'ผบ.ตร.'ไร้กังวล'ฟูลมูนปาร์ตี้' เข้มคัดกรองต่างชาติ เข้า-ออกประเทศ
"ผบ.ตร." ยัน การข่าว”ฟูลมูนปาร์ตี้”ไร้กังวล เผยเฝ้าระวังเข้มข้น เน้นงานเชิงรุก คัดกรองต่างชาติ เข้า-ออกประเทศ
วันที่15 พ.ย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวการจัดกิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้อาจเกิดเหตุความวุ่นวายว่า จากการข่าวขณะนี้ยังเป็นเพียงข่าว ยังไม่มีอะไรน่ากังวล โดยตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจภูธรภาค 8 และประชาคมข่าวมีการประชุมร่วมกันเพื่อติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังอย่างเข้มข้น
ขณะนี้ยังไม่มีอะไรน่าวิตกกังวลยืนยันว่าเป็นเพียงข่าว ส่วนที่มีการนำเสนอข่าวของสื่อต่างประเทศว่าตำรวจไทยมีการแจ้งเตือนนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าใครแจ้งเตือนอะไรยังไง แต่เป็นเรื่องที่เมื่อมีสถานการณ์ต่างประเทศเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องปกติที่เจ้าหน้าที่และฝ่ายข่าว ที่มีหน้าที่ด้านความมั่นคงต้องมีการติดตามสถานการณ์และดูการข่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีผลกับประเทศไทยหรือไม่อย่างไร เรามีการติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดและขณะนี้ไม่มีอะไรน่ากังวล โดยตนเองได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจตราเชิงรุก พร้อมกำชับไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำรวจที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่าตนเองยังได้กำชับและได้พูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวแล้ว เนื่องจากชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย ก็จะต้องดูแลความปลอดภัยให้ดีที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจและเพื่อเป็นการดูงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์คของไทยต่อไป
โดยวานนี้(14 พ.ย.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) , ตำรวจภูธรภาค 6 ( ภ.6) และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ลาดตระเวนและตรวจตราบริเวณแนวชายแดนจังหวัดตาก (อ.แม่สอด) และจังหวัดพื้นที่แนวชายแดน ป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง หรือเดินทางออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ผ่านการตรวจอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พร้อมทั้งกำชับมาตรการ ดังนี้
1. บูรณาการด้านการข่าวฝ่ายความมั่นคง ทหาร ฝ่ายปกครองและประชาชนในพื้นที่
2. จัดชุดตรวจตรา ลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนป้องกันการข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย
3. ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตลอดแนวชายแดนและเส้นทางหลัก เส้นทางรอง เส้นทางการเดินทางให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั่วจังหวัดและพื้นที่ติดต่อ รอยต่อชายแดน ช่องทางธรรมชาติต่าง ๆ
4. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจคัดกรองคนต่างด้าวจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศและร่วมกับการท่าอากาศยานเพื่อตรวจคัดกรองคนต่างด้าวที่เดินทางโดยสายการบินภายในประเทศ
5. กรณีที่ตรวจพบคนต่างด้าวในพื้นที่จังหวัด ไม่ว่าจะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ จะต้องมีการพูดคุย ซักถาม สัมภาษณ์คนต่างด้าวทุกราย เพื่อให้เป็นไปตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ
6. ให้ ศพดส.ตร. และ กองการต่างประเทศ (ตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานความร่วมมือด้านการข่าว และให้ความช่วยเหลือกรณีที่มีข้อมูลความร่วมมือระหว่างประเทศ
โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.รอง ผบ.ตร. เข้าไปควบคุม กำกับ ดูแล การปฏิบัติและรายงานผลให้ทราบโดยด่วน
ทั้งนี้ นโยบายการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ เป็นนโยบายที่เร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาล กระทบต่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้บังคับใช้กฎหมายและดำเนินการอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และเข้มงวด ป้องกัน ปราบปรามกระทำความผิดให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง พัวพัน ประพฤติมิชอบ จะต้องมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาด