'วิลาศ' โชว์บันทึกข้อพิพาทเขากระโดง ปี 13 ชี้ชัด 'ชัย ชิดชอบ' ขออาศัย รฟท.

'วิลาศ' โชว์บันทึกข้อพิพาทเขากระโดง ปี 13 ชี้ชัด 'ชัย ชิดชอบ' ขออาศัย รฟท.

"วิลาศ" โชว์บันทึกข้อพิพาทเขากระโดง ปี 2513 ระหว่าง "การรถไฟ - ชัย ชิดชอบ" หลักฐานชัด "ชัย" ขออาศัยพื้นที่การรถไฟ ขณะที่ รมต.บางคนทำบัตรปชช.อาศัยอยู่เลขที่บ้าน ที่ดินเขากระโดง ใครจะกล้าไล่ เตือนขรก.ระวังจะเดือดร้อน กังขา รมต.บางคนระบุ ไม่ยอมเสียแม้แต่ ตรว. กลับไม่สั่งการ

15 พ.ย.2567 ที่รัฐสภา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร และอดีต สส.กทม. แถลงถึงกรณี กรมที่ดินทำหนังสือเลขที่มท. 0516.2(2)/22062 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567 เรื่องการเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่ายังไม่สมควรที่จะเพิกถอน หรือแก้ไข หนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดิน เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ไม่มีพยานหลักฐานยืนยันการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ของที่ดินของ รฟท.ว่า 

นายวิลาศ ระบุว่า เรื่องที่ดินเขากระโดง ทำไมฝ่ายการเมืองไม่มีการพูดถึง ก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารออกมาแถลงข่าวถึงคำพิพากษาของศาลฎีกาถือเป็นที่สุดไม่มีอะไรใหญ่กว่า ถึงขนาดรัฐมนตรีบางคนบอกว่าไม่ยอมเสียแผ่นดินแม้แต่ตารางวาเดียว แต่กลับไม่มีการสั่งการอะไร ขอเตือนถึงข้าราชการที่รับผิดชอบว่าให้ยึดถือตามกฎหมาย และคำพิพากษาของศาลฎีกา อย่าเกรงใจฝ่ายการเมือง ไม่เช่นนั้น วันหนึ่งตัวท่านจะเดือดร้อน

นายวิลาศ กล่าวอีกว่า จากที่ตนตรวจสอบพบว่า มีรัฐมนตรีบางคนทำบัตรประชาชนอาศัยอยู่เลขที่บ้านในที่ดินที่อยู่เขากระโดง แล้วข้าราชการที่ไหนกล้าไปไล่ ทั้งนี้เรื่องที่ดินเขากระโดงศาลฎีกาเคยตัดสินไปแล้ว 2 คดี ว่าเป็นที่ดินของรฟท.ก็ตาม

ส่วนอีกคดีเป็นคดีศาลอุทธรณ์ ภาค 3 ก็ยืนยันว่าเป็นที่ดินของ รฟท.ด้วยเช่นกัน จึงมีคำถามว่า ทำไมกรมที่ดินจึงกล้าทำหนังสือไม่เพิกถอนที่ดินดังกล่าวถึง รฟท. เท่ากับเป็นการโต้แย้ง หรือคัดค้านคำพิพากษาศาลฎีกาหรือไม่

"เรื่องเขากระโดงเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อน เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกาวันที่ 8 พ.ย.2462 กว่า 100 ปีแล้วดึงกันไปมา จนตอนนี้ยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงอะไรผิดอะไรถูก ใครจะต้องออกจากพื้นที่ หรือใครมีสิทธิที่จะอยู่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ผมจึงขอตั้งข้อสังเกตถึงกรมที่ดินว่า การที่เลขาธิการสำนักงานกฤษฎีกาออกมายืนยันว่า ที่ดินเขากระโดงเป็นที่ดินของ รฟท. ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา และคนที่ไปให้การเป็นพยานต่อศาล จะถือเป็นการให้การเท็จหรือไม่" นายวิลาศ กล่าวและว่า 

นอกจากนี้ การสร้างทางรถไฟสายโคราช-อุบลราชธานี กิโลเมตรที่ 375+650 มีการสร้างทางแยกไปอีก 8 กิโลเมตร เพื่อทำทางไปขนหินจากบ้านเขากระโดง ในจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อเอามาสร้างทางรถไฟสายดังกล่าว มีการออกเป็นพระราชกฤษฎีกา ปี 2562 การที่กรมที่ดินมีหนังสือแจ้ง รฟท.ว่าไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดง ถือเป็นการโต้แย้งต่อพระบรมราชโองการหรือไม่

"ที่สำคัญที่สุด มีผู้ส่งหนังสือเป็นเอกสารการบันทึกการประชุมร่วม เรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินเขากระโดง ลงวันที่ 9 พ.ย. 2513  ระหว่างนายชัย ชิดชอบ และเจ้าหน้าที่รฟท. รายละเอียดตามบันทึก ระบุว่า นายชัยขออาศัยในที่ดินดังกล่าวจากการรถไฟได้ และการรถไฟตกลงยินยอมให้อาศัย ซึ่งจะได้ทำสัญญาการอาศัยต่อไป เท่ากับว่า หนังสือฉบับนี้ นายชัยก็ยอมรับแล้วว่าไม่ใช่ที่ดินของท่าน แล้วทำไมกรมที่ดิน อยู่ดีๆ ไปออกหนังสือรับรองเช่นนั้นมา”  

นายวิลาศ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ จะติดตามเรื่องนี้ต่อไป และหากมีหลักฐาน พยานที่เกี่ยวข้อง จะมาแถลงต่อสื่อเพิ่มเติม และขอย้ำว่าเมื่อศาลฎีกาตัดสินแล้วก็ต้องยึดไปตามนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องที่พยายามเบี่ยงเบน มีเจตนาเช่นไร สังคมมองออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลง นายวิลาศได้นำภาพถ่ายทางอากาศแผนที่เขากระโดง ซึ่งครอบคลุมที่ดิน 5,083 ไร่ มาแสดง โดยมีการแบ่งเป็นพื้นที่สนามฟุตบอล บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์(1991)จำกัด บ้านพักของอดีตรัฐมนตรี และบ้านพักของเครือญาติตระกูลใหญ่ในบุรีรัมย์

รวมถึงภาพถ่ายทางอากาศเปรียบเทียบเมื่อปี 2497 ขณะที่เป็นที่ดินรกร้างที่อยู่ในอาณัติของ รฟท.กับภาพถ่ายดาวเทียมในปัจจุบันที่ถูกครอบครอง