดงความเจ้าของ
15 พ.ย.2567 เวลา 09.00 น. ที่สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.)นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกและรมว.กลาโหม เข้าตรวจเยี่ยมสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (แจ้งวัฒนะ) โดยให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าจัดตั้งคณะกรรมร่วมเทคนิคฝ่ายไทย (JTC)ว่า ใกล้เรียบร้อยแล้ว กระทรวงต่างประเทศ เตรียมเสนอสนธิสัญญาและมีข้อเสนอไป ทั้งนี้ตนเตรียมเสนอให้กรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือเข้าร่วมด้วย เนื่องจากมีหน้าที่รับผิดชอบในการทำแผนที่ทางทะเลโดยตรงและมีความเข้าใจดี สามารถดูแลปกป้องผลประโยชน์ของประเทศได้ หรือ อาจจะต้องมีคนกลางเข้าร่วมด้วย เช่นผู้แทนจากสำนักงานกฤษฎีกา ซึ่งจะให้มีผู้ที่มีศักยภาพ เข้ามาดูเรื่องนี้ให้ครอบคลุม แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากเพราะต้องใช้เทคนิคระดับสูง
ดังนั้นการที่จะพูดอะไรออกไปจะต้องพูดด้วยความระมัดระวัง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคนิค เพราะเราไม่ได้รู้จริง ซึ่งจะมีผลต่ออธิปไตยและประโยชน์ของประเทศ หากในอนาคตมีความขัดแย้งหรือนำไปสู่การขึ้นศาลโลกก็จะต้องนำสิ่งต่างๆเหล่านี้มาประกอบการพิจารณา เพราะเราเคยมีประสบการณ์มาแล้วเกี่ยวกับประสาทพระวิหาร ดังนั้นการลงพื้นที่เกาะกูดจังหวัดตราด นอกจาก จะทำให้เห็นว่าเรามีกำลังทหาร ข้าราชการ อยู่ในพื้นที่แล้ว การที่ผู้บังคับบัญชาได้ลงพื้นที่ไปก็จะสามารถนำไปอ้างอิงได้ เช่นเดียวกับกรณีที่กัมพูชาอ้างผู้บังคับบัญชาลงพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าเกาะกูดนั้นอยู่ในอำนาจอธิปไตย เราเป็นเจ้าของที่นี่
อย่างไรก็ตามแต่ ยอมรับว่ายังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องของทรัพย์สินทางทะเล สินทรัพย์ของเราซึ่งบางฝ่ายเห็นว่าเป็นสินทรัพย์ของเราไม่ควรหยิบมาใช้ หากมองอีกด้านถ้าสามารถนำมาใช้ได้ ซึ่ง ประเทศไทยมีท่อก๊าซอยู่แล้วก็สามารถใช้ได้เลย ค่าเชื้อเพลิงลดลง ส่งผลไปถึงค่าไฟลดลงด้วย
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้บริเวณดังกล่าวเป็นทั้งแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่มาจากระบบฟอสซิล ซึ่งโลกกำลังเปลี่ยนแปลงมีความท้าทายใหม่ แนวโน้มการใช้พลังงานลดลง จากมูลค่าหลายล้านบาทก็หายไป แต่การเจรจายอมรับว่าไม่ง่าย
ส่วนจะได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้
สำหรับMOU44 เป็นเพียงกรอบการเจรจาเท่านั้น แต่กรอบดังกล่าวจะทำให้ข้อขัดแย้งเรื่องดินแดนจบโดยสันติวิธี หากไม่เดินตามกรอบนี้ก็จะเกิดภาวะ สงครามเอาปืนอาวุธมากระทำต่อกัน
ทั้งนี้ เชื่อว่าคนไทยรักแผ่นดินไทยข้าราชการกองทัพทุกคนก็เช่นเดียวกัน ไม่มีใครที่ไม่รักแผ่นดินไทย หรือจะเอาแผ่นดินไปให้คนอื่น เพียงแต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์
ส่วนการประชุมคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค(JTC)เกิดขึ้ เมื่อไหร่นั้นคงต้องรอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการและผ่านครม. ให้เรียบร้อยก่อนซึ่งยังไม่รู้ว่าตนจะได้นั่งเก้าอี้ประธานหรือไม่แม้นายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้ตนเป็นผู้รับผิดชอบก็ตามแต่อยากให้รอ ดูคำสั่งที่ชัดเจนก่อน หากชัดเจนแล้วตนก็จะเริ่มดำเนินการทันที